Waymo ผู้พัฒนายานยนต์ไร้คนขับ ตกลงร่วมเป็นพันธมิตรกับ Daimler ในการพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับ ให้มีความสามารถในระดับ 4 ที่สามารถรับมือกับสภาพการขับขี่ได้ในทุกสถานการณ์แม้ว่าจะไม่ค่อยมีข่าวคราวของ Mercedes-Benz ในการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับ ซึ่งเป็นแนวโน้มให้ค่ายรถยนต์อื่น ที่กำลังพัฒนากันอย่างรวดเร็ว แต่ในที่สุด ค่ายดาวสามแฉก ก็ออกแถลงการณ์ในความร่วมมือกับค่ายผู้พัฒนายานยนต์ไร้คนขับ จะนำรถบรรทุกที่มีความสามารถในการขับเคลื่อนแบบไร้คนขับ ออกจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับนี้ Waymo กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาในเมืองฟีนิกซ์ มลรัฐอริโซนา และเป็นครั้งแรกนำออกให้บริการแล้ว ในแบบ Ride Sharing หรือการแบ่งปันกันใช้รถยนต์ ในแถลงการณ์ระบุว่า “รถบรรทุก Freightliner Cascadia ที่ติดตั้งระบบยานยนต์ไร้คนขับของ Waymo ภายในปีหน้า สามารถออกให้บริการในสหรัฐอเมริกาได้” และ “Waymo และรถบรรทุกของ Daimler จะขยายความร่วมมือไปยังตลาดแห่งอื่น หรือรถบรรทุกยี่ห้ออื่นภายในเวลาอันใกล้นี้” แต่ในแถลงการณ์ไม่ได้ระบุระยะเวลา ในอดีต Daimler ได้มีการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับด้วยตนเองมาก่อนหน้านี้ รวมทั้ง Mercedes-Benz ได้แนะนำรถรุ่น S-Class รวมทั้งร่วมมือกับสนามบินในชตุทท์การ์ท ในการจัดการบริการนำรถไปจอดโดยไม่ต้องใช้คนขับ ด้วยความร่วมมือกับ Bosch อยู่แล้ว ด้าน Waymo ใช้รถในการทดสอบระบบยานยนต์ไร้คนขับ ส่วนใหญ่เป็น Chrysler Pacifica John Krafcik ซีอีโอ Waymo กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นในความสามารถด้านวิศวกรรมของ Daimler และเป็นรถบรรทุกที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก จึงได้ร่วมมือ เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยบนท้องถนน และความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นทั่วโลก” รถบรรทุก Daimler ทำการทดสอบด้านยานยนต์ไร้คนขับมานับตั้งแต่ปี 2558 และความร่วมมือกับ Waymo ครั้งนี้ ทำให้รถบรรทุกของ Daimler มีความสามารถในการเดินทางแบบยานยนต์ไร้คนขับถึงระดับ 4 รถบรรทุก Freightliner Cascadia จะติดตั้งระบบปฏิบัติการของ Waymo โดยใช้รถหัวลากใน คลาสส์ 8 ที่มีระบบความปลอดภัย อาทิ ระบบช่วยเบรค, ระบบควบคุมความเร็ว, ระบบเตือนการเปลี่ยนเลน และระบบควบคุมให้อยู่ในเลน เป็นต้น