ธุรกิจ
Sharge ตั้งเป้ารายได้โต 7 เท่า ติดตั้งหัวชาร์จสะสม 40,000 จุด
“Sharge” ทะยานสู่เบอร์ 1 ผู้นำ EV Charger ตอบโจทย์ทุก Lifestyle กาง Roadmap “Every Charging Journey” เชื่อมต่อทุกการเดินทางรับดีมานด์ EV Charger พุ่ง เร่งเครื่องติดตั้งหัวชาร์จสะสมทะลุ 40,000 จุดสิ้นปี 66 พร้อมรายได้โต 7 เท่า หลังจำนวนหัวชาร์จเพิ่มขึ้นก้าวกระโดด เล็งขยาย Fast Charger 130 สถานี ติดตั้งเครื่องชาร์จขนาด 120-360 กิโลวัตต์ ความเร็วสูงสุดของโลกขณะนี้ ! จับมือพันธมิตรหลาก Sector บุกเต็มกำ ลัง ลุยติดตั้งจุดชาร์จคุณภาพสูงในคอนโด-บ้าน-โรงแรม-ห้าง-ออฟฟิศ-เจ้าของพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมเปิดกว้างรับพันธมิตรใหม่ต่อเนื่อง เสริมฟังค์ชัน Plug-and-Charge ผนึกค่ายรถพร้อมมอบเครดิทการชาร์จ อำนวยความสะดวกการชาร์จอัตโนมัติ
พีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (Sharge) ผู้นำด้านการสร้าง EV Charging Ecosystem เพื่อตอบโจทย์ Lifestyle การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน เปิดเผยว่า ความต้องการด้าน EV Char ger ในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2565 มียอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบทเตอรี (BEV) อยู่ที่ 20,816 คัน หรือเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 260 % จากปีก่อนหน้า ขณะที่ปี 2566 คาดว่าประเทศไทยจะมียอดขายรถ BEV ทะลุ 100,000 คัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้บริษัทสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับ 1 ให้บริการ EV Charger ครบวงจร ตอบโจทย์ทุก Life style (No.1 Lifestyle EV Charging Operator) ได้ และช่วยให้มีโอกาสสร้างรายได้เติบโตขึ้น 7 เท่า จากปีก่อนหน้า บริษัทจึงเดินหน้าแผน “Every Charging Journey” เชื่อมต่อทุกการเดินทางของผู้ใช้รถ EV เพื่อช่วยลดต้นทุนพลังงานของผู้บริโภค และยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน EV Charger ให้แข็งแกร่ง สร้างความยั่งยืนด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อมให้แก่ประเทศไทย
ภายใต้แผน “Every Charging Journey” บริษัทจะดำเนินการผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. Every Route สร้างความมั่นใจในทุกเส้นทาง ตั้งเป้าหมายติดตั้งจุดชาร์จสะสมถึง 40,000 หัวชาร์จภายในสิ้นปี 2566 เพื่อให้ครอบคลุมการเดินทางตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านไปจนถึงการเดินทางไปยังต่างจังหวัด สร้างความมั่นใจในทุกการขับขี่ พร้อมทั้งสามารถเข้าถึงหัวชาร์จความเร็วสูง (Fast Charger) ขนาด 120-360 กิโลวัตต์ สะสมทั้งหมด 130 สถานี ซึ่งเครื่องชาร์จขนาด 360 กิโลวัตต์ ถือเป็นเครื่องชาร์จความเร็วที่สูงที่สุดในโลกขณะนี้ เพื่อยกระดับบริการด้าน EV Charger ให้ครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานครอบคลุมทั่วประเทศทุกช่วงเวลา
นอกจากนี้ บริษัทยังขยายการให้บริการข้ามพรมแดนไปยังประเทศมาเลเซียเป็นครั้งแรก โดยร่วมกับ Shell และ Porsche Asia Pacific ในการติดตั้ง และให้บริการสถานี “Shell Recharge” สถานีชาร์จยานยนต์พลังงานไฟ ฟ้าประสิทธิภาพสูง (HPC) ขนาด 180 กิโลวัตต์ ขณะเดียวกัน บริษัทยังเดินหน้าพัฒนาแอพพลิเคชัน Sharge ด้วยหลากฟังค์ชันที่ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง ทั้งการค้นหาอัจฉริยะสามารถโชว์จุดชาร์จ EV ตามประเภทหัวชาร์จที่ต้องการ ระบบจองการใช้งานล่วงหน้าได้ 24 ชม. พร้อมระบบคำนวณเวลา และพลังงานที่ช่วยผู้ใช้งานวางแผนการชาร์จ EV ได้อย่างง่ายดาย
2. Every Necessity ตอบโจทย์ทุกระดับความจำเป็นของผู้ใช้งาน ประเมินความสำคัญ และความเร่งด่วนในการติดตั้งของสถานที่แต่ละประเภท พร้อมเร่งบุกเป็นพันธมิตรกับกลุ่มสถานที่ที่มีความจำเป็นต้องมี EV Charger ทันที ณ ปี 2566 (Must Have Location) เพื่อให้กลุ่มสถานที่เหล่านั้นพร้อมรองรับกลุ่มผู้ใช้รถ EV เช่น กลุ่มโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ กลุ่มอาคารขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ที่บริษัทยังคงยืนหยัดเป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาด EV Charger ในที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ Sharge ยังเป็นผู้ให้บริการ EV Charger รายเดียวในไทยที่ผนึกกำลังกับ PEA Encom ในเครือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จัดตั้งบริษัทร่วมทุน Emcom Sharge เพื่อพลิกโฉมระบบนิเวศ EV ประเทศไทย ทำให้บริษัทมีทีมผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการติดตั้ง EV Charger อย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รองรับทุก Lifestyle การเดินทางของผู้ใช้รถ EV ทั่วประเทศ รวมทั้งขยายจำนวนหัวชาร์จภายใต้ความดูแลของ Sharge ได้ตามเป้าหมาย
“จากกระแสความนิยมรถ EV ทำให้การขยายสถานีบริการ EV Charger ตามอาคาร และสถานที่ต่างๆ ให้มากที่สุดเป็นภารกิจที่สำคัญในขณะนี้ ซึ่งที่ผ่านมา Sharge ได้นำโนว์ฮาว และทีมงานมืออาชีพมาช่วยขยายจำนวนสถานีชาร์จ EV ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงร่วมกับพันธมิตรองค์กรธุรกิจต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เรามี EV Charging Network ที่แข็งแกร่งมากที่สุดรายหนึ่งในตลาด”
3. Every Lifestyle รองรับทุก Lifestyle การชาร์จของผู้ใช้งานทั้ง 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย Night กลุ่มผู้ใช้บริการชาร์จที่เน้นการชาร์จที่บ้านในช่วงกลางคืน มีสัดส่วนอยู่ที่ 70 % ของผู้ใช้งานทั้งหมด โดยคาดว่าจะมีหัวชาร์จเพิ่มเติมในปีนี้อีกราว 31,000 จุด เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งานในกลุ่มนี้ Day กลุ่มผู้ใช้บริการชาร์จระหว่างวัน เน้นการชาร์จที่จุดหมายปลายทาง เช่น ศูนย์การค้า แหล่ง Lifestyle อาคารสำนักงาน มีสัดส่วนอยู่ที่ 15 % พร้อมรองรับด้วยจำนวนหัวชาร์จเพิ่มเติมในปีนี้อีกราว 1,000 จุด และ On-The-Go กลุ่มผู้ใช้บริการชาร์จที่เน้นการชาร์จตามสถานีบริการระหว่างเดินทางข้ามจังหวัด หรือสถานที่อื่นๆ มีสัดส่วนที่ 15 % จากผู้ใช้งานทั้งหมด รองรับบริการครอบคลุมทุกเส้นทางด้วยหัวชาร์จสะสมมากกว่า 520 จุด
ที่ผ่านมา บริษัทได้ร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ อาทิ แสนสิริ, Property Perfect, พฤกษา ผู้ให้บริการพลังงาน เช่น PEA Encom ในเครือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, Shell, บางจาก ผู้ผลิต และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เช่น Audi, Mercedes-Benz, Porsche, Rever Automotive ตัวแทนจำหน่าย และผู้ให้บริการหลังการขายของ BYD และกลุ่มผู้มียานพาหนะให้บริการจำนวนมาก (Fleet Operator) เช่น เรือด่วนเจ้าพระยา รวมถึงบริษัท Logistics บริษัทที่ให้บริการด้านการขนส่งคน และสิ่งของ เพื่อเพิ่มจำนวนจุดชาร์จให้ครอบคลุม และเพียงพอสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ปัจจุบัน บริษัทยังคงเปิดกว้างในการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงาน องค์กร ตลอดจนเจ้าของพื้นที่ (Location Owner) ทุกประเภททุก Sector เพื่อขยายการติดตั้ง และให้บริการ EV Charger ในสถานที่ และพื้นที่ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ Sharge ยังเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตร ส่งมอบสิทธิพิเศษให้แก่ผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่องในรูปแบบ Lifestyle & Privilege Programs ทั้ง Program สะสมคะแนน และสิทธิประโยชน์ต่างๆ อาทิ สะสมคะแนน Shell Go+ เมื่อใช้บริการในสถานี Shell Recharge พร้อมรับส่วนลดพิเศษ เอกสิทธิ์เฉพาะลูกค้า Shell-Porsche, สะสม หรือแลกเปลี่ยนคะแนนสำหรับสมาชิก The1 และสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ สำหรับสมาชิกร่วมกับพันธมิตรเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ระบบ Plug-and-Charge ร่วมกับค่ายพันธมิตรรถยนต์ มอบเครดิทการชาร์จแบบ Exclusive ให้แก่ลูกค้าใหม่ของพันธมิตรผ่านการผูกบัญชีไว้กับเลขตัวถังรถ เพียงเสียบชาร์จรถ EV ที่ผูกเลขตัวถังรถไว้กับหัวชาร์จของ Sharge ระบบจะดำเนินการชาร์จ และตัดเครดิทการชาร์จให้อัตโนมัติ ลดเวลา และขั้นตอน เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งาน โดยปัจจุบัน พัฒนาระบบ และสิทธิพิเศษดังกล่าวให้แก่ Porsche เรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ และสิทธิพิเศษให้แก่ทาง BYD
พีระภัทร กล่าวอีกว่า การเดินหน้าแผน Every Charging Journey จะทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่ง สามารถก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำอันดับ 1 ให้บริการ EV Charger ครบวงจร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ (No.1 Lifestyle EV Charging Operator) ช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึง EV Charger ได้อย่างทั่วถึง ลดการเกิดมลภาวะที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการสร้างการเติบโตให้แก่บริษัท โดยคาดว่าปี 2568 บริษัทจะมีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2565
สำหรับบริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ Sharge เป็นผู้นำอันดับต้นๆ ของไทยที่ให้บริการ EV Charging Solution แบบครบวงจรทั้งด้าน Software และ Hardware เพื่อรองรับ Lifestyle Charging Ecosystem ทั้ง Night, Day, On-The-Go เติบโตมาจากการเป็นสตาร์ทอัพ มีบริษัทขนาดใหญ่จากหลากหลาย Sector เข้าร่วมลงทุนเป็นผู้ถือหุ้น อาทิ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ Siri บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหา ชน) หรือ BCP และบริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด ทั้งยัง ร่วมกับ บริษัท พีอีเอ เอ็นคอม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PEA Encom) ในเครือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จัดตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท เอ็นคอม ชาร์จ ยูทิลิตี เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ Encom Sharge ดำเนินธุรกิจให้บริการติดตั้ง EV Charger ตามที่อยู่อาศัย ทั้งบ้าน และคอนโดมิเนียมในพื้นที่ต่างจังหวัดทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ปัจจุบัน Sharge ให้บริการธุรกิจแก่ลูกค้าใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. Charger Sales & Installation ขาย และติดตั้งเครื่องชาร์จให้แก่เจ้าของบ้านจัดสรร บ้านส่วนตัว 2. Charging as a Service ขายพลังงานไฟฟ้าสำ หรับชาร์จรถยนต์ EV ตามจุดให้บริการสาธารณะต่างๆ หรือตามอาคารที่มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก เช่น คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล 3. Custom Corporate & Fleet Solution ขายพลังงานไฟฟ้าให้แก่องค์กรเอกชน และผู้ให้บริการยานพาหนะจำนวนมาก



ABOUT THE AUTHOR

นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี พร้อมได้ เปิดโลก ได้พัฒนาตัวในแวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
คำค้นหา