ระเบียงรถใหม่
Mercedes-Benz EQE SUV รองรับระยะทางวิ่งสูงสุด 590 กม.
Mercedes-Benz เปิดตัว The All New EQE SUV รถไฟฟ้า 100 % แบบ Mid-Size Luxury SUV อยู่ในแบรนด์ย่อยของ Mercedes-EQ โดยใช้พื้นฐานพแลทฟอร์มร่วมกันกับ EQE รุ่นซีดานที่เปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมีให้เลือกทั้งแบบรุ่นปกติ และตัวแรงจาก Mercedes-AMG โดยมีคู่แข่ง เช่น Audi e-Tron, BMW iX, Polestar 3 และ Volvo EX90
Mercedes-Benz EQE SUV ย่อส่วนความหรูมาจากรุ่นพี่ EQS SUV และ EQE Sedan มารวมกัน โดยทั้งคู่ถูกพัฒนาบนพื้นฐานพแลทฟอร์ม EVA II เช่นเดียวกัน ภาษาการออกแบบก็ยังคงมีความคล้ายคลึงกับพี่น้องที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ มีการออกแบบตามหลักแอโรไดนามิค ทำให้มีค่าสัมประสิทธิ์เพียง 0.25
กระจังหน้าทึบสีดำคาดด้วยแสง Daytime Running Light LED แนวนอนตลอดขอบกระจังหน้า พร้อมไฟหน้า LED แบบ Digital Light ด้านข้าง ที่เปิดประตูแบบเปิดยกก้านซ่อนรูปกลมกลืนกับตัวถัง มีบันไดข้างขนาดเล็กติดอยู่ ให้พอรู้ว่าเป็นรถเอสยูวี ไฟท้ายแบบ LED สีแดง พาดเป็นแนวนอนตลอดด้านท้าย มีความยาว 4,863 มม. กว้าง 1,940 มม. สูง 1,686 มม. ฐานล้อ 3,030 มม. และน้ำหนักรถ 2,600 กก. เมื่อเทียบกับ EQE รุ่นซีดานแล้ว Mercedes-Benz EQE SUV มีความยาวน้อยกว่า 132 มม. แคบกว่า 11 มม. ระยะฐานล้อน้อยกว่า 90 มม. มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารน้อยกว่า GLE รุ่นเครื่องยนต์สันดาป โดยมีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 520 ลิตร (GLE อยู่ที่ 630 ลิตร)
การออกแบบภายใน โดยเฉพาะหน้าจอขนาดใหญ่ที่ยาวต่อเนื่องกัน อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล EQ ที่ยกงานดีไซจ์นมาจาก EQS SUV และ EQE Sedan มาผสมผสานกัน แผงคอนโซลหน้าพาดเต็มด้วยจอสัมผัสแบบ MBUX Hyperscreen 3 จอแยกการทำงานประกอบด้วยจอข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว, หน้าจอกลาง Infotainment 17.7 นิ้ว, หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า 12.3 นิ้ว สามารถอัพเดทระบบต่างๆ แบบ OTA ได้ มาพร้อมลำโพงรอบคันแบบ 360 องศา ด้วยระบบเสียง Dolby Atmos
Mercedes-Benz EQE SUV มาพร้อมระบบไฟส่องสว่าง Digital Light ที่สามารถตรวจจับวัตถุ สิ่งกีดขวาง รวมถึงอ่านป้ายจราจรเพื่อการประมวลผลอย่างแม่นยำ โดยมาพร้อมทางเลือกที่หลากหลายถึง 5 รูปแบบ
E 350+ มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว กำลังสูงสุด 292 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 565 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุ 90.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 590 กม. (WLTP)
EQE 350 4MATIC มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังสูงสุด 292 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 765 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุ 90.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งระยะทางสูงสุด 558 กม. (WLTP)
EQE 500 4MATIC มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 858 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุ 90.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งระยะทางสูงสุด 547 กม. (WLTP)
และตัวแรง "หนึ่งคน หนึ่งเครื่องยนต์" อันโด่งดังของ AMG ซึ่งช่างคนหนึ่งทำงานอย่างอุตสาหะในเครื่องยนต์นี้คนเดียว พร้อมลงลายเซ็นด้วยความภาคภูมิใจ เพื่อพิสูจน์ความพิเศษของมัน แต่ตอนนี้เครื่องยนต์กำลังถูกแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า
AMG EQE 43 4MATIC มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังสูงสุด 476 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 858 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ Fully Variable all-wheel drive AMG Performance 4MATIC แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุ 90.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งระยะทางสูงสุด 488 กม. (WLTP) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
AMG EQE 53 4MATIC มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังสูงสุด 626 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 950 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ Fully Variable all-wheel drive AMG Performance 4MATIC+ แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุ 90.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งระยะทางสูงสุด 470 กม. (WLTP)
ถ้ายังแรงไม่สะใจก็ยังมี AMG EQE 53 4MATIC+ ที่มาพร้อมกับ AMG Dynamic Plus Package พร้อมฟังค์ชัน Race Start และ Boost ที่จะเพิ่มกำลังเป็น 687 แรงม้า พร้อมแรงบิด 1,000 นิวตัน-เมตร (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ และปริมาณไฟในแบทเตอรี) ช่วยยกระดับอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดเพิ่มเป็น 240 กม./ชม.
ระบบการชาร์จ รองรับหัวชาร์จ Type 2/CCS Combo กระแสสลับ AC รองรับการชาร์จสูงสุด 22 กิโลวัตต์ และกระแสตรง DC Fast Charging รองรับการชาร์จสูงสุด 170 กิโลวัตต์ ชาร์จ 15 นาที วิ่งได้ไกล 220 กม. (WLTP) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Single Speed มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้ง Eco, Comfort, Sport, Individual และ Offroad (สำหรับรุ่น 4Matic) และแป้นคันเร่งสามารถเร่ง และเบรคได้ในแป้นเดียว (One Padel) มีระบบเลี้ยว 4 ล้อ โดยล้อหลัง สามารถช่วยเลี้ยวได้ 10 องศา ช่วงล่างแบบถุงลม Airmatic Air พร้อม Adaptive Damping System ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ ด้านหน้าแบบ 4-Link และด้านหลังแบบ Multilink ทำให้สมรรถนะในการขับขี่ทั้งทางถนนดำ และเส้นทางทุรกันดาร ทำได้อย่างยอดเยี่ยม
จัดเต็มมาพร้อมทั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ และความปลอดภัย ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Intelligent Park Pilot ระบบการนำทางที่เมื่อกำหนดจุดหมาย สามารถคำนวณจุดชาร์จระหว่างทาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control, ควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane-Keep Assist, ควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Lane-Centering Assist, อ่านป้ายจราจร Traffic-Sign Recognition, ช่วยในการเปลี่ยนเลน Lane-Change Assist, เตือนมุมบอดด้านข้าง Blind-Spot Monitoring, เตือนรถวิ่งตัดด้านหลังเมื่อถอยหลัง Rear Cross-Traffic Alert, เตือนการชนด้านหน้าแบบ Pre-Safe เป็นต้น
เสียงที่เป็นเสน่ห์ของเครื่องยนต์จาก AMG ที่อาจจะหายไปเนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้า AMG จึงเพิ่มเสียงจากลำโพงที่มีทั้งด้านใน และด้านนอก เมื่อเร่งความเร็ว และเบรค จะได้ยินเสียงเหมือนกับการขับรถด้วยเครื่องยนต์ V8
EQE SUV จะเริ่มผลิตในช่วงเดือนธันวาคม 2565 ที่โรงงาน Tuscaloosa, Alabama สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงงานเดียวกับที่ผลิต EQS SUV 7 ที่นั่ง และมีความเป็นไปได้สูง ที่จะมีการทำตลาดที่เมืองไทย
เรื่องโดย : พรเทพ คงลาภอำนวย
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/426862