ธุรกิจ
สมาคมประกันวินาศภัยไทย ส่งมอบธนาคารน้ำใต้ดินให้กับจังหวัดร้อยเอ็ด
สมาคมประกันวินาศภัยไทย ส่งมอบธนาคารน้ำใต้ดินให้กับจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเป็นต้นแบบการบริหารจัดการน้ำในการแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมอย่างยั่งยืน ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ รวม 2 อำเภอ จำนวน 4,018 บ่อ
สมาคมประกันวินาศภัยไทย พลิกฟื้นพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ของจังหวัดร้อยเอ็ด สร้างต้นแบบการบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชนเพื่อการมีน้ำใช้อย่างสมดุล ยั่งยืนในรูปแบบธนาคารน้ำใต้ดิน เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ภัยน้ำท่วมให้กับชุมชน ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2563-2565 รวม 3 อำเภอ ได้แก่ หนองฮี สุวรรณภูมิ และเกษตรวิสัย รวม 4 ตำบล 66 หมู่บ้าน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 216,527 ไร่ โดยได้จัดพิธีส่งมอบบ่อน้ำธนาคารน้ำใต้ดิน ในพื้นที่ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ และ ตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จำนวน 4,018 บ่อ มูลค่า 39,417,000 บาท ให้กับจังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ของชุมชน และเป็นต้นแบบในการทำธนาคารน้ำใต้ดินที่สมบูรณ์แบบ เพื่อช่วยแก้ปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วมได้อย่างยั่งยืนให้กับชุมชนอื่นๆ ของประเทศต่อไป
สนอง ดลประสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ให้เกียรติเป็นประธานในการรับมอบ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ณ บ่อน้ำบ้านหนองเบ็ญ ตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
อานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า ตามที่สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมกับ สถาบันน้ำนิเทศศาสนคุณ โดยพระนิเทศศาสนคุณ (หลวงพ่อสมาน สิริปัญโญ) ได้ดำเนินการจัดทำโครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชน เพื่อการมีน้ำใช้อย่างสมดุล และยั่งยืน (ธนาคารน้ำใต้ดิน) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วมให้มีคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถประกอบอาชีพได้โดยไม่ต้องประสบกับภัยแล้ง หรือน้ำท่วมซ้ำซากตามเจตนารมณ์ของสมาคมฯ ในการเปลี่ยนให้พื้นที่ “ทุ่งกุลาร้องไห้ เป็น ทุ่งกุลายิ้มได้” โดยการจัดทำโครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชน เพื่อการมีน้ำใช้อย่างสมดุล และยั่งยืน (ธนาคารน้ำใต้ดิน) ขึ้นในพื้นที่ตำบลดูกอึ่งและตำบลเด่นราษฎร์ อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด หรือที่เรียกว่าโครงการ “หนองฮีโมเดล” ซึ่งถือเป็นโครงการแรก และเป็นต้นแบบการทำธนาคารน้ำใต้ดินที่สมบูรณ์แบบแห่งหนึ่งของไทย มีพื้นที่ดำเนินการรวม 30 หมู่บ้าน ประชากร 3,408 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ 78,913 ไร่ ซึ่งโครงการนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และส่งมอบธนาคารน้ำใต้ดิน จำนวน 3,095 บ่อ ให้กับจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อให้เป็นสาธารณประโยชน์ของชุมชนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อ วันที่ 14 มิถุนายน 2563
นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังได้ต่อยอดโครงการธนาคารน้ำใต้ดินด้วยการสนับสนุนงบประมาณในการขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดิน จำนวน 13 บ่อ ครอบคลุมพื้นที่ 1,700 ไร่ ให้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) วิทยาเขตร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ ตำบลหินกอง อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมกับจัดตั้ง “ศูนย์การเรียนรู้การจัดการน้ำครบวงจรด้วยระบบธนาคารน้ำใต้ดิน” เพื่อเป็นต้นแบบการจัดการน้ำใต้ดินในพื้นที่แห้งแล้งที่อยู่นอกเขตชลประทาน และเป็น “ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพสูง และพืชผลนอกฤดูกาลในภาคอีสาน” เพื่อให้เกษตรกรได้เข้ามาศึกษา และขยายผลวิธีการทำเกษตรกรรมสมัยใหม่ให้เกิดการพัฒนาและสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพต่อไป
จากนั้นในปี 2564 สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ขยายพื้นที่ในการดำเนินโครงการธนาคารน้ำใต้ดินเพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ในเขตทุ่งกุลาร้องไห้มากขึ้น โดยได้จัดทำโครงการบริหารจัดการแหล่งน้ำชุมชน เพื่อการมีน้ำใช้อย่างสมดุลและยั่งยืน (ธนาคารน้ำใต้ดิน) ในพื้นที่ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้ใช้พื้นที่ในการดำเนินงานได้ และได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการฯ โดยการขุดบ่อตามหลักการธนาคารน้ำใต้ดินขนาดต่างๆ รวมทั้งหมด 2,473 บ่อ ครอบคลุมพื้นที่ 88,862 ไร่ รวม 21 หมู่บ้าน และต่อเนื่องมาในปี 2565 ได้ขยายพื้นที่ดำเนินการเพิ่มเติมในตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย ขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดิน จำนวน 1,545 บ่อ ครอบคลุมพื้นที่ 47,052 ไร่ รวม 13 หมู่บ้าน ซึ่งทั้ง 2 โครงการในพื้นที่อำเภอสุวรรณภูมิและอำเภอเกษตรวิสัย ได้ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้ว
ดังนั้นเพื่อให้โครงการดังกล่าวเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อประชาชน และเกษตรกรในพื้นที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า สมาคมประกันวินาศภัยไทย และสถาบันน้ำนิเทศศาสนคุณ จึงได้จัดพิธีส่งมอบโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ในพื้นที่ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ และตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย ให้กับทางจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเป็นต้นแบบในการศึกษา และขยายผลต่อยอดการบริหารจัดการแหล่งน้ำตามระบบธนาคารน้ำใต้ดิน และมอบให้เป็นสาธารณประโยชน์ของชุมชน ประชาชน และเกษตรกรในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ รวมถึงเป็นต้นแบบสำหรับภาครัฐฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนองค์กรที่มีความสนใจให้การสนับสนุน ได้ทำการขับเคลื่อน ขยายผล และต่อยอดแนวคิดในการบริหารจัดการน้ำเช่นนี้ไปใช้ในพื้นที่แห้งแล้งอื่นๆ ของประเทศไทยต่อไป
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ดำเนินการโครงการฯ แล้วเสร็จรวมทั้งสิ้น 3 อำเภอ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ของจังหวัดร้อยเอ็ดทั้งหมด ได้แก่
- อำเภอหนองฮี มีพื้นที่ดำเนินการ ณ ตำบลดูกอึ่งและตำบลเด่นราษฎร์ รวม 30 หมู่บ้านครอบคลุมพื้นที่ 78,913 ไร่ ขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดิน จำนวน 3,095 บ่อ
- อำเภอสุวรรณภูมิ มีพื้นที่ดำเนินการ ณ ตำบลสระคูและตำบลหินกอง (พื้นที่ มทร.อีสาน วิทยาเขตร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องไห้) รวม 23 หมู่บ้าน ครอบคลุมพื้นที่ 90,562 ไร่ ขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดิน จำนวน 2,486 บ่อ
- อำเภอเกษตรวิสัย มีพื้นที่ดำเนินการ ณ ตำบลกู่กาสิงห์ รวม 13 หมู่บ้าน ครอบคลุมพื้นที่ 47,052 ไร่ ขุดบ่อธนาคารน้ำใต้ดิน จำนวน 1,545 บ่อ
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/434880