รายงานข่าวจากประเทศอินเดีย ระบุว่า ค่าย Ford ประกาศยอมรับผลการดำเนินงานในอินเดีย พบว่า มีผลประกอบการขาดทุนจากการดำเนินงานมากกว่า 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในศตวรรษที่ผ่านมา ประมาณ 60 พันล้านบาท จำเป็นต้องปรับโครงสร้างการบริหารงานใหม่ โดยจะระงับสายการผลิตในปีหน้าแม้ว่าตลาดในอินเดีย จะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ยอดการขายรถทุกยี่ห้อโดยรวมประมาณ 2.5 ล้านคัน/ปี แต่ค่าย Ford สามารถทำผลกำไรจากการขายรถ เอสยูวี และกระบะ มานาน แต่กลับไม่สามารถทำยอดขายรถยนต์ขนาดเล็ก ที่ได้รับความในอินเดียได้ ส่วนแบ่งการตลาดทำได้เพียง 2 % อธิบายว่าทำไมจึงสนใจที่จะทำการผลิตต่อไป แต่กระนั้น Ford ก็ยังยืนยันว่า จะไม่ตัดขาดจากตลาดในอินเดียทั้งหมด จะยังคงดำเนินงาน และให้ความช่วยเหลือด้านธุรกิจ Ford Business Solutions และสนับสนุนการบริการ รวมทั้งอะไหล่ การรับประกันคุณภาพ สำหรับลูกค้าเดิมต่อไป โดย Ford จะระงับสายการผลิตในโรงงาน Sanand ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 รวมทั้งระงับสายการผลิตเครื่องยนต์ ใน Chennai ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 โดย Ford ยืนยันว่า ทีมงานยังคงให้ความช่วยเหลือด้านคุณภาพ และมีพนักงานอยู่ประมาณ 11,000 คน แม้ว่าในแถลงการณ์ Ford จะมีคำอธิบายที่งดงามไว้ว่า การปรับปรุงโครงสร้างในการให้บริการช่วยเหลือด้านธุรกิจนี้ เพื่อเป็นการ “สนับสนุนการเติบโต โดยการกระชับในการดำเนินงาน และแสวงหาโอกาสในด้านรถยนต์ไฟฟ้า และระบบเชื่อมต่อภายในรถยนต์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค” แต่ในความเป็นจริง Ford กำลังจะถอนตัวออกจากประเทศที่ไม่สามารถทำผลกำไร แม้จะแถลงว่า จะได้แสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินงานเพื่อผู้บริโภค แต่ในความเป็นจริง คือ ระงับสายการผลิตในอินเดียทั้งหมด และสั่งรถนำเข้าเพื่อจำหน่ายในแต่ละรุ่นเท่านั้น การปรับโครงสร้างครั้งนี้ จะทำให้พนักงานในสายการผลิตของโรงงาน ต้องตกงาน ประมาณ 4,000 คน รวมทั้งทำให้อนาคตของรถรุ่น EcoSport ซึ่งประกอบจากอินเดีย จะไม่มีจำหน่ายในประเทศอื่นๆ อีกต่อไป