คลิพรีวิว McLaren Elva โดย AutoinfoOnline
“นิชคาร์ กรุ๊ปฯ” ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์ McLaren อย่างเป็นทางการ เพียงรายเดียวในประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ McLaren Automotive ประเทศอังกฤษ เปิดตัว McLaren Elva ครั้งแรกในเมืองไทย พร้อมให้ผู้ที่สนใจเข้ามาสัมผัสน้องใหม่ในตระกูล Ultimate Series อย่างใกล้ชิด McLaren Elva คือ สุดยอดไฮเพอร์คาร์ระดับโลก มาพร้อมสมรรถนะระดับสูงในตระกูล Ultimate Series โดยประเทศไทยได้รับโควตาจำนวน 2 คัน และมียอดจองแล้ว 1 คัน เห็นได้ชัดว่าตลาดคนไทยหันมาสนใจซูเพอร์คาร์ และไฮเพอร์คาร์ เพื่อสะสมเป็นคอลเลคชันมากขึ้น โดย McLaren Elva มีการผลิตเพียง 149 คันทั่วโลกเท่านั้น ถือเป็นไฮเพอร์คาร์ในตระกูล Ultimate Series ต่อจากรุ่น F1 Road Car, P1, Senna และ Speedtail เครื่องยนต์วางกลาง ขับเคลื่อนล้อหลัง สมรรถนะสูง McLaren Elva ใช้โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบาที่ถูกถ่ายทอดเทคโนโลยียานยนต์มาจากสนามแข่ง F1 และถือเป็นการฉลองสุดยอดผลงานการออกแบบของ “บรูซ แมคลาเรน” กับ McLaren M1A ที่ทำไว้ในปี 1960 และรถแข่งในซีรีส์ “Group 7 McLaren” ที่โดดเด่นด้วยสมรรถนะ และนวัตกรรมซึ่งถูกนำมาปรับให้อยู่ในรูปแบบของยนตรกรรมเพื่อ “ผู้ขับขี่” ผสานหลักการออกแบบ และวิศวกรรมยุคใหม่ของ McLaren พัฒนาเป็นยนตรกรรมสำหรับท้องถนน (Road Car) ในปัจจุบัน McLaren Elva จัดเป็นรถ Open-Cockpit จำนวน 2 ที่นั่ง พร้อมโครงสร้าง และด้านนอกตัวถังแบบคาร์บอนไฟเบอร์สั่งทำพิเศษ ให้ความอิสระเพราะปราศจากหลังคา ด้านข้าง สามารถกระตุ้นการรับรู้ของผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่ (รุ่นที่จำหน่ายในบางประเทศจำเป็นต้องมี เสา เอ ตามกฎเกณฑ์ด้านความปลอดภัย) และสามารถแล่นได้บนท้องถนนอย่างถูกกฎหมาย (Road Car) ที่มีน้ำหนักเบาที่สุด เท่าที่ McLaren เคยผลิตมา พร้อมด้วยสมรรถนะอันน่าทึ่งในทุกๆ ด้าน ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ วี 8 สูบ ขนาด 4.0 ลิตร กำลังสูงสุด 815 แรงม้า ซึ่งเป็นขุมพลังตระกูลเดียวกับ McLaren Senna และ McLaren Senna GTR อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ใน 6.8 วินาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีฟังค์ชัน Adaptive Dynamics Controls เพื่อเปลี่ยนโหมดการควบคุมรถ และระบบส่งกำลังได้ 3 รูปแบบ คือ Comfort, Sport และ Track เพื่อปรับลักษณะการขับขี่ให้เข้ากับอารมณ์ หรือสภาพแวดล้อมในขณะนั้น รวมถึงการปรับโหมด Electronic Stability Control (ESC) ที่เลือกได้ 3 ระดับ และระบบ Variable Drift Control (VDC) ที่ช่วยเพิ่มความเร้าใจให้แก่ผู้ขับขี่ถึงขีดสุด ด้านเบาะนั่งของ McLaren Elva ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ ด้านกรอบคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา รองรับศีรษะ ไหล่ และหลังของผู้โดยสาร ช่วยเปิดรับประสบการณ์การขับขี่อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เบาะนั่งจะสั้นกว่าเบาะนั่งของรถ McLaren ทั่วไปเล็กน้อย เพื่อทำให้มีพื้นที่พักเท้าเพียงพอสำหรับการยืน หรือช่วยอำนวยความสะดวกระหว่างการเข้า-ออกจากรถ ขณะเดียวกันลูกค้าสามารถเลือกสี และวัสดุของเบาะนั่งได้ทั้งด้านบน และด้านล่าง เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างส่วนบนที่เปิดโล่ง และส่วนล่างที่โอบล้อมปกป้องผู้โดยสาร รวมถึงออพชันสายรัดนิรภัยแบบ 6 จุด หากต้องการนำไฮเพอร์คาร์คันนี้ไปใช้ในสนามแข่ง ทั้งนี้ เพื่อลดน้ำหนักของรถให้มากที่สุด ระบบเครื่องเสียงจึงไม่ถูกจัดอยู่ในชุดอุปกรณ์พื้นฐานของ McLaren Elva แต่ลูกค้าสามารถสั่งทำพิเศษได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมส่วนตัวเลือกอื่นๆ ที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ได้แก่ ระบบยกตัวรถ รวมถึงล้ออัลลอยฟอร์จ น้ำหนักเบาพิเศษ ลาย 5 ก้าน (เปลี่ยนได้จากล้อมาตรฐาน ลาย 10 ก้าน) รวมถึงเปลี่ยนยาง Pirelli P Zero™ เป็นยาง Pirelli P Zero™ Corsa สำหรับสนามแข่งได้ สนใจติดต่อ และสอบถามรายละเอียเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.facebook.com/McLarenBKK