อุบัติเหตุรถจมน้ำเป็นประสบการณ์ที่ไม่คาดฝัน และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องน่าสลด “autoinfo.co.th” มีข้อแนะนำ และวิธีปฏิบัติที่จะเอาชีวิตรอดจากการขับรถตกน้ำมาฝาก... ดังต่อไปนี้1. ตั้งสติ เมื่อตกน้ำ รถจะยังไม่จมทันที แต่จะค่อยๆ จมลงทีละน้อย ดังนั้น ต้องตั้งสติโดยไวที่สุด และเมื่อรถนิ่งรีบปลดเข็มขัดนิรภัยทันที พร้อมยกศีรษะให้สูงเหนือระดับน้ำที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น 2. ลดกระจก-เปิดประตู เมื่อรถจมลงไปในน้ำ ประตูรถจะเปิดไม่ได้ เพราะแรงดันภายใน และภายนอกยังไม่เท่ากัน ให้รีบลดกระจกหน้าต่างทั้ง 4 บานลง เพื่อปรับให้แรงดันน้ำภายใน และภายนอกใกล้เคียงกัน (ระบบกระจกไฟฟ้าเมื่อรถดับยังคงมีไฟจากแบทเตอรีประมาณ 5-10 นาที) จากนั้นเปิดประตูออกให้กว้างสุด 3. ทุบกระจก กรณีที่ไม่สามารถเปิดประตู หรือกระจกได้ ให้ถอดพนักพิงศีรษะช่วย นำก้านเหล็กเสียบเข้าไปบริเวณขอบกระจกด้านข้างประมาณ 1 นิ้ว แล้วออกแรงงัดจนกระทั่งกระจกแตก ถ้าจะให้ดีพกอุปกรณ์ทุบกระจกรถ ติดรถไว้ตลอดเวลา เช่น ค้อนนิรภัยทุบกระจก หรือเหล็กนำศูนย์ โดยเลือกทุบกระจกด้านข้าง มากกว่ากระจกหน้า และกระจกหลังซึ่งแตกยากกว่า 4. ว่ายน้ำออกห่างตัวรถ เมื่อออกจากตัวรถที่กำลังจมน้ำได้แล้ว ให้รีบว่ายน้ำออกห่างจากตัวรถให้มากที่สุด เพราะหากรถยังจมไม่ถึงพื้น จะมีแรงดูดดึงคนกลับเข้าไปหารถอีก คนที่ว่ายน้ำไม่เป็นพยายามหาวัตถุจับเกาะที่สามารถลอยขึ้นเหนือน้ำได้ **ทำอย่างไรกับรถหลังจมน้ำ** อย่าสตาร์ทรถเด็ดขาด ให้ถอดขั้วแบทเตอรีออกก่อนเพื่อตัดระบบจ่ายไฟ จากนั้นเชคเครื่องยนต์ แล้วเป่าด้วยลม โดยใช้สเปรย์ไล่ความชื้นฉีดให้ทั่ว พร้อมกับถ่ายน้ำมันทุกชนิดออกทันที ทั้งน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันคลัทช์ (ถ้ามี) น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ น้ำมันเบรค น้ำมันเฟืองท้าย เป็นต้น เพราะถ้ามีน้ำเข้าไปปะปนจะเป็นตัวการก่อสนิมที่ร้ายกาจที่สุด ถ้าไม่มั่นใจว่าตรวจเชคทั่วถึงในจุดอับที่น้ำอาจเข้าได้ นำรถเข้าศูนย์บริการ ให้เป็นหน้าที่ของช่างที่ชำนาญ