ทดลองขับ
Riddara RD6 ครอสส์โอเวอร์พิคอัพ 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาที
Riddara RD6 ครอสส์โอเวอร์เอสยูวี 4 ประตูท้ายกระบะ หรือเราจะเรียกว่า ครอสส์โอเวอร์พิคอัพ มีรูปร่างหน้าตาแบบครอสส์โอเวอร์เอสยูวี แต่เปิดหลังคาช่วงท้าย เปลี่ยนพื้นที่เบาะแถวที่ 3 และห้องเก็บสัมภาระหลัง เป็นกระบะบรรทุก คล้ายกับ Rivian R1T
Riddara RD6 ในรุ่น 2WD มอเตอร์เดี่ยว กำลังสูงสุด 200 kW (272 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 385 Nm (39.3 กก.ม.) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม. และรุ่น 4WD มี 2 มอเตอร์ กำลังรวมสูงสุด 315 kW (428 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 595 Nm (60.7 กก.ม.) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.
โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ประกอบด้วย
2WD ขับเคลื่อนล้อหลัง
- ขนาดแบทเตอรี 63 kWh
- ขนาดแบทเตอรี 73 kWh
4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- ขนาดแบทเตอรี 73 kWh
- ขนาดแบทเตอรี 86 kWh
ลองขับรอบนี้ บริษัท ริดดารา ออโต้โมบาย (ประเทศไทย) จำกัด จัดรถตัวทอพมาให้ได้ขับ คือ รุ่น 4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ ขนาดแบทเตอรี 86 kWh และ 2WD ขับเคลื่อนล้อหลัง ขนาดแบทเตอรี 73 kWh
ครอสส์โอเวอร์ผสมพิคอัพ กระบะท้ายเปิด ล้อปิด
ด้วยพื้นฐานครอสส์โอเวอร์เอสยูวี Riddara RD6 ส่วนของกระบะท้ายรวมอยู่กับห้องโดยสาร ทำให้ดูแปลกตาและต่างจากพิคอัพ 4 ประตูที่เราคุ้นเคย ที่แยกออกเป็น 3 ส่วน คือ หัวเก๋ง กระบะท้าย และแชสซี แบบเดียวกับพิคอัพตอนเดียว
ไฟหน้าแบบ LED ไฟส่องสว่างสำหรับการขับเวลากลางวันแบบ LED ไฟท้ายแบบ LED คาดยาวซ้ายถึงขวา กระจังหน้าแบบทึบ ในรุ่น 2WD สีดำเงา กับตัวอักษร RIDDARA บนฝากระโปรง ในรุ่น 4WD กระจังหน้าตัวอักษร RIDDARA แบบ LED มีบันไดข้าง และตะขอลากจูง
ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองข้างพับไฟฟ้า ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh ส่วนรุ่นทอพ 4WD 86 kWh มาพร้อมระบบที่ไล่ฝ้ากระจกมองข้าง
รุ่นทอพ 4WD 86 kWh เพิ่มบันไดท้ายกระบะ และราวหลังคาอลูมิเนียม
ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/60 R18 เป็นอีกส่วนที่ดูแปลก ด้วยดีไซนจ์ ปิดทึบแบบรถไฟฟ้า 100% กับการลุย ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh ที่ใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว และยาง 235/65 R17 ลายก้านที่คุ้นตาและเข้ากับพิคอัพมากกว่า
ขนาดตัวพอๆ กับพิคอัพ 4 ประตู เครื่องยนต์ดีเซล
Riddara RD6 มีมิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 5,260/1,900/1,880 มม. ความยาวฐานล้อ 3,120 มม. จุดต่ำสุดของตัวรถห่างจากพื้น 225 มม. ขนาดตัวพอๆ กับพิคอัพ 4 ประตู เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ อย่าง
Isuzu V-Cross 3.0 Ddi M 4-door (5,280/1,870/1,790 มม. กับ 3,125/240 มม.)
Mazda BT-50 DBL 3.0 XTR 4x4 (5,280/1,870/1,790 มม. กับ 3,125/240 มม.)
Mitsubishi Triton Double Cab Athlete 4WD (5,320/1,865/1,795 มม. กับ 3,130/222 มม.)
Nissan Navara Double Cab Pro-4X (5,260/1,875/1,840 มม. กับ 3,150/225 มม.)
Toyota Hilux Revo Double Cab 4X4 2.8 Rocco (5,325/1,900/1,815 มม. กับ 3,085/217 มม.)
แต่ยังเล็กกว่า พี่ใหญ่อย่าง Ford Ranger Double Cab Wildtrak (5,370/1,918/1,884 มม. กับ 3,270/235 มม.)
บรรทุก 1 ตัน ขอบกระบะสูงเท่ากับ Ford Ranger
ด้วยพื้นฐานครอสส์โอเวอร์เอสยูวี Riddara RD6 ส่วนของกระบะท้ายรวมอยู่กับห้องโดยสาร ทำให้ต่างจากพิคอัพ 4 ประตูที่เราคุ้นเคย ที่แยกออกเป็น 3 ส่วน คือ หัวเก๋ง กระบะท้าย และแชสซี แบบเดียวกับพิคอัพตอนเดียว
โครงตัวถัง Riddara RD6 มีความแข็งแกร่งรับการบิด 30,300 Nm/degree ตามสเปค Riddara RD6 มีความสามารถบรรทุก 1,030 กก. โดยมีมิติกระบะ ยาว/กว้าง/สูง 1,525/1,450/540 มม. ขอบกระบะสูงกว่าพิคอัพ 4 ประตู
Isuzu V-Cross และ Mazda BT-50 (1,495/1,530/490 มม.)
Mitsubishi Triton (1,555/1,545/525 มม.)
Nissan Navara (1,470/1,495/520 มม.)
Toyota Hilux Revo Double Cab 4X4 2.8 Rocco (1,555/1,540/480 มม.)
ยกเว้น Ford Ranger Double Cab Wildtrak (1,564/1,584/540 มม.) ที่สูงเท่ากัน
ภายในกระบะท้าย Riddara RD6 หุ้มด้วยวัสดุคอมโพสิตที่มีความแข็งแกร่งสูงจาก STC (Super toughness concrete)
ภายในหรูสไตล์ครอสส์โอเวอร์ หน้าจอ 14.6 นิ้ว
มาตรวัดหน้าจอแสดงผล LED ขนาด 10.2 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Carbit link พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง ภาษาไทยและอังกฤษ ยกเว้นรุ่น 2WD 63 kWh จะเป็นขนาด 12.3 นิ้ว และรองรับแค่ภาษาอังกฤษ Riddara RD6 ยังสะดวกด้วยควบคุมระยะไกลผ่านแอปพลิเคชัน
เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าแบบ 6 ทิศทาง (รุ่น 2WD 63 kWh ที่มีแต่ด้านคนขับ) กระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน แบบ One-Touch พร้อมระบบป้องกันการหนีบ ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh เบาะหลังแยกพับแบบ 60:40 มีจุดยึดเบาะเด็กแบบ ISOFIX แต่ไม่มีเซนเซอร์ตรวจและแจ้งเตือนให้ใส่เข็มขัดนิรภัยเบาะหลังทั้ง 3 ตำแหน่ง เหมือนกับรถไฟฟ้าค่ายอื่นๆ
ในรุ่น 4WD ยังติดตั้งระบบระบายอากาศ เบาะหน้า/หลัง (เป็นอุปกรณ์เสริม ในรุ่น 2WD 73 kWh) ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกรอง CN95 และ PM 2.5 ส่วนแท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย 50 W และไฟส่องกระบะท้าย ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh
ที่เก็บของภายในมีมาให้ทั้งในคอนโซลกลาง ในรุ่น 4WD 86 kWh ยังมีกล่องเก็บของใต้ฝากระโปรงหน้ารถขนาด 70 ลิตร และใต้เบาะหลังขนาด 48 ลิตร
4WD 315 kW (428 แรงม้า) 0-100 กม./ชม. 4.5 วินาที
มอเตอร์ Permanent Magnet Synchronous Motor เกียร์อัตโนมัติ
ในรุ่น 2WD มอเตอร์เดี่ยว กำลังสูงสุด 200 kW (272 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 385 Nm (39.3 กก.ม.) ขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กม./ชม.
ในรุ่น 4WD มี 2 มอเตอร์ กำลังรวมสูงสุด 315 kW (428 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 595 Nm (60.7 กก.ม.) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาที เร่งแซง 60-100 / 80-120 กม./ชม. 2-3 วินาที ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.
แบทเตอรี 3 ขนาด 2 แบบ ไกลสุด 460 กม.
Riddara RD6 ติดตั้งแบทเตอรีแบบ Lithium-ion Phosphate ยกเว้น รุ่นทอพ 4WD 86 kWh ที่ใช้แบทเตอรีแบบ Ternary Lithium
ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC)
373 กม. ในรุ่น 2WD 63 kWh
461 กม. ในรุ่น 2WD 73 kWh
424 กม. ในรุ่น 4WD 73 kWh
455 กม. ในรุ่น 4WD 86 kWh
ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ในรุ่น 2WD 73 kWh ใช้งานจริงใกล้เคียง 400 กม. สำหรับตัวแรงรุ่น 4WD 86 kWh รอบนี้มีตัวเลขถึง 380 กม. แต่ถ้าจัดหนักก็เหลือแค่ 300 กม. ก็โอเคแล้ว
โหมดการขับขี่ รุ่น 2WD มี 3 โหมด Eco/Comfort/Sport รุ่น 4WD มี 7 โหมด Sand/Mud/Off-road/Wading/Eco/Comfort/Sport
ชาร์จได้ตั้งแต่ 90 kWh ไปถึง 110 kWh
ชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC แบทเตอรี 30 - 80%
รุ่น 2WD 63 kWh สูงสุด 90 kWh ใช้เวลา 32 นาที
รุ่น 2WD และ 4WD 73 kWh สูงสุด 110 kWh ใช้เวลา 30 นาที
รุ่น 4WD 86 kWh สูงสุด 100 kWh ใช้เวลา 32 นาที
ชาร์จธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC ได้ 6.6 kWh แบทเตอรี 20-100 %
รุ่น 2WD 63 kWh ใช้เวลา 7.8 ชม.
รุ่น 2WD และ 4WD 73 kWh ใช้เวลา 9.3 ชม.
รุ่น 4WD 86 kWh ใช้เวลา 32 นาที
นอกจากการชาร์จไฟจากภายนอก Riddara RD6 ยังมีการนำเอาพลังงานกลับมาใช้ ด้วยการ Regenerative Braking 3 ระดับ
Riddara RD6 มีระบบการจ่ายไฟ ที่หลากหลายยิ่งกว่าเพาเวอร์แบงค์ ในกระบะท้ายชุดจ่ายไฟ 6 kWh ยังมีชุดจ่ายไฟมาตรฐานยุโรป โดยสามารถจ่ายไฟทั้ง ขณะจอด/ขณะขับ/ขณะลอครถ/ขณะกำลังชาร์จรถ ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh
ลากพ่วง 3,000 กก. ลุยน้ำได้ลึก 815 มม.
ระบบรองรับ
ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ พร้อมชอคอัพและคอล์ยสปริง ระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ และพวงมาลัยไฟฟ้า EPS แบบครอสส์โอเวอร์เอสยูวี
Riddara RD6 ไม่เพียงแบกน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 1,030 กก. ยังมีกำลังในการลากจูง โดยรุ่น 2WD สามารถลากพ่วงน้ำหนัก 2,500 กก. ได้ และรุ่น 4WD สามารถลากพ่วงที่มีน้ำหนักมากถึง 3,000 กก.
Riddara RD6 มีความสามารถในการไต่ทางชัน รุ่น 2WD ทำได้ 55% และ รุ่น 4WD ทำได้ 95%
ส่วนการลุยน้ำได้ลึก 500 มม. ในรุ่น 2WD และ 815 มม. ในรุ่น 4WD
Riddara RD6 มีระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ 14 ระบบ ประกอบด้วย ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICC) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (AEB) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKA) ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ระบบเตือนก่อนเปิดประตู (DOW) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสียงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW) และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (FDA) ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh
กล้องมองภาพรอบคัน 540° พร้อมระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (กล้องมองหลังขณะถอยจอดความละเอียดสูง ในรุ่น 2WD 63 kWh) ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB ระบบ Auto Hold ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESC) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (EBA) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HHC) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ระบบตรวจสอบความดันลมยาง (TPMS) ยกเว้น รุ่น 2WD 63 kWh ถุงลมนิรภัย 6 จุด (4 จุด ในรุ่น 2WD 63 kWh) การเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้า ระบบลอคประตูหลังสําหรับเด็ก ยางอะไหล่ (T145/80 R18) ในรุ่น 2WD เป็นอุปกรณ์เสริม
Riddara RD6 แม้ว่าจะถูกจำกัดด้วยระยะทาง และรูปร่างหน้าตา ที่ตอบโจทย์ได้ไม่ทุกกลุ่ม แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนที่ได้ลองขับ จะบอกว่าเขามาเหนือขีดจำกัดของครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี และพิคอัพ ทั้งเรื่องการขับขี่ ความสะดวกสบาย และการใช้งานอเนกประสงค์ ซึ่งอาจจะต้องมองกันไปนานๆ
ราคา Riddara RD6 ก็น่าสนใจ 2WD ขับเคลื่อนล้อหลัง ก็ไม่ถึงล้าน ส่วน 4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ
2WD ขับเคลื่อนล้อหลัง
63 kWh ราคา 899,000 บาท
73 kWh ราคา 999,000 บาท
4WD ขับเคลื่อน 4 ล้อ
73 kWh ราคา 1,149,000 บาท
86 kWh ราคา 1,299,000 บาท
ส่วนเรื่องมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ เขียว ขาว ดำ เทา และน้ำเงิน