BMW จัดงาน BMW NEXTGen ที่สำนักงานใหญ่ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี เพื่อเปิดตัวรถต้นแบบรุ่นล่าสุด ในชื่องาน BMW Vision M NEXT and BMW Motorrad Vision ซึ่งเป็นการเปิดตัวรถต้นแบบของ BMW ในอนาคตที่เน้นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าผู้บริหาร BMW กล่าวว่า BMW จะมีการเปิดตัวรถไฟฟ้าถึง 25 รุ่น ภายในปี 2023 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมถึง 2 ปี และในจำนวน 25 รุ่นนั้น ครึ่งหนึ่งเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน โดยวางเป้าหมายว่า จะมียอดจำหน่ายรถไฟฟ้ามากขึ้นกว่า 30 เปอร์เซนต์/ปี ในปี 2025 และยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จะมากขึ้นเป็น 2 เท่า ระหว่างปี 2019-2021 BMW ได้แนะนำรถต้นแบบ BMW Vision M NEXT รถสปอร์ทต้นแบบ ที่ไม่ได้ผลิตขึ้นจากพื้นฐานของ BMW รุ่นปกติ แต่เป็นรถ Plug-in Hybrid (PHEV) โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยในการส่งกำลังถึง 2 ตัว ไปยังล้อคู่หน้าและคู่หลัง โดยเสริมกำลังจากเครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่จะทำให้รถคันนี้ มีแรงม้ารวมสูงสุดถึง 600 แรงม้า และสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในระยะเวลาเพียง 3 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้กว่า 300 กม./ชม. และสามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ไกลถึง 100 กม. ทางด้านการขับขี่ BMW Vision M Next ถูกออกแบบให้ขับขี่ด้วยระบบ EASE+BOOST โดยแบ่งออกเป็นโหมด EASE โดยตัวรถสามารถขับขี่ด้วยระบบอัตโนมัติ คนขับไม่ต้องกังวลในการขับเคลื่อน ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และเพลิดเพลินในการนั่งพูดคุยกับผู้ร่วมเดินทาง ในขณะที่โหมด BOOST จะเป็นโหมดการขับขี่ ที่คนขับสามารถสนุกกับสมรรถนะของรถได้อย่างเต็มที่ เท่าที่ต้องการ ปัจจุบัน BMW Group ดำเนินตามแผนหลักที่เรียกว่า D+ACES ซึ่งประกอบไปด้วย งานด้านการออกแบบ (Design), การขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving), การเชื่อมต่อ (Connectivity), การใช้พลังงานไฟฟ้า (Electrification) และบริการต่างๆ (Services) ซึ่งรถ BMW ทุกรุ่นที่จะเปิดตัวในอนาคต ก็จะยึดถือ 5 ข้อนี้ ในการออกแบบ 2022 BMW i4 ที่จะเป็นคู่แข่งสำคัญของ Tesla Model 3 โดยใช้พแลทฟอร์มเดียวกันกับ 3-Series และ 4-Series (Cluster Architecture หรือ CLAR) i4 จะมีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ขับเคลื่อนล้อทุกล้อ และสามารถขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าได้ระยะทางสูงสุด 563 กม. มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4 วินาที จากภาพถ่าย Spyshot ของ i4 แสดงรูปร่างที่ค่อนข้างธรรมดาคล้ายกับ 4-Series Gran Coupe โฉมปัจจุบัน และการออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด i Vision Dynamics จากปี 2560
บทความแนะนำ