Ford เตรียมการโอนทรัพย์สินในประเทศอินเดีย ให้แก่บริษัทร่วมทุน Mahindra & Mahindra Ltd. หลังไม่ประสบความสำเร็จในการทำตลาด ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มาอย่างยาวนานMahindra ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของอินเดีย จะถือหุ้น 51 % ในบริษัทแห่งใหม่นี้ โดย Ford ยังคงสิทธิการลงคะแนนเสียง รวมทั้งจำนวนของกรรมการในบริษัท จะประกาศบริษัทร่วมทุนอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ แต่ทั้งหมดนี้ไม่รวมถึง แผนกธุรกิจระดับโลกของ Ford และโรงงานประกอบเครื่องยนต์ ที่ผลิตเพื่อการส่งออกที่เมือง Sanand ค่าใช้จ่ายในการเลิกจ้างพนักงานของ Ford น่าจะต่ำกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 60 พันล้านบาท จากการที่สามารถทำส่วนแบ่งการตลาดในอินเดีย เพียง 3 % โดยจะมอบหมายให้ Mahindra เป็นผู้ดำเนินการต่อในส่วนที่เหลือ ซึ่งการถอนตัวออกจากอินเดียในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในโครงการปรับโครงสร้างการขายและการผลิตของ Jim Hackett ซีอีโอ ที่มีมูลค่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และลดการขาดทุนจากการประกอบการในต่างประเทศ Ford ประสบปัญหาในการเข้าสู่ตลาดอินเดียที่มีค่ายรถญี่ปุ่น Suzuki ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด ด้วยรถประหยัดพลังงาน โดยเมื่อ 2 ปีที่แล้ว GM ก็หยุดแผนการลงทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอินเดีย และหยุดการจำหน่าย Chevrolet เช่นกัน ขณะที่สภาพตลาดในอินเดีย โดยรวม 10 เดือนแรกของปี ก็ประสบปัญหากำลังซื้อหดหาย ทำให้ผู้ผลิตต้องลดกำลังการผลิต รวมทั้งเลิกจ้างพนักงานบางส่วน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าวเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ว่าข้อตกลงระหว่าง Ford และ Mahindra ยังอยู่ขั้นตอนการพิจารณาในรายละเอียด บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้ จะถือครองทรัพย์สินส่วนใหญ่ Ford ในอินเดีย รวมทั้งโรงงานประกอบรถยนต์ 2 แห่ง Ford นับเป็นผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์รุ่นแรกๆ ที่เข้าสู่ตลาดอินเดีย สมัยที่สภาวะเศรษฐกิจเติบโต ในปี 2469 และหยุดดำเนินกิจการในปี 2493 ไปครั้งหนึ่งแล้ว โฆษกของ Ford ระบุในแถลงการณ์ว่า “Ford ยังคงดำเนินการผลิต และจำหน่ายรถยนต์ในอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่อันดับที่ 4 ของโลก และจะดำเนินการต่อไป” Lori Arpin โฆษก โดยปฏิเสธที่จะเปิดเผยในรายละเอียด แหล่งข่าวระบุว่า ข้อตกลงนี้ จะทำให้ Mahindra สามารถจำหน่ายรถยนต์ Ford ในตลาดเกิดใหม่ ภายใต้ยี่ห้อของตนเอง โดยก่อนหน้านี้ Ford และ Mahindra ร่วมมือกันในการพัฒนารถอเนกประสงค์ขนาดกลางสำหรับขายในอินเดีย