ยังคงจำกันได้ ถึงการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ ที่สามารถบินขึ้น/ลงได้ในแนวดิ่ง ซึ่งวิศวกรที่สำเร็จจาก MIT ทั้งหมด 5 คน ร่วมกันพัฒนา เมื่อปี 2549 ในชื่อ Terrafugia และท้ายที่สุด Zhejiang Geely Holding Group ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็เข้ามาซื้อกิจการไปเมื่อปี 2560รายงานข่าวจาก Xinhua ระบุว่า Terrafugia ได้ทำการควบรวมกับนักพัฒนาน้องใหม่ ที่พัฒนาอากาศยานชนิดดโรน ในชื่อ AOSSCI เพื่อจัดตั้งบริษัทแห่งใหม่ Aerofugia Technology (Chengdu) Co., Ltd. ภายใต้ร่มธงของ Geely เช่นเดิม โดยมี Jing Chao เป็น ซีอีโอ Jing Chao ระบุ พร้อมแจ้งว่า จะทำการพัฒนาอากาศยาน ที่ไม่ต้องมีคนบังคับ (Unmanned Aerial Vehicles: UAV) ซึ่งเป็นแนวทางในการทำงานว่า “Aerofugia จะทำหน้าที่พัฒนาอากาศยานพลังไฟฟ้า ที่สามารถบินขึ้น/ลงได้ในแนวดิ่ง และขับเคลื่อนได้ด้วยตนเอง ซึ่งเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก” การควบรวมในครั้งนี้ เท่ากับเป็นการรวมเอา 2 บริษัท ที่มีแนวทางการทำงานเดียวกัน เพื่อนำมาเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเทคโนโลยี เสริมความความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ ความสามารถในการค้นคว้าและวิจัย และที่สำคัญ คือ ลดค่าใช้จ่ายได้จำนวนมาก เมื่อปี 2560 Zhejiang Geely Holding Group ซึ่งเป็นเจ้าของ Volvo Cars, Lotus Cars และ CEVT ผู้พัฒนาเทคโนโลยีล่าสุด เข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ Terrafugia ที่ประสบปัญหาด้านเงินทุน อันเนื่องจากต้องใช้เงินจำนวนมาก ในการพัฒนาให้ได้อากาศยานต้นแบบ ที่พร้อมจะขึ้นสายการผลิต แม้ว่าจะสามารถพัฒนาอากาศยานต้นแบบ TF-2A จนทำการบินได้แล้วก็ตาม TF-2A ใช้วัสดุสังเคราะห์ในการพัฒนาลำตัว ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ความยาวปีก 4.5 เมตร ออกแบบให้สามารถบินขึ้น/ลงในแนวดิ่ง พร้อมรับน้ำหนัก 60 กก. สามารถเดินทางด้วยความเร็วราว 100 กม./ชม. นอกจากนี้แล้ว Zhejiang Geely Holding Group ยังตกลงใจที่จะร่วมลงทุนในผู้พัฒนาอากาศยาน Volocopter GmbH ที่มีสำนักงานอยู่ที่ เยอรมนี และประสบความสำเร็จในการทดสอบการบินที่ประเทศฟินแลนด์ Li Shufu ซีอีโอ Zhejiang Geely Holding Group ระบุว่า “Geely กำลังเปลี่ยนแปลงจากผู้ผลิตยานยนต์ ไปสู่ผู้นำในเทคโนโลยีของการขับเคลื่อนในอนาคต”