Lotus Car ประเทศไทย โดย เวิร์นส์ ออโทโมทีฟ ประเทศไทย ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถ Lotus อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เปิดตัว All-New Emira ที่มาพร้อมการออกแบบที่ล้ำยุค โฉบเฉี่ยวดุดัน ในเซกเมนท์รถสปอร์ท ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากไฮเพอร์คาร์ Lotus Evija ประสานการออกแบบที่ลื่นไหล และเส้นสายที่คมชัด เครื่องยนต์เบนซิน 2 รุ่น ได้แก่ ซูเพอร์ชาร์จ V6 ขนาด 3.5 สิตร และเครื่องยนต์ i4 เทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตรใหม่ จากพันธมิตรด้านเทคนิค AMG จำหน่ายในราคา 11.9 ล้านบาท สำหรับรุ่น High Spec Emira V6 First Edition
ธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการสวนภูมิภาค เวิร์นส์ ออโทโมทีฟ ประเทศไทย กล่าวว่า Emira คือ รถสปอร์ทระดับพรีเมียมเครื่องวางกลางรุ่นใหม่ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ และแบรนด์ของ Lotus โดดเด่นด้วยคุณลักษณะทั้งหมดที่โลกยานยนต์คาดหวังจาก Lotus เช่นการออกแบบที่โดดเด่น ประสิทธิภาพน่าตื่นเต้น การขับขี่และการควบคุมที่ดีที่สุดในรถสปอร์ทระดับเดียวกัน แอโรไดนามิคที่โดดเด่น และประสบการณ์ “For The Drivers” ที่ไม่มีใครเทียบได้
ยิ่งไปกว่านั้น Emira ยังเป็นรถยนต์รุ่นสุดท้ายของ Lotus ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยทุกรุ่นในอนาคตจาก Lotus จะใช้ไฟฟ้าทั้งหมด
Lotus Emira ถูกประกอบขึ้นผ่านสายการผลิตใหม่ล้ำสมัยในประเทศอังกฤษ ด้วยการลงทุน 100 ล้านปอนด์ โดยมีกำลังการผลิตสูงสุดที่ 5,000 คัน/ปี
"เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับการเปิดตัว All-new Emira ในประเทศไทย เป็นที่แรกในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการสานต่อจากรถยนต์รุ่นต่างๆทของ Lotus เช่น Elise, Exige และ Evora โดย Emira ใหม่ แสดงถึงการก้าวกระโดดไปข้างหน้าของ Lotus ด้วยชิกเนเจอร์ของแบรนด์และจุดเด่นหลักเหล่านี้ ถูกรวมเข้ากับการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในระดับของการใช้งานจริง ความสะดวกสบาย ฟังค์ชัน และเทคโนโลยี เพื่อส่งผลให้เป็นรถสปอร์ทของ Lotus ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเท่าที่เคยมีมา"
โดยในปีที่ผ่านมา Lotus Cars ได้แต่งตั้ง เวิร์นส ออโทโมทีฟ ประเทศไทย เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ครอบคลุมกิจกรรมการขาย หลังการขาย การตลาด และการสร้างแบรนด์ บริษัทได้ลงทุนมากถึง 20 ล้านบาท เพื่อสร้างโชว์รูม Lotus แห่งใหม่ บนถนนรามคำแหงในกรุงเทพฯ มีพื้นที่รวม 400 ตารางเมตร สำหรับโชว์รูมและเวิร์คชอพ
รถรุ่น Emira มีความคล้ายคลึงในหลายๆ จุดกับ Evija ไฮเพอร์คาร์ไฟฟ้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตามนโยบาย Vision80 ของบริษัท ซึ่งส่งสัญญาณถึงภาษาการออกแบบใหม่สำหรับ Lotus ด้วยเช่นกัน
Emira มีรูปลักษณ์ที่มีความร่วมสมัยด้วยพื้นผิวที่ลื่นไหล เส้นลักษณะที่คมชัด และรายละเอียดทางเทคนิค เช่นเดียวกับ Evija
ฝากระโปรงหน้าที่โดดเด่นสะดุดตา ห้องโดยสารหรูหรา ที่ถูกวางตำแหน่งไปทางด้านหลัง ประตูที่ดูเหมือนถูกแกะสลัก และช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ที่ตัดเข้าไปในด้านท้ายของรถ
ไฟหน้า LED แนวตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยดีไซจ์น Twin Blade ที่ด้รับแรงบันดาลใจจาก Evja ไฮเพอร์คาร์ เครื่องหมายคำว่า Lotus อยู่เหนือแผงหลังสีเดียวกับตัวรถ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากด้านหลังของ Evija อย่างชัดเจนเช่นกัน
"Emira เป็นซูเพอร์คาร์ขนาดเล็กที่มาพร้อมความเข้าใจและคุณลักษณะที่พบได้ในรถยนต์ Lotus ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นรถสปอร์ทที่ใช้งานได้ทุกวัน ซึ่งให้ความสะดวกสบาย และประสิทธิภาพในการใช้งานสูง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่ผู้ขับต้องการ"
ออกแบบภายในโดดเด่นด้วยแผงหน้าปัดแบบ Wrap around ผสมผสานเข้ากับแผงประตูที่หรูหรา ทำให้ผู้ขับรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถ ภายในของรถมีพื้นผิว Soft touch จำนวนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงงานฝีมือระดับพรีเมียมของอังกฤษ ที่สื่อถึงความเป็นสปอร์ทขั้นสูงสุด
Emira มีพวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันแบบท้ายตัด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ม่านถุงลมนิรภัย พร้อมด้วยระบบ Launch Control (เป็นส่วนหนึ่งของ Lotus Drivers Pack ที่เป็นอุปกรณ์เสริม) รวมถึงระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance Systems (ADAS)
การเข้าถึงระบบ Infotainment ของรถทำได้โดยผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว ที่ติดตั้งตรงคอนโซลกลาง พร้อมจอแสดงผลสำหรับคนขับแบบ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว การเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
นอกจากนี้ Lotus รุ่นใหม่ ยังมีระบบเสียงระดับพรีเมียม 10 ลำโพงจาก KEF แบรนด์ออดิโอไฟล์สัญชาติอังกฤษ ที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง
ด้านหลังของเบาะนั่งทั้งสอง มีพื้นที่ 208 ลิตร สำหรับสัมภาระ หรือสิ่งของขนาดใหญ่ ในขณะเดียวกัน พื้นที่เก็บของด้านหลังของเครื่องยนต์ มีขนาด 151 ลิตร สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดมาตรฐาน หรือถุงกอล์ฟได้
ขุมพลังของ Emira จะมีให้เลือก 2 แบบ ซึ่งทั้ง 2 รุ่นได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในคุณลักษณะด้านสมรรถนะ โดยช่วงเปิดตัวรถยนต์รุ่นแรก จะวางจำหน่ายในรุ่น First Edition ที่ผลิตจำนวนจำกัด ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร ซูเพอร์ชาร์จ ซึ่งให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 288 กม./ชม.
ปีนี้จะมีเครื่องยนต์ใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีสำหรับแบรนด์ Lotus โดยเครื่องยนต์ที่ 2 สำหรับ Emira จะมาจาก AMG ซึ่งก็คือ เครื่องยนต์ i4 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ซึ่งให้กำลัง 360 แรงม้า
Emira สร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมใหม่ Lotus Sports Car Architecture และมีระยะห่างของล้อที่กว้างกว่ารถ Lotus ซึ่งช่วยเพิ่มเสถียรภาพ ให้การยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม และรู้สึกได้กับจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำมาก
รถรุ่น Emira มาพร้อมกับการตั้งค่าแชสซีส์ และช่วงล่างที่กำหนดไว้ 2 แบบ โดยแบบแรก คือ แบบ Tour ที่ได้รับการปรับแต่งสำหรับการใช้งานบนท้องถนนทุกวัน ให้การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะของ Lotus ไดนามิค และการควบคุมรถด้วยการขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ในขณะที่ช่วงล่างแบบ Sport จะมาพร้อมกับ Lotus Drivers Pack ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม และให้การตั้งค่าระบบกันสะเทือนที่แข็งขึ้นเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความสามารถ และความรู้สึกแบบไดนามิค
All-New Lotus Emira V6 First Edition (high spec) ราคา 11.9 ล้านบาท (มี 6 คันในประเทศไทย) All-New Lotus Emira i4 First Edition ราคา 9.29 ล้านบาท All-New Lotus Emira i4 BASE ราคา 7.99 ล้านบาท
Emira มาพร้อมการรับประกัน 3 ปีไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 3 ปี