ระเบียงรถใหม่
Nissan เปิดตัวรถไฟฟ้า Ariya พร้อม Logo Brand ใหม่
Ariya (อารียา) รถครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100 % จาก Nissan (นิสสัน) เปิดตัวไปแล้วในญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดดเด่นด้วยแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลัง และเทคโนโลยีระบบการขับขี่อัตโนมัติ รวมถึงแบทเตอรีแบบใหม่ ที่เพิ่มระยะการขับขี่ให้ไกลมากขึ้น ด้วยระยะทางการขับขี่สูงสุดถึง 610 กิโลเมตร (ภายใต้มาตรฐานการทดสอบรถยนต์ WLTP จากประเทศญี่ปุ่น)Makoto Uchida ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nissan และ Ashwani Gupta ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (Nissan’s chief operating officer) ได้เปิดตัว Nissan Ariya บนโลกออนไลน์ ให้แก่ผู้คนทั่วโลก ณ Nissan Pavilion เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น โดย Ariya จะเป็นรุ่นบุกเบิกของบแรนด์ Nissan ในก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ด้วยระยะเวลาที่เหมาะสม ประกอบกับวิสัยทัศน์ที่ต้องการก้าวสู่ยุคดิจิทอล ทำให้ Nissan ตัดสินใจเปลี่ยนโลโกอีกครั้ง โดย Nissan Ariya จะเป็นรถรุ่นแรกที่จะได้ใช้โลโก Nissan แบบใหม่ การออกแบบโลโกใหม่นั้น ยังคงยึดมั่นในความเชื่อของ Yoshisuke Aikawa ผู้ก่อตั้งบริษัทฯ ที่เคยบอกว่า “Shisei tenjitsu o tsuranuku” แปลว่า หากคุณมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า แม้แต่พระอาทิตย์ก็จะสามารถบุกทะลวงได้ โดยโลโกใหม่นั้น ประกอบขึ้นจากไฟ LED 20 ดวง ซึ่งตรงกับปีที่ Nissan มีการปรับเปลี่ยนโลโก โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเปลี่ยนแปลง NEXT ที่มีทิศทางเชิงรุกเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีแผนที่เปิดตัวรถ 12 รุ่นใหม่ ภายใน 18 เดือนข้างหน้า และในปี 2566 Nissan จะมีรถยนต์พลังไฟฟ้าล้วน 8 รุ่น ออกวางจำหน่าย Ariya เป็นรถ Compact Crossover SUV ที่พัฒนาขึ้นจากแนวคิดหลัก 3 ประการ ภายใต้เทคโนโลยี Nissan Intelligent Mobility ประกอบด้วย ระบบขับเคลื่อนอันทรงพลัง, ความล้ำหน้าระบบช่วยในการขับขี่ และการผสมผสานอินเตอร์เฟสที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์และรถยนต์ ภายในห้องโดยสาร ได้รับการออกแบบภายใต้ปรัชญาใหม่ Timeless Japanese Futurism หรือ ความทันสมัยที่ยังคงมีกลิ่นอายของความเป็นชนชาติญี่ปุ่นอยู่ จุดเด่น คือ จอ Touch Screen ขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว ซึ่งถูกจัดวางโดยคำนึงถึงการใช้งานจริง เหมาะกับสายตาของมนุษย์ ที่มีการมองจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งขณะขับรถ โดยไม่เสียสมาธิ ที่เท้าแขนบริเวณคอนโซลกลางสามารถปรับระดับให้เหมาะกับสรีระผู้ขับได้ เบาะนั่งเป็นแบบ Zero Gravity เพิ่มความสบายในทุกการขับขี่ ทีมออกแบบของ Nissan ได้ใช้ประโยชน์ของพแลทฟอร์มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทำให้ Ariya มีพื้นรถที่เรียบและโล่ง ส่วนประกอบของระบบส่งกำลังที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด และมีน้ำหนักเบา ทำให้ห้องโดยสารมีขนาดความกว้างมากกว่าเมื่อเทียบกับรถยนต์ในกลุ่มเดียวกัน ตำแหน่งแบทเตอรีที่ตั้งอยู่ใต้กึ่งกลางของตัวรถทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ และมีการกระจายน้ำหนักใกล้เคียงกันทั้งด้านหน้า และด้านหลัง บวกกับช่วงล่างด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ ทำให้เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ และความสะดวกสบาย ลดการสั่นสะเทือน และเสียงรบกวนเข้าสู่ห้องโดยสาร มิติตัวถัง ยาว 4,595 มม. กว้าง 1,850 มม. สูง 1,655 มม. ระยะฐานล้อ 2,775 มม. มีน้ำหนัก 1,900-2,200 กก. ความจุสัมภาระ 466 ลิตร (ขับเคลื่อน 2 ล้อ)/408 ลิตร (ขับเคลื่อน 4 ล้อ) Nissan Ariya มีระบบขับเคลื่อนให้เลือกทั้งแบบ 2WD และ AWD โดยแต่ละรุ่นจะแยกเป็น 2 รุ่นย่อย ตามความจุแบทเตอรี รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดี่ยว - มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้กำลังสูงสุด 215 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 30.5 กก.-ม. ใช้แบทเตอรีขนาด 65 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งระยะทางได้สูงสุด 450 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที - มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว กำลังสูงสุด 239 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 30.5 กก.-ม. ใช้แบทเตอรีความจุ 90 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งระยะทางได้สูงสุด 610 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.6 วินาที ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ติดตั้งที่เพลาหน้า/หลัง - มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังรวมทั้งระบบ 355 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 57.0 กก.-ม. ใช้แบทเตอรีความจุ 65 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งระยะทางได้สูงสุด 430 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.4 วินาที - มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังรวมทั้งระบบ 389 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 61.14 กก.-ม. ใช้แบทเตอรีความจุ 90 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งทำระยะทางได้สูงสุด 580 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.1 วินาที Ariya สามารถวิ่งต่อได้สูงสุด 375 กม. ด้วยการชาร์จด่วนเพียง 30 นาที โดยใช้ระบบชาร์จ CHAdeMO ของญี่ปุ่น สามารถชาร์จไฟได้ถึง 130 กิโลวัตต์ ( ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และแบทเตอรี) ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All-Wheel Drive เป็นระบบขับเคลื่อนใหม่ที่ Nissan ใช้ชื่อว่า e-4ORCE ที่มีระบบการกระจายแรงบิดระหว่างล้อซ้าย/ขวา เพลาหน้า/หลัง ที่ Nissan พัฒนามาจากระบบแรงบิดแยก ATTESA E-TS ที่ใช้งานอยู่ใน Nissan GT-R และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ Intelligent 4x4 Systemใน Nissan Patrol นอกเหนือจากการปรับแรงบิดด้านหน้า และด้านหลังให้เหมาะสมแล้ว ระบบยังใช้การควบคุมเบรคแบบอิสระแต่ละล้อทั้ง 4 ข้าง เพื่อเพิ่ม/ลดแรงให้เหมาะสม ทำให้การเข้าโค้งเป็นได้ดังใจของผู้ขับขี่อย่างแม่นยำ โดยมีล้ออัลลอย 19 นิ้ว จับคู่ยาง 235/55 Ariya ให้ความสะดวกสบาย และความมั่นใจในการขับขี่ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดของ Nissan ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ProPILOT 2.0และ ProPILOT Remote Park กล้อง 7 ตัวของระบบเรดาร์ และเซนเซอร์อุลทราโซนิคโซนาร์ (Ultrasonic Sonar Sensors) 12 ตัว ทำงานร่วมกัน ตรวจจับเส้นจราจร และวัตถุรอบตัวรถ ช่วยให้ขับรถตามเส้นทางที่กำหนดไว้พร้อมปรับตามสภาวะการจราจร นอกจากนี้ยังทำการเปลี่ยนเลนอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพเพียงแค่กดปุ่มเดียว มีเสาอากาศหูฉลามเพื่อรับตำแหน่ง GPS ที่แม่นยำ ProPILOT 2.0 ใช้ระบบนำทาง และข้อมูลแผนที่ 3 มิติ ความละเอียดสูง ในการตรวจจับพื้นผิวถนน ทิศทาง และการจำกัดความเร็ว และปรับความเร็วของยานพาหนะให้เหมาะสมเพื่อการเดินทางที่ปลอดภัย มีระบบตรวจสอบคนขับที่ติดตั้งอยู่ที่คอพวงมาลัยเพื่อยืนยันว่าผู้ขับขี่นั้นคงยังใส่ใจถนนข้างหน้า โดยระบบ ProPILOT จะแสดงสถานะในห้องโดยสารด้วยระบบไฟส่องสว่างรอบข้าง สีขาว หมายถึง การทำงานด้วยมือปกติ หรือใช้ Intelligent Cruise Control สีเขียว หมายถึง ระบบช่วยการขับขี่แบบต้องใช้มือช่วย (Hands-on Assisted Driving) และสีฟ้า แสดงว่าเปิดใช้งานฟังค์ชันช่วยการขับขี่ พร้อมระบบช่วยเปลี่ยนเลน โดยไม่ต้องใช้มือ (Hands-off Driving Function with Lane-Change Assist) เมื่อขับรถในโหมด Hands-on พร้อมเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ProPILOT จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลแผนที่ 3 มิติ ที่ครอบคลุมเพื่อให้รถอยู่ในเลนที่มีความแม่นยำมากขึ้น ข้อมูลแผนที่ยังช่วยเพิ่มความช่วยเหลือผู้ขับขี่ในระหว่างการเข้าโค้งโดยใช้ข้อมูลความโค้งของถนน และปิดมุมบอดได้อย่างปลอดภัย ช่วยลดความเครียดของผู้ขับขี่ เมื่อถึงปลายทาง ProPILOT Park ช่วยลดความเครียดจากการจอดรถโดยช่วยจอดรถเสร็จสมบูรณ์ใน 3 ขั้นตอนง่าย ในการจอดรถคนขับสามารถออกมาอยู่ด้านนอกแล้วใช้กุญแจอัจฉริยะ กดปุ่มสั่งการโดยยืนอยู่ในระยะ 6 เมตร สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ออกจากหรือเข้าสู่ยานพาหนะได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องบิดตัวเพื่อออกจากรถ เมื่อต้องจอดรถในที่แคบ e-Pedal แป้นเดียว ได้ทั้งคันเร่ง และเบรค การขับรถยนต์ที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ จะมีแป้นควบคุมเพียง 2 แป้น คือ คันเร่ง และเบรค เมื่อขับขี่ในสภาพการจราจรที่หนาแน่น ผู้ขับต้องสลับเท้าไป/มาในการเหยียบคันเร่ง และเบรคอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลานาน จึงทำให้เกิดความเมื่อยล้า อีกทั้งในกรณีฉุกเฉินที่ต้องการให้หยุดรถอย่างรวดเร็ว ต้องเสียเวลาในการถอนเท้าออกจากแป้นคันเร่ง เพื่อมาเหยียบเบรค 1-2 วินาที ซึ่งการควบคุมรถโดยเทคโนโลยี e-Pedal ได้เข้ามาตอบโจทย์สำหรับผู้ขับรถในเมืองเป็นประจำ หลักการของ e-Pedal เมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มเลือกโหมดนี้ “แป้นคันเร่ง” จะเปลี่ยนการทำงานเป็น 2 ลักษณะ คือ คันเร่ง และเบรค ทำงานอยู่ในแป้นเดียวกัน เมื่อกดคันเร่งรถจะขับเคลื่อนไปข้างหน้า ตามน้ำหนักเท้าที่กดลงไปที่คันเร่ง แต่ถ้าหากค่อยๆ ถอนคันเร่ง ระบบจะสั่งการให้ชะลอเบรค ตามการถอนเท้าออกจากแป้นคันเร่งด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้ไม่ต้องถอนเท้าออกมาจากแป้นคันเร่ง และเบรค ซึ่งในช่วงแรกผู้ขับต้องปรับตัวในการขับขี่เล็กน้อย ให้เกิดความคุ้นชิน กรณีที่ผู้ขับขี่ปรับตัวจนคุ้นชินกับระยะเบรคในการใช้ e-Pedal แล้วรู้สึกว่าระยะเบรคไม่เพียงพอ ก็สามารถยกเท้าไปเหยียบแป้นเบรคเพิ่มได้ (ใช้ในสภาวะฉุกเฉิน) เสริมด้วยชุดระบบความปลอดภัย Nissan Safety Shield ประกอบด้วย เทคโนโลยีกล้องรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor, ระบบ Intelligent Forward Collision Warning ช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า, ระบบ Intelligent Emergency Braking ช่วยเบรคในขณะฉุกเฉิน และระบบ Rear Automatic Emergency Brake ช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย การเชื่อมต่อประสานระหว่างมนุษย์ กับเครื่องจักร และเฟิร์มแวร์ ระบบเทคโนโลยีช่วยเหลือส่วนบุคคลอัจฉริยะของ Nissan มีระบบจดจำเสียงขั้นสูง สามารถใช้แอพพลิเคชันสมาร์ทโฟน NissanConnect เพื่อตั้งค่าพโรแกรมล่วงหน้าต่างๆ เช่น การควบคุมระบบปรับอากาศได้ Nissan Ariya มีกำหนดวางขายในญี่ปุ่นในช่วงกลางปี 2564 ด้วยราคาเริ่มต้นโดยประมาณ 5 ล้านเยน หรือราวๆ 1.5 ล้านบาท และมีแผนที่จะวางจำหน่ายในยุโรป อเมริกาเหนือ และจีน ในช่วงปลายปี 2564 ส่วนจะมาทำตลาดในประเทศไทยหรือไม่ ต้องมาคอยลุ้นกันครับ
ABOUT THE AUTHOR
พ
พรเทพ คงลาภอำนวย
ดูคุณพ่อจนขับรถได้ตั้งแต่ 8 ขวบ หลงใหลยานยนต์ จนได้วุฒิ Automotive Engineering ติดตัว ปัจจุบันเป็น บก.นักเขียน นักทดสอบรถ และ Instructor ที่พร้อมถ่ายทอดความรู้ แบบไม่มีกั๊ก !
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
คำค้นหา