ธุรกิจ
Lamborghini LB744 แนะนำนวัตกรรมโครงสร้างแบบใหม่
Sant’Agata Bolognese-Automobili Lamborghini นำเสนอนวัตกรรมโครงสร้างแบบใหม่ล่าสุด “Monofuselage” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวถัง Monocoque ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน โดยถูกผลิตด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด ซึ่ง Monofuselage มีโครงสร้างส่วนหน้าเป็น Forged Composites ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษที่ผลิตจากชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ขนาดเล็ก ชุบด้วยเรซิน โดย Lamborghini ได้จดสิทธิบัตร Technology นี้ และเริ่มใช้ในการผลิตโครงสร้างเป็นครั้งแรกมาตั้งแต่ปี คศ. 2008
โครงสร้าง Monofuselage แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญต่อจากรุ่น Aventador ทั้งในด้านประสิทธิภาพความแข็งแรง ทนต่อแรงบิด คุณสมบัติน้ำหนักเบา และพลศาสตร์การขับขี่ นอกจากนี้ LB744 ยังเป็นรถ ยนต์ Super Sport รุ่นแรกที่ใช้โครงสร้างส่วนหน้าเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ 100 % โดยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ยังใช้กับโครงรูปโคนส่วนหน้าเพื่อยกระดับการดูดซับพลังงาน ซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างโลหะแบบดั้งเดิม และมากกว่าเป็น 2 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับโครงส่วนหน้าแบบอลูมิเนียมของรุ่น Aventador บวกกับคุณสมบัติน้ำหนักที่เบาลงอย่างมาก
ข้อเท็จจริง คือ โครงสร้าง Monofuselage ของ LB744 มีน้ำหนักเบากว่าโครง Chassis ของรุ่น Aventador ถึง 10 % และโครงส่วนหน้าเบากว่าโครงอลูมิเนียมของรุ่นก่อนหน้าถึง 20 % นอกจากนี้ ความแข็งแรง และทนต่อแรงบิดยังเพิ่มขึ้นไปที่ 40,000 Nm/° ซึ่งสูงขึ้น 25 % เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Aventador ซึ่งการันตีสมรรถนะที่เป็นเลิศด้านพลศาสตร์ที่ดีที่สุดใน Class อีกด้วย
แนวคิดเบื้องหลังการพัฒนาโครงสร้าง Monofuselage รุ่นใหม่นี้มีพื้นฐานมาจากการผสมผสานขั้นสูงสุดขององค์ประกอบต่างๆ โดยเกิดจากการนำ Forged Composites Technology มาใช้งานอย่างครอบคลุม รวมไปถึงการพัฒนา Rocker Ring ขนาดใหญ่ ซึ่งการใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ขั้นสูงนี้ยังทำให้ LB744 อวดความโดดเด่นบนเวทียานยนต์ Super Sport ได้อย่างสง่างาม โดยชิ้นส่วนรูปวงแหวนเดี่ยวนี้ผลิตจากวัสดุ CFRP เพื่อเป็นโครงสร้างรับน้ำหนักของตัวรถยนต์ Rocker Ring จะติดตั้งล้อมรอบ และเชื่อมต่อกับชิ้นส่วน Forged Composites อื่นๆ อาทิ โครงส่วนห้องโดยสาร ผนังห้องเครื่อง และโครงส่วน A Pillar เป็นต้น
การผลิตชิ้นส่วน Forged Composites ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และส่งเสริมความยั่งยืนในกระบวนการผลิต ผ่านการลดอัตราการใช้พลังงานของอุปกรณ์หล่อเย็น และลดปริมาณของเศษขยะวัสดุต่างๆ ให้น้อยลง
ในส่วนการผลิตโครงหลังคา ยังคงใช้ Technology การผลิตจากเครื่อง Autoclave ซึ่งไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพของความแข็งแกร่งลดลง โดย Technology ดังกล่าวได้ถูกผสานเข้ากับมาตรฐานด้านเทคนิค ความงาม และคุณภาพระดับสูง เสริมด้วยงานฝีมือในกระบวนการขึ้นรูปที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงซึ่งสั่งสมจากประสบการณ์นานนับปีในการผลิตชิ้นส่วน Composit ของบริษัทที่มุ่งเน้นที่คุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ถือเป็นแนวทางการผลิตที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกแบบหลังคาได้หลากหลาย และตรงใจมากที่สุด
โครงสร้าง Chassis ส่วนท้ายผลิตจากอลูมินัมอัลลอยคุณภาพสูง และมีการสร้างโพรง 2 ตำแหน่งสำคัญในส่วนโดมท้ายรถ โดยสิ่งนี้จะเป็นตัวรองรับระบบช่วงล่างหลัง และระบบส่งกำลังให้เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยมีจุดประ สงค์หลักเพื่อลดน้ำหนัก เพิ่มความแข็งแกร่ง และลดจุดเชื่อมต่อของโครงสร้างได้อย่างมาก
LB744 ยังเป็นเสมือนการนับ “ปีที่ศูนย์” เพื่อเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงสู่การใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในการผลิตรถยนต์ซึ่งใช้ตัวย่อว่า AIM (Automation, Integration, Modularity) โดย “Automation” หมายถึงการใช้กระ บวนการผลิตอัตโนมัติระบบ Digital ในการแปรรูปวัสดุ พร้อมกับการอนุรักษ์การผลิตแบบดั้งเดิมของ Lamborghini อาทิ ศาสตร์การใช้วัสดุ Composit เป็นต้น
“Integration” คือ การผสานฟังค์ชันต่างๆ ให้มารวมอยู่ในชิ้นส่วนเดียวผ่านการพัฒนากระบวนการขึ้นรูปแบบบีบอัด (Compression Moulding) กระบวนการนี้ใช้ Polymer ที่ถูกให้ความร้อนก่อน (Preheated Polymers) เพื่อให้สามารถผลิตชิ้นส่วนที่มีความยาว ความหนา และความซับซ้อนที่แตกต่างกันได้ ทั้งยังช่วยรับประกันการผสานเข้ากันของชิ้นส่วนต่างๆ ได้เป็นอย่างดีเพื่อสร้างความแข็งแกร่งต่อแรงบิดในระดับสูง และสุดท้าย “Modularity” หมายถึงการสร้าง Technology ประยุกต์แบบ Modular เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น และประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมรองรับข้อกำหนด และลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์ได้ทุกรูปแบบ
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม ที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี เปิดโลกได้พัฒนาตัวเองกว่า 30 ปี แวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคำค้นหา