ศักดิ์เฉลิม สิทธิวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ ปตท. เปิด “ศูนย์บริหารจัดการเอนจีวีภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงหยุดซ่อมบำรุงแหล่งแกสธรรมชาติเจดีเอ เอ 18” เพื่อบริหารจัดการปริมาณแกสเอนจีวีในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง และติดตามการซ่อมบำรุงของผู้ผลิตแกสฯ ระหว่างวันที่ 7-23 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดผู้ผลิตได้ซ่อมบำรุงแหล่งแกส เจดีเอ เอ 18 แล้วเสร็จ และจ่ายแกสฯ เข้าสู่ระบบได้ตั้งแต่เวลา 07.38 น. ของวันที่ 21 กรกฎาคม 2562 โดยโรงไฟฟ้าจะนะสามารถรับแกสฯ ได้ตั้งแต่เวลา 13.41 น. ของวันเดียวกัน และสถานีแกสธรรมชาติหลักจะนะ จ. สงขลา สามารถจัดส่งแกสเอนจีวีเพื่อบริการในพื้นที่ได้ตั้งแต่ 24 กรกฎาคม 2562 ทำให้สถานการณ์แกสเอนจีวีภาคใต้ตอนล่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พร้อมให้บริการผู้ใช้เอนจีวีแล้ว
ในระหว่างที่ผู้ผลิตแกสฯ หยุดซ่อมบำรุงนั้น ปตท. ได้ประสานงานกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และจัดส่งเชื้อเพลิงทดแทนได้เพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้า ในส่วนของแกสเอนจีวี ปตท. ได้จัดส่งแกสฯ ให้กับสถานีบริการเอนจีวีในพื้นที่ภาคใต้ได้ตามปกติ ทำให้ผู้ใช้รถแกสเอนจีวีสามารถใช้บริการได้ต่อเนื่องเช่นเดียวกับช่วงก่อนผู้ผลิตแกสฯ หยุดซ่อมบำรุง โดย ปตท. นำนวัตกรรมระบบแอลเอนจี เอสอาร์เอม (Storage and Regasification Mobile Package Unit หรือ LNG SRM) มาใช้งาน ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นการขนส่งแกสธรรมชาติในรูปของแกสธรรมชาติเหลว (LNG) แล้วแปรสภาพเป็นแกสเอนจีวี ณ สถานีแกสธรรมชาติหลักจะนะ ทำให้มีแกสเอนจีวีเพียงพอ พร้อมให้บริการกับผู้ใช้รถแกสเอนจีวีตลอดช่วงที่ผู้ผลิตแกสฯ หยุดซ่อมบำรุง โดยการนำระบบ LNG SRM มาใช้งานในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง
"ปตท. ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ใช้รถแกสเอนจีวีในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้ใช้พลังงานสามารถสอบถามข้อมูล หรือการให้บริการเพิ่มเติม ได้ทาง PTT Contact Center โทร. 1365 ตลอด 24 ชั่วโมง"