แกะกล่องรถใหม่
BMW iX เปิดตัวด้วย xDrive50 แรงเกิน 500 แรงม้า
BMW Group (บีเอมดับเบิลยู กรุพ) เปิดตัว BMW iX (บีเอมด้บเบิลยู ไอเอกซ์) รถยนต์อเนกประสงค์ Sports Activity Vehicle (SAV) พลังงานไฟฟ้า 100 % พร้อมสำหรับเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ รวมถึงการทำงาน การเชื่อมต่อ และบริการด้านดิจิทอลต่างๆ ระดับพรีเมียม
ดีไซจ์นภายนอกมีเส้นสายในการออกแบบชัดเจนทรงพลัง แต่ยังมีความเรียบง่าย และคงความบึกบึนสไตล์ SAV รายละเอียดขององค์ประกอบต่างๆ สื่อถึงความประณีต และความหรูหราล้ำยุค โดดเด่นสะดุดตาด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ที่เกือบปิดทึบ สะท้อนถึงนวัตกรรมการผลิตที่ล้ำสมัย ส่วนกล้อง และเรดาร์เซนเซอร์ฝังอยู่ภายใต้พื้นผิวของกระจังหน้า
มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,953/1,967/1,696 มม. ฐานล้อ 3,000 มม. ช่วงล้อหน้า/หลัง กว้าง 1,677/1,706 มม.
BMW iX มาพร้อมระบบการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบไฟฟ้า ใช้มอเตอร์ 2 ตัวที่ทำงานด้วยหลักการของมอเตอร์ซิงโครนัสที่กระตุ้นด้วยไฟฟ้า แทนที่จะเป็นแม่เหล็กแบบในมอเตอร์ทั่วไป ทำงานควบคู่กับเทคโนโลยีเซลล์แบทเตอรีใหม่ล่าสุด โดยมีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย คือ BMW iX xDrive40 และ BMW iX xDrive50 ซึ่ง BMW บ้านเรานำเข้ามาจำหน่าย พร้อมล้อขนาด 22 นิ้ว แบบสลับสี ขัดเงาสามมิติ เสริมด้วยยางล้อลดเสียงรบกวนที่มีชั้นโฟมบริเวณพื้นผิวด้านในเพื่อลดการเกิดเสียงได้รับการติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน
หน้าจอแสดงผล และระบบทำงาน iDrive เจเนอเรชันใหม่ ซึ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกใน iX ต่อยอดการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่ และรถยนต์ให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ที่ออกแบบสำหรับทำงานร่วมกับจอระบบสัมผัสแบบโค้ง BMW Curved Display รองรับการโต้ตอบด้วยเสียงกับ BMW Intelligent Personal Assistant ซึ่งได้รับการอัพเกรดจากรุ่นก่อนหน้า โดยจอ BMW Curved Display เป็นกลุ่มจอแสดงผลดิจิทอล ซึ่งประกอบไปด้วย จอ Information Display ขนาด 12.3 นิ้ว และจอ Control Display ขนาด 14.9 นิ้ว รวมเข้าด้วยกันภายใต้แผงกระจกชิ้นเดียวที่หันหน้าเข้าหาผู้ขับขี่ ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ดิจิทอลมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ และแสดงกราฟิคดีไซจ์นใหม่ขณะสื่อสารกับผู้ใช้งาน
การออกแบบภายในห้องโดยสารมุ่งนำเสนอแนวคิดของการใช้ชีวิตที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ มาพร้อมพื้นที่กว้างขวาง และเบาะที่นั่งแบบใหม่พร้อมพนักพิงศีรษะเสริมความหรูหรายิ่งขึ้น มีพื้นที่วางขามากขึ้น เนื่องจากไม่ต้องมีท่อส่งน้ำมันกลางตัวรถ ซึ่งยังช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ คอนโซลกลางมาในดีไซจ์นเทียบเคียงเฟอร์นิเจอร์หรู ปุ่มควบคุมระบบสัมผัส และระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ Rocker Switch เติมเต็มความทันสมัยยิ่งขึ้นภายในห้องโดยสาร พร้อมเน้นย้ำถึงการออกแบบห้องโดยสารเพื่อผู้ขับขี่ด้วยพวงมาลัยทรงหกเหลี่ยม และจอ Head-Up Display
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติมาพร้อมฟีลเตอร์นาโนไฟเบอร์ ที่สามารถกรองอากาศบริสุทธิ์ ควบคุมผ่านจอระบบสัมผัสแบบใหม่ ซึ่งใช้ควบคุมการหมุนเวียนของอากาศภายในห้องโดยสาร รวมถึงระบบทำความร้อนที่เบาะนั่ง และพวงมาลัย มาพร้อมตัวเลือกอุปกรณ์เสริมคุณภาพเสียงทรงพลังยิ่งขึ้น อย่างระบบเสียง Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound System ที่ฝังอยู่ในพนักพิงศีรษะ และระบบเสียงแบบ 4D ที่มีฟังค์ชันสั่นตามเสียงเบสส์ในเบาะหน้า
BMW iX xDrive50 มอเตอร์หน้า 258 แรงม้า หลัง 313 แรงม้า พละกำลังรวมสูงสุด 523 แรงม้า/385 กิโลวัตต์ แรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 78.0 กก.-ม. หรือ 765 นิวตัน-เมตร (อัตราการใช้ไฟฟ้าตามมาตรฐาน WLTP อยู่ที่ 23.0-19.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. ระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ย 0 กรัม/กม.) ระยะทางขับเคลื่อนตามมาตรฐาน WLTP สูงสุดถึง 630 กม.
iX มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบไฟฟ้า และระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อ (Near-actuator wheel slip limitation) ส่งแรงบิดด้วยกำลังที่พอเหมาะลงสู่ล้อหน้า และล้อหลังในทุกสภาวะการขับขี่ ระบบการควบคุมที่ชาญฉลาดส่งกำลังแบบแปรผันได้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการส่งกำลังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการขับเคลื่อนล้อหลัง ตลอดไปจนถึงการเพิ่มแรงดึงเพื่อป้องกันการลื่นไถลขณะขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วยป้องกันการลื่นไถลของล้อ และเพิ่มความเสถียรภาพในการควบคุมรถยิ่งขึ้นอีกระดับ โดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดการมอเตอร์ ซึ่งป้อนข้อมูลที่แม่นยำ และฉับไวเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์อยู่ตลอดเวลา สำหรับ iX xDrive50 ที่พาตัวพุ่งไปข้างหน้าจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 4.6 วินาที
ระบบการขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูงเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชันที่ 5 ใน iX นั้น มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ระบบขับเคลื่อนซึ่งรวมมอเตอร์ไฟฟ้า วงจรอีเลคทรอนิค และระบบเกียร์ เอาไว้ภายใต้โครงสร้างเดียวกัน การสร้างโครงข่ายของระบบการขับเคลื่อนไฟฟ้าที่สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว ช่วยเพิ่มความหนาแน่น และศักยภาพของกำลังไฟฟ้า อีกทั้งยังเป็นการใช้พื้นที่ระหว่างเพลาหน้า และเพลาท้ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด
iX ใช้มอเตอร์ 2 ตัวที่ทำงานด้วยหลักการของมอเตอร์ซิงโครนัสที่กระตุ้นด้วยไฟฟ้าแทนที่จะเป็นแม่เหล็กแบบในมอเตอร์ทั่วไป จึงสร้างแรงบิดรวมได้สูงสุดถึง 78.0 กก.-ม. หรือ 765 นิวตัน-เมตร สำหรับ iX xDrive50
ระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผัน (Adaptive Recuperation) ช่วยเสริมประสิทธิภาพ และระยะการขับขี่ของ iX ด้วยการดึงพลังงานจากระบบเบรคกลับมาใช้ใหม่ให้เหมาะสมกับสภาวะการขับขี่ โดยใช้ข้อมูลจากระบบนำทาง และเซนเซอร์จากระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อรถเข้าใกล้ทางแยก ระดับการดึงพลังงานกลับมาใช้ใหม่จะเพิ่มสูงขึ้น เพื่อเติมพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบทเตอรีแรงดันสูง ในขณะเดียวกันก็จะทำให้ความเร็วการขับขี่ลดลง และจะทำงานสลับกับฟังค์ชัน Coasting ขณะขับขี่บนท้องถนน ซึ่งช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานเมื่อผู้ขับขี่ยกเท้าออกจากแป้นคันเร่งระบบการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่แบบแปรผันนี้ ทำงานเมื่อเข้าเกียร์ D แต่ผู้ขับขี่สามารถเลือกระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ได้ตามต้องการ ระหว่างระดับสูง ปานกลาง และต่ำ ในระดับสูง ระบบ Recuperation จะทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ B สร้างประสบการณ์ในการขับขี่แบบ one-pedal feeling ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับการไหลเวียนของพลังงานจะแสดงผลผ่านจอ Control Display ขณะขับขี่ในทุกตำแหน่งเกียร์ นอกจากนี้ ระบบนี้ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติ Efficiency Trainer ที่แนะนำเคล็ดลับในการขับขี่แบบประหยัดพลังงานมากที่สุด พร้อมแสดง Range Horizon เพื่อวิเคราะห์ระดับพลังงานของแบทเตอรีแรงดันสูงโดยอ้างอิงจากสไตล์การขับขี่
เทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชันที่ 5 ยังมาพร้อมแบทเตอรีแรงดันสูงที่ใช้เทคโนโลยีเซลล์แบทเตอรีใหม่ล่าสุด iX xDrive50 มาพร้อมแบทเตอรีแรงดันสูงที่มีความจุพลังงานสุทธิ 105.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง (ความจุพลังงานรวม 111.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง)iX ยังมีระบบควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสารติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน แบทเตอรีแรงดันสูง และระบบขับเคลื่อนทำงานด้วยปั๊มความร้อนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิการทำงานของแบทเตอรีแรงดันสูงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการชาร์จแบทเตอรีด้วยความเร็วสูง
หัวชาร์จแบบ Combined Charging Unit (CCU) ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการชาร์จที่ยืดหยุ่น รองรับการชาร์จแบบ DC ได้สูงสุด 200 กิโลวัตต์ เพิ่มความเร็วในการชาร์จจาก 10-80 % ภายใน 35 นาที สำหรับ iX xDrive50 อีกทั้งยังเพิ่มระยะขับขี่ได้สูงสุดถึง 150 กม. ใน iX xDrive50 หลังชาร์จแบทเตอรีที่มีระดับพลังงาน 10 % แบบ DC fast-charging เพียง 10 นาที
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่หลากหลายใน iX ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และนวัตกรรมหลากหลายที่สุด เหนือกว่ารถยนต์ทุกรุ่นจาก BMW มาพร้อมเซนเซอร์เจเนอเรชันใหม่ ซอฟต์แวร์ใหม่ และแพลตฟอร์มในการประมวลผลที่ทรงพลัง ใช้กล้อง 5 ตัว เรดาร์เซนเซอร์อีก 5 ตัว และอัลตราโซนิกเซนเซอร์ 12 ตัวในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน ระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน Steering and Lane Control Assistant ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติพร้อมฟังค์ชัน Stop & Go รวมถึงระบบที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานอย่างระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus (Parking Assistant Plus) ซึ่งประกอบด้วยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Surround View Camera) แสดงภาพพื้นที่โดยรอบของรถให้เห็นแบบสามมิติผ่านระบบ Remote 3D
iX ยังใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้อลูมิเนียมที่ผ่านกระบวนการหล่อและนำกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงการนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ในปริมาณมาก ภายในห้องโดยสารประกอบด้วยวัสดุไม้ที่รับรองจาก FSC หนังฟอกด้วยสารสกัดจากใบมะกอก และยังมีส่วนประกอบจากธรรมชาติอื่น ๆ อีกมากมาย และยังใช้แหจับปลาที่ผ่านการรีไซเคิลเป็นหนึ่งในวัสดุสำหรับผลิตพรมปูพื้นรถอีกด้วย
สำหรับ BMW iX xDrive50 ตั้งเอาไว้ที่ 5,999,000 บาท ด้วยการเปิดรับจองเพียง 20 คันเท่านั้น สามารถเลือกสีตัวถังได้ถึง 6 สไตล์ตามความต้องการ ได้แก่ แดง Aventurin Red, ดำ Black Sapphire, ขาว Mineral White, น้ำเงิน Phytonic Blue, เทา Sophisto Grey และ Storm Bay
แดง Aventurin Red
ดำ Black Sapphire
ขาว Mineral White
น้ำเงิน Phytonic Blue
เทา Sophisto Grey
เทา Storm Bay