รายงานข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า เมื่อปี 2563 ค่าย Ford ประกาศความเป็นพันธมิตรกับ Volkswagen และแต่ละฝ่ายต่างก็มุ่งหวังที่จะได้ความชำนาญทางวิศวกรรม ที่ฝ่ายตนเองยังไม่ถนัด โดย Volkswagen จะได้รับเทคโนโลยีของรถกระบะขนาดกลางจากพื้นฐานของ Ford Ranger ขณะที่ Ford สามารถนำโครงสร้างพื้นฐาน MEB ไปใช้ในการพัฒนา ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี พลังงานไฟฟ้า ซึ่งวางตำแหน่งไว้ต่ำกว่า Ford Mustang Mach-Eรถยนต์ที่จะเกิดจากความร่วมมือกันครั้งนี้ ทางด้าน Ford เรียกรถของตัวเองรุ่นแรกนี้ว่า Mini Mach-E กำหนดวางตลาดในปี 2566 โน่น แต่จะไม่ออกขายในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งปัจจุบัน เตรียมการพัฒนารถยนต์รุ่นที่ 2 จากโครงการนี้แล้ว Stuart Rowley ประธาน Ford of Europe กล่าวว่า “เราเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ รวมทั้งได้ตกลงกับทาง Volkswagen ไว้แล้ว” และ “การร่วมเป็นพันธมิตรครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการเฉพาะเจาะจง เราเองก็มองหาโอกาสที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อผลประโยชน์ของทั้ง 2 ฝ่าย และมีความเป็นไปได้ด้วยเช่นกัน” เพราะขณะนี้ Ford ก็อยู่ระหว่างการพัฒนารถไฟฟ้าของตนเอง เขาได้อธิบายอีกว่า “เรามีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการผลิตรถไฟฟ้าด้วยตนเอง อย่าง Mustang Mach-E และรถกระบะ F-150 Lightning แต่เราก็จะไม่ยอมให้ใครมาล้ำหน้าไปอย่างแน่นอน” Stuart Rowley กล่าวว่า “ตลาดรถขนาดกลางในยุโรป เป็นสิ่งที่สำคัญมาก รวมทั้ง Volkswagen ก็มีรุ่นรถจำนวนมาก ทำให้จำเป็นต้องใช้โครงสร้างพื้นฐาน MEB ร่วมกัน” ส่วน “ด้านรถเพื่อการพาณิชย์ สำหรับ Ford ตลาดยุโรป มีความสำคัญค่อนข้างมาก รวมทั้งเราได้ทำความตกลงที่จะแนะนำ รถแวนขนาด 1 ตัน (Ford Transit และ Volkswagen Transporter รุ่นใหม่) รวมทั้งกระบะ (Ford Ranger และ Volkswagen Amarok) ร่วมกับ Volkswagen ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว” Stuart Rowley ระบุว่า “ก่อนหน้านี้ เราทั้งคู่คุยเปิดอกกันเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว จนถึงปัจจุบัน เรายังมีความสุขกับการเป็นพันธมิตรในครั้งนี้”