ทดลองขับ
BYD Tang EV AWD ครอสส์โอเวอร์ไฟฟ้า 500 แรงม้า
BYD Tang ซึ่งตั้งชื่อตามราชวงศ์โบราณในยุครุ่งเรืองสุดสุดของจักรวรรดิจีน เป็น Mid-Size Crossover SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกลาง ขนาด D-Segment รุ่นแรก เปิดตัวในปี 2014 และมีจำหน่ายในรูปแบบ PHEV (Plug-in Hybrid) หรือไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี เท่านั้น เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าแบบ PHEV ที่มียอดขายสูงสุดในประเทศจีน และขายดีที่สุดในโลกในปี 2016 และเปิดตัวรถรุ่นที่ 2 ในปี 2018 โดยมีทั้งรถขับเคลื่อนล้อหน้า และรถขับเคลื่อนทุกล้อ มีทั้งรถ PHEV และรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ EV (BEV) มีทั้งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง (2+3) และ 3 แถว 7 ที่นั่ง (2+3+2)
BYD Tang EV เป็นโมเดลที่ส่งไปจำหน่ายในหลายประเทศของยุโรป และปรับใหม่ หรือ Facelift อีกครั้งทั้งภายใน และภายนอก หลังจากผ่านไป 4 ปี คือ ในปี 2022 ซึ่งก็คือ รุ่นที่ BYD จัดมาให้ได้ทดลองขับในครั้งนี้
BYD Tang EV 2022 ยังคงรักษาภาพลักษณ์ในแบบ Crossover SUV 6 ที่นั่ง (2+2+2 ) มีขนาดความยาว 4,900 มม. กว้าง 1,950 มม. และสูง 1,725 มม.
BYD Tang EV 2022 ติดตั้งกันชนแบบสปอร์ท ดีไซจ์นภายนอกจะดูคล้ายคลึงกับรถยนต์ BYD หลายๆ รุ่น ด้วยการออกแบบด้านหน้าแบบ Dragon Face หรือหน้ามังกร มาพร้อมกับกระจังหน้าแบบปิดทึบพร้อมด้วยชุดไฟหน้าแบบ LED ที่มีการเล่นเส้นสายให้รับการชุดกระจังหน้า
ด้านหลังมาพร้อมกับไฟท้ายแนวนอนแบบยาวเหมือนกับรถยนต์ BYD อีกหลายๆ รุ่น และมีการเพิ่มสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ชุดกันชนท้ายสไตล์ SUV
การออกแบบภายในใหม่ทั้งหมด แดชบอร์ดที่โฉบเฉี่ยว และดูหรูหราขึ้น การตกแต่งโทนสีขาวช่วยให้บรรยากาศภายในห้องโดยสารดูโปร่ง โล่งสบาย ด้านหน้าจะมาพร้อมกับหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งสามารถควบคุมค่าต่างๆ ของตัวรถ และพวงมาลัยทรง D-Shape แบบเว้าหลบขา แบบ 2 ก้าน พร้อมพโรเซสเซอร์ 8-Core ระบบเสียง Dynaudio 12 ตำแหน่ง ทั้งยังมาพร้อมระบบเครือข่ายอัจฉริยะ Di Link 4.0 (5G) และฟังค์ชันขับอัตโนมัติ Di Pilot ADAS และหน้าจอ Head-up W-HUD
หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว
เบาะนั่งแบบ 3 แถว เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะนั่ง Nappa หนังเกรด A พร้อมฟังค์ชันนวด 10 จุดคนขับ และผู้โดยสารหน้า และแถว 2 นวด 5 จุด เบาะนั่งไฟฟ้าแถว 2 แบบ Caption Seat แยกอิสระซ้าย/ขวา พร้อมที่พักแขน มีระบบระบายอากาศ ปรับอุณหภูมิได้ พร้อมระบบนวดหลัง และยังมีรุ่นเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง ให้เลือกกันตามปกติ
BYD Tang EV 2022 ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรี BYD Blade Battery โดยมี 3 ขุมพลังไฟฟ้าให้เลือก
รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลัง 517 แรงม้า (380 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 71.4 กก.-ม. (700 นิวตัน-เมตร) แบทเตอรีขนาด 108.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 635 กม./ชาร์จ (ตามมาตรฐาน CLTC หรือ China Light-Duty Vehicle Test Cycle) อัตราชาร์จเร็ว DC 30-80 % ภายใน 30 นาที
รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD Long Range model มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้กำลัง 241 แรงม้า แรงบิด 35.7 กก.-ม. (350 นิวตัน-เมตร) แบทเตอรีขนาด 108.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 730 กม./ชาร์จ (CLTC) อัตราชาร์จเร็ว DC 30-80 % ภายใน 30 นาที
รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้กำลัง 225 แรงม้า แรงบิด 35.7 กก.-ม. (350 นิวตัน-เมตร) แบทเตอรีขนาด 90.3 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 600 กม./ชาร์จ (CLTC) อัตราชาร์จเร็ว DC 30-80 % ภาย ใน 30 นาที
สำหรับคันที่เราทดลองขับ ติดตั้งระบบขับเคลื่อนทุกล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor จำนวน 2 ชุด ให้กำลังรวมสูงสุด 517 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 71.4 กก.-ม. ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรี BYD Blade Battery ที่มีความจุมากถึง 108.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม.
แต่ถ้าชอบขับไปไกลๆ ก็คงต้องไปดูรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง RWD Long Range Model แบบมอเตอร์เดี่ยว มีระยะการขับขี่/การชาร์จ 1 ครั้งได้ไกลถึง 730 กม. มากกว่ารุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD แบบมอเตอร์คู่ ที่มีระยะการขับขี่อยู่ที่ 635 กม. (CLTC) หรือ 505 กม. (NEDC)/การชาร์จแต่ละครั้ง ด้วยความจุแบทเตอรีที่มากกว่าในรุ่นก่อนปรับโฉม (86.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง) และมีอัตราการใช้ไฟเฉลี่ยอยู่ที่ 17.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง/ 100 กม. ดีกว่าเดิมที่ได้ 15.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม.
BYD Tang EV รุ่นปรับโฉม จะรองรับการชาร์จแบบกระแสตรง DC สูงสุด 170 กิโลวัตต์ ทำให้การชาร์จเพียง 10 นาที จะวิ่งระยะทาง เพิ่มขึ้นถึง 140 กม. และ 30-80 % ในเวลาเพียง 30 นาที
ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ยาง 265/45 R21 เบรค Brembo คาลิเพอร์แบบ 6 ลูกสูบ มาพร้อมกับระบบ IPB ของ Bosch เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยให้เบรคได้อย่างราบรื่น และจาก 100-0 กม./ชม. ใช้ระยะเบรคเพียง 36 ม.
ช่วงล่างได้รับการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมัน ระบบกันสะเทือนด้านหน้า/หลังแบบอิสระจากอลูมิเนียมทั้งหมด พร้อมการตอบสนองที่รวดเร็ว สมรรถนะสูง และน้ำหนักที่ลดลง แชสซีส์ให้ความสบาย มั่นคง และนุ่มนวลตลอดการขับขี่ แม้ขณะกำลังเร่งความเร็ว
ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน BYD Tang EV ติดตั้งอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ขับขี่ล่าสุด รวมถึงคุณสมบัติความปลอดภัยล้ำสมัย 25 รายการ เช่น กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ HD 360 องศา เรดาร์กลางแจ้ง 11 ตัว และระบบ ADAS
BYD Tang EV AWD ราคาในประเทศจีนอยู่ที่ 340,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 1,470,000 บาท ส่วนในบ้านเราคงต้องรอ บริษัท เรเวอร์ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้แทนจำหน่าย BYD ตัดสินใจกันอีกครั้ง
ข้อมูลจำเพาะ BYD Tang EV AWD
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,900/1,950/1,725
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,650/1,630
ฐานล้อ (มม.) 2,820
น้ำหนัก (กก.) 2,560
มอเตอร์ไฟฟ้า
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 517/0
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 71.4/0
ประเภทแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน
ความจุแบทเตอรี (กิโลวัตต์ชั่วโมง) 108.8
ระยะทางวิ่งสูงสุด (กม. CLTC) 635
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติแปรผัน
ขับเคลื่อน (ล้อ) 4
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง มัลทิลิงค์ (5-Link)
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้าผ่อนแรง
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี อีเอสพี
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน
เรื่องโดย : Thanasan Saowamol
ภาพโดย : BYD
คอลัมน์ Online : ทดลองขับ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/446873