รถแข่ง Audi RS Q E-tron ถูกจำกัดความเร็วในการแข่ง Dakar Rally ไว้ที่ 168 กม./ชม. แต่ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. บนพื้นทรายในเวลาเพียง 4.5 วินาทีประเทศอังกฤษ ระบุว่า ค่าย Audi เข้าร่วมการแข่งขัน Dakar Rally ด้วยรถแข่ง RS Q E-tron ที่ออกแบบ และเตรียมระบบความปลอดภัยอย่างดี เพื่อความทนทานตลอดเส้นทางอันเลวร้ายในระหว่างการแข่งขัน รถแข่ง Audi RS Q E-tron พื้นฐานคล้ายกับ Audi Quattro Group B ใช้โครงสร้างสเปศเฟรมร่วมกันกับคาร์บอนไฟเบอร์ และติดตั้งแผงกั้นในหลายๆ ส่วน โดยเฉพาะในส่วนสำคัญที่มีความเปราะบาง ที่ต้องเสริมวัสดุสังเคราะห์เคฟลาร์ และ Zylon เพื่อป้องกันการฉีกขาด จากการกระแทกอย่างรุนแรง โครงสร้างสเปศเฟรม ขึ้นรูปจากโลหะผสมน้ำหนักเบา ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับยานอวกาศ มีความทนทานต่อความร้อนสูง การออกแบบโครงสร้าง ได้มาจากประสบการณ์ด้านมอเตอร์สปอร์ทรายการต่างๆ ทั้งการแข่งขันรถแข่ง DTM, แรลลีครอสส์, การแข่งขัน Le Mans (LMP1) และ Formula E และติดตั้งแผงวัสดุสังเคราะห์ ที่ปกป้องนักแข่ง จากกระแสไฟฟ้าของอุปกรณ์ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแรงดันสูง แบทเตอรีแรงดันสูง (HVBS: High Voltage Battery System) เป็นผลงานการพัฒนาจาก Audi Sport มีน้ำหนัก 370 กก. ให้พลังงานไฟฟ้า 220kW มีความจุแบทเตอรี 52kWh รับกระแสไฟฟ้าจากเจเนอเรเตอร์ ที่ปั่นกระแสไฟฟ้าด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ จากรถแข่ง DTM ขนาด 2.0 ลิตร ตำแหน่งที่ตั้งของ HVBS ติดตั้งโครงสร้างป้องกันการกระแทก จากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และเสริม Zylon ให้กับส่วนที่มีความเสี่ยงสูง ด้านล่างตัวรถติดตั้งแผ่นป้องกันใต้ท้องรถ แข็งแกร่ง สามารถป้องกันรถแข่งเสียหายจากสภาพเส้นทางสุดโหด การกระแทกกับพื้น หรือหินที่ปลิวเข้ามา ด้านล่างตัวรถถูกป้องกันโดยแผ่นกันกระแทก 3 ชั้น หนาถึง 54 มม. โดยชั้นนอกสุดเป็นแผ่นอลูมิเนียม ทำหน้าที่ป้องกันการกระแทกอย่างรุนแรง ชั้นที่ 2 เป็นโฟม ทำหน้าที่ดูดซับแรงกระแทก และชั้นที่ 3 เป็นแผ่นแซนด์วิชคาร์บอนไฟเบอร์ (Carbonfibre Sandwich Layer) เมื่อรถกระแทกกับของแข็งอย่างหนัก แรงกระแทกจะถูกส่งผ่านโฟมไปยังแซนด์วิชคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งเป็นแนวป้องกันสุดท้าย ถ้ารุนแรงมาก จะทำให้แซนด์วิชคาร์บอนไฟเบอร์แตกตัวออก เพื่อเป็นการกระจายแรงกระแทก ป้องกันไม่ให้แบทเตอรี หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย และสามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายเมื่อถึงจุดบริการรถแข่ง นอกจากนั้นยังมีระบบความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ที่นำมากจากรถแข่ง LMP1 และ Formula E กรณีเกิดความผิดปกติ หรือกระแสไฟลัดวงจรอย่างรุนแรง ระบบควบคุมจะตัดการเชื่อมต่อของกระแสไฟฟ้าทันที และด้านนอกตัวรถจะมีสัญญาณไฟ และเสียงเตือนให้คนนอกรถ ทราบว่ามีปัญหารุนแรงเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัย ต้องมีการป้องกันน้ำเข้าแบทเตอรี และระบบไฟฟ้าอย่างแน่นหนา ส่วนถังดับเพลิงจะเติมด้วยสารเคมีที่ไม่เป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้า เพื่อป้องกันนักแข่งกรณีแผ่นป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูงเกิดความเสียหาย Audi RS Q E-tron ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า MGU05 2 ตัว (ทำหน้าที่ขับเคลื่อน และปั่นกระแสไฟเพื่อย้อนกลับไปยังแบทเตอรี) จาก Formula E โดยมอเตอร์ทั้ง 2 จะแยกขับเคลื่อนชุดล้อหน้า และล้อหลัง โดยใช้ซอฟท์แวร์ควบคุมการจ่ายแรงบิดไปสู่ล้อทั้ง 4 ตามความเหมาะสม ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร จากรถแข่ง DTM RS5 ทำงานด้วยรอบเครื่องที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด ในการปั่นให้มอเตอร์ MGU หมุนจ่ายกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ในแบทเตอรี แล้วส่งไปยังมอเตอร์ขับเคลื่อนทั้ง 2 ตัวอีกที