ธุรกิจ
Honda ประกาศราคา HR-V e:HEV
โนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า Honda HR-V นับเป็นรถยนต์ที่ลูกค้ารอคอย และให้ความสนใจ อีกทั้งประสบความสำเร็จด้านยอดขายในตลาดเอสยูวีมาอย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่การเปิดตัว Honda HR-V e:HEV ใหม่ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม ด้วยยอดการจองสิทธิ์ประมาณ 2,500 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ในวันนี้หลังจากการปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ Honda HR-V e:HEV ใหม่ จะช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ในภาพรวมที่กำลังฟื้นตัวให้กลับมาคึกคักยิ่งขึ้น และจะสามารถสร้างมิติใหม่ให้แก่ตลาดเอสยูวีในประเทศไทยได้อีกครั้ง อีกทั้งจะช่วยให้ Honda ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำในตลาดเอสยูวีของประเทศไทย ในฐานะของการเป็นเอสยูวีสำหรับทุกคน ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทั้งระบบขับเคลื่อนด้านความปลอดภัย ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างแท้จริง พร้อมตั้งเป้าจำหน่าย 20,000 คัน ภายใน 1 ปีนับจากเปิดตัว
โดยราคาจำหน่าย Honda HR-V e:HEV ใหม่ ทั้ง 3 รุ่นย่อย ได้แก่
รุ่น e:HEV RS 1,179,000 บาท
รุ่น e:HEV EL 1,079,000 บาท
รุ่น e:HEV E 979,000 บาท
มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จอง และรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน-31 ธันวาคม 2564
รับดอกเบี้ย 2.59 %** ฟรีประกันภัย 1 ปี พร้อมรับฟรีหน้ากากฟอกอากาศ LG PuriCare Gen 2 สีขาว พร้อมสายรัดหน้ากากฟอกอากาศมูลค่า 7,080 บาท
ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ Honda HR-V e:HEV ใหม่ ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 19.00 น. จะต้องทำการจอง และรับรถ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน-31 ธันวาคม 2564** เพื่อรับฟรี ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Utility Package ประกอบด้วย กระบะใส่ของท้ายรถ มูลคำ 1,100 บาท และแผ่นกันรอยเบาะพนักพิงหลัง มูลค่า 1,700 บาท รวมมูลค่า 2,800 บาท
Honda HR-V e:HEV ใหม่ มาพร้อมดีไซจ์นสปอร์ทพรีเมียมสไตล์เอสยูวี โดดเด่นด้วยตัวถังในสไตล์ Fastback มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลล์ไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กม/ลิตร และมีอัตราการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กม. โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด เหมาะสมกับการขับขี่ในทุกสถานการณ์ถึง 3 โหมด ได้แก่
โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
พร้อมทั้งยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการผ่านสวิทช์ฟังค์ชัน Drive Mode 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่แบบประหยัด (DCON Mode) โหมดการขับขี่แบบปกติ (Normal Mode) และโหมดการขับขี่แบบสปอร์ท (Sport Mode)
เสริมความมั่นใจในการขับขี่ Honda HR-V e:HEV ใหม่ ด้วยการมอบแคมเปญพิเศษด้านการบริการหลังการขาย** ได้แก่
รับประกันอายุการใช้งานแบทเตอรีไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ฟรี ค่าแรงในการเชคระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) โปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ Honda Ultimate Care ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กม. ต่อจากระยะเวลา หรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กม. แรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และบริการฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)
ทุกรุ่นย่อย มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ทำงานร่วมกับกล้องมุมด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งประกอบไปด้วยฟังค์ชันหลักๆ ดังนี้
ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรค (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with
Lane Departure Warning: RDM with LDW)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอันล้ำสมัย และเทคโนโลยีด้านการขับขี่ที่ครบครัน* อาทิ ครั้งแรกของ
รถยนต์ Honda ในประเทศไทย กับระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ระบบเบรคมือไฟฟ้า (Electric
Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
ระบบลอครถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย
ผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front and Rear Passenger Seat Belt Reminde
ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) เป็นต้น
ภายห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกที่นั่ง ครบครันด้วยฟังค์ชันการใช้งาน และคงอรรถประโยชน์สไตล์เอสยูวี ไว้ได้อย่างดีเยี่ยม โดดเด่นด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System ที่สามารถมอบทิศทางลมที่หมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ กระจายลมได้อย่างเหมาะสมทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS) โดยมาพร้อมห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ และเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์แยกพับแบบ 60:40 ที่ปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ อันเป็นเอกลักษณ์ของ Honda ได้แก่
Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Honda ที่เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับลงแนวราบได้เรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย
Long Mode: เบาะด้านหน้า และด้านหลัง ปรับพับเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
Tall Mode: เอกลักษณ์ความอเนกประสงค์โดดเด่นของ Honda ที่สามารถพับเบาะด้านหลังขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง ซึ่งมีเพียง Honda HR-V e:HEV ใหม่ รุ่นเดียวในเซกเมนท์ต์ที่สามารถพับเบาะในโหมดนี้ได้
ตอบโจทย์สมาร์ทไลฟ์สไตล์ด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัย และฟังค์ชันการใช้งานที่ครบครัน* อาทิ
ใหม่ ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ
(Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ
Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ
Android Auto มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย
(Wireless Charger) ลำโพงสูงสุดจำนวน 8 ตำแหน่ง ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด/ปิดแบบสัมผัส
เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง พวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง ปุ่มรับ/วางสายโทรศัพท์ และปุ่มควบคุมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING และ Honda CONNECT เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
มาพร้อมสีภายนอก 5 สี ได้แก่ สีแดงอิกไนท์ (เมทัลลิค) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV) พร้อมด้วยสีใหม่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) และสีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิค) รวมทั้งสีขาวพแลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก) ในทุกรุ่นย่อย เสริมพลังความสปอร์ทอีกขั้นด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) ที่มาพร้อมแนวคิดหลัก "AMP UP"
"โดยมีไอเทมอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ กระจังหน้า ราคา 21,500 บาท สเกิร์ทหน้า ราคา 11,000 บาท สเกิร์ทหลัง (แบบ 2 ชิ้น) ราคา 6,000 บาท ชุดตกแต่งประตูข้าง ราคา 11,000 บาท คิ้วตกแต่งไฟตัดหมอก ราคา 3,000 บาท ชุดไฟตัดหมอกหน้า LED ราคา 7,900 บาท คิ้วบันไดสเตนเลสส์ LED ราคา 3,900 บาท ปลอกท่อไอเสีย ราคา 1,300 บาท ม่านบังแดดผู้โดยสารตอนหลัง ราคา 2,400 บาท เป็นต้น หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพคเกจชุดแต่งรอบคันกับชุด Modulo Urban Package ราคา 21,000 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ทหน้า (แบบ 2 ชิ้น) และชุดตกแต่งประตูข้าง
ลูกค้าที่สนใจสามารถสัมผัสกับ Honda HR-V e:HEV ใหม่ ลานโปรโมชันชั้น G ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ในวันที่ 19-20 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 11.00-21.30 น.
บูธ Honda (A14) ในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38" (Motor Expo 2021) ตั้งแต่วันที่ 2-12 ธันวาคม 2564 ณ อาคารชาลเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพคท์ เมืองทองธานี และโชว์รูมทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
หมายเหตุ
*อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
**เงื่อนไขเป็นเป็นตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูม Honda ทั่วประเทศ
-สีแดงอิกไนท์ (เมทัลลิค) หลังคาสีดำ (ทูโทน) เพิ่ม 10,000 บาท สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) และสีขาวพแลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
-ราคาแพคเกจชุดแต่งโมดูโล ไม่รวม Vat 7 %