มีผลบังคับใช้แล้ว ! ลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ลดสูงถึง 80 % เป็นระยะเวลา 1 ปี ช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศขณะนี้พระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้แล้ว (เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา) โดยมีสาระสำคัญให้ลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นรถใหม่สำเร็จรูปจากโรงงาน ที่จดทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ โดยภาษีประจำปีจะลดลงร้อยละ 80 ของอัตราที่กำหนดตาม (11) ของอัตราภาษีประจำปีท้ายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 และกำหนดให้ลดภาษีเป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่รถนั้นจดทะเบียน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดปริมาณการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ ลดปัญหาฝุ่น PM2.5 รวมถึงกระตุ้นระบบเศรษฐกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ ใจความในพระราชกฤษฎีกามี 4 มาตรา ประกอบด้วย มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า "พระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า พ.ศ. 2565" มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป) มาตรา 3 ให้ลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นรถใหม่สำเร็จรูปจากโรงงาน ที่จดทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปีนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับลงร้อยละแปดสิบของอัตราที่กำหนดตาม (11) ของอัตราภาษีประจำปีท้ายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติรถยนต์ (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2550 เป็นระยะเวลา 1 ปีนับแต่วันที่รถนั้นจดทะเบียน มาตรา 4 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เป็นการสมควรลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน อ่านต่อ : หัวชาร์จรถ EV มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร ?
บทความแนะนำ