Ineos ค่ายผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ได้เปิดตัวรถขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่นล่าสุด ในชื่อ Grenadier ที่ออกแบบ รูปทรงบึกบึนเหมือนกับ Land Rover Defender ในอดีต หลังจากชนะคดีความทรัพย์สินทางปัญญามาหมาดๆIneos Grenadier เดิมเป็นชื่อผับใน Belgravia กรุงลอนดอน ที่ Sir Jim Ratcliffe ประธาน Ineos เกิดไอเดียที่จะเริ่มต้นโครงการผลิตรถคันนี้ ด้วยแนวคิดผลิตรถที่สามารถเดินทางไปในทุกสภาพถนน โดยเฉพาะในแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ รูปทรงของ Grenadier คล้ายคลึงกับ Defender ในอดีต ทั้งรูปทรงของกระจกบังลมหน้า ติดตั้งในแนวตั้ง ประตู หรือกระจังหน้า ฝากระโปรงหน้าแบบเรียบๆ ไฟส่องสว่างทรงกลม พร้อมวินช์ ติดตั้งใต้กันชนหน้า การออกแบบ Ineos Grenadier มีการนำเอาบางส่วนของ Mercedes-Benz G-Class เข้ามาใช้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เพราะใช้ผู้ผลิตที่ร่วมทุน Magna Steyr วิศวกรจากออสเตรีย ที่รับจ้างผลิตรถยนต์มาแล้วหลายยี่ห้อ โดยเริ่มสายการผลิต Ineos Grenadier เมื่อปี 2561 Ineos Grenadier ออกแบบโดย Toby Ecuyer จบทางด้านสถาปัตย์ แต่หันมาเอาดีทางการออกแบบเรือยอชท์ และทำหน้าที่ออกแบบรถยนต์เป็นครั้งแรก แม้ว่าจะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน และต้องหาความรู้จากการศึกษารถขับเคลื่อน 4 ล้อ ในอดีต นับแต่ Unimogs ที่ใช้ทางทหาร ไปจนถึงเครื่องบิน รถลาก และรถแวน สายการผลิต Grenadier รูปแบบตัวถังวางบนแชสซีส์ทรงขั้นบันได สามารถรับน้ำหนักได้ 1 ตัน และฉุดลากได้ 3.5 ตัน ติดตั้งกล่องเก็บเครื่องมือเอาไว้ด้านหลัง เสริมจุดยึดภายนอกเพิ่มเติม โดยประตูด้านหลังในแบบแนวตั้ง ที่เปิดได้กว้างขวาง เพื่อการขนส่งอุปกรณ์ขนาดใหญ่ พร้อมติดตั้งยางอะไหล่ไว้ด้านนอกประตูด้วย และฝาตัวถังที่ครอบล้อคู่หน้า ออกแบบแนวเรียบ สามารถขึ้นไปนั่ง หรือวางแก้วกาแฟ แลพทอพ เพื่อการทำงาน ได้อย่างสบาย แม้ว่าจะยังไม่เปิดเผยภาพภายใน แต่วิศวกร ก็ระบุว่า แน่นอนว่าต้องไม่ลืมความหรูหราตามแบบรถยนต์ในศตวรรษนี้ มีที่วางแขนภายใน ระบบการเชื่อมต่อ จอทัชสกรีน และสิ่งต่างๆ ที่จะพบได้ในรถยนต์รุ่นปัจจุบัน อีกสิ่งหนึ่งที่ Ineos ไม่ลืม คือการตกแต่งหลังจากซื้อรถยนต์ไปแล้ว ที่จะต้องมีบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เพิ่มเติม Grenadier ได้เสริมจุดติดตั้งอุปกรณ์ตกแต่งเอาไว้ในแชสซีส์ และส่วนของตัวถัง เพื่อความสะดวกในการติดตั้งเอาไว้เรียบร้อย โดยยินดีให้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ ได้พัฒนาตามแนวคิดของตนเองโดยอย่างเสรี Ineos ลงนามในสัญญาเป็นพันธมิตรกับ BMW ในการจัดหาเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ความจุ 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ และเครื่องยนต์ดีเซล มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบส่งกำลัง ZF แบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ อย่างเดียว ไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือก Ineos ระบุว่า รถคันแรกจะส่งถึงมือผู้บริโภคได้ภายในปี 2565 ต้องหลังจากผ่านการวิ่งทดสอบ 1.2 ล้านไมล์ หรือประมาณ 1.9 ล้านกม. เรียบร้อยแล้ว ด้วยราคาคันละ 50,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2 ล้านบาท