แม้ในสหรัฐฯ มีความต้องการใช้งานรถแวนขนาดใหญ่จำนวนมาก แต่สำหรับ Sprinter รุ่นปี 2562 มีเครื่องยนต์เบนซิน, ดีเซล และมอเตอร์ไฟฟ้านั้น รุ่น eSprinter ไม่ได้ถูกนำเข้ามาขายในสหรัฐฯ จนกระทั่งในที่สุดโมเดลปี 2567 จึงนำมาขายในสหรัฐฯ
Mercedes-Benz eSprinter ล่าสุดจะวางขายในสหรัฐฯ ได้ในครึ่งปีหลังของปีนี้เป็นต้นไป โดยใช้ฐานการผลิตที่ชาร์ลสตัน, เซาธ์แคโรไลนา ซึ่งผลิต Sprinter เครื่องยนต์สันดาปภายในอยู่แล้ว เพื่อจะลดภาระภาษีนำเข้า รวมถึงค่าขนส่งด้วย
Mercedes-Benz eSprinter ต่างจากรถแวนไฟฟ้าค่ายอื่น ที่ใช้ Platform พื้นฐานเหมือนรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน และติดตั้ง Platform (โมดูล) รถไฟฟ้าที่เรียกว่า EVP (Electric Versatility Platform) ประกอบไปด้วยโมดูลหน้าที่มีชุดควบคุมกระแสไฟฟ้าแรงสูงเหมือนในรถไฟฟ้าทุกแบบ, โมดูลกลางเป็นแพคแบทเตอรีที่มีให้เลือก 3 ขนาด และโมดูลท้ายที่เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว Platform ของ EVP ถูกออกแบบให้มีฐานล้อ 2 ขนาด เช่นเดียวกับโครงสร้างห้องโดยสารที่มี 2 ขนาด
Mercedes-Benz eSprinter วางจำหน่ายในสหรัฐฯ รถแวนหลังคาสูง ฐานล้อยาว มีความจุภายในถึง 488 ลูกบากศ์ฟุต (13.8 ลบ.ม.) และมีน้ำหนักรวม 9,370 ปอนด์ (4.25 ตัน)
Mercedes-Benz eSprinter ในสหรัฐฯ ใช้แบทเตอรีขนาด 113 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขนาดใหญ่ที่สุดที่ใช้กับ Platform ของ EVP ได้ ทำระยะเดินทางได้ระดับ 250 ไมล์ (402 กม.) ตามมาตรฐาน WLTP ส่วนการชาร์จจาก 10-80 % ด้วยระบบชาร์จเร็วกระแสตรง จะใช้เวลาประมาณ 42 นาที
สำหรับมอเตอร์ไฟฟ้ามีให้เลือก 2 ระดับ คือ 134 หรือ 201 แรงม้า ซึ่งทั้ง 2 แบบสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 75 ไมล์/ชม. (120 กม./ชม.)
ภายในปี 2568 ทาง Mercedes-Benz มีแผนพัฒนารถแวนสำหรับงานเบา โดยใช้ Platform ใหม่ Van.EA ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า EVP เพื่อให้บรรลุเป้าหมายขายรถไฟฟ้าเกือบทุกรุ่นภายในปี 2573

