ธุรกิจ
MGC-Asia ประกาศราคาเสนอขาย IPO ที่ 7.95 บาท/หุ้น
บมจ. มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ “มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-Asia” เคาะราคาเสนอขาย IPO ที่ราคา 7.95 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อตั้งแต่วันที่ 18-20 เมษายนนี้ เพื่อนำไปลงทุนขยายระบบนิเวศทางธุรกิจตามแผนยุทธศาสตร์ และปรับโครงสร้างเงินทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมวาง 4 กลยุทธ์ รุกขยายพอร์ทธุรกิจ เตรียมความพร้อมมุ่งสู่ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่าย และให้บริ การหลังการขายยานยนต์ไฟฟ้า มุ่งบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และยกระดับบริการด้วยเทคโนโลยีเตรียมความพร้อมสู่ Digi-Tech Lifestyle Mobility บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือมิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-Asia ได้แต่งตั้งบริษัท หลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และบริษัท หลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ร่วมกันเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย พร้อมแต่งตั้งผู้จัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายอีก 3 ราย ประกอบด้วย (1) บริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (2) บริษัท หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ (3) บริษัท หลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด
ดร. สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-Asia ได้วางแผนยุทธศาสตร์ขยายระบบนิเวศทางธุรกิจ MGC-Asia Ecosystem ด้วยโมเดลธุรกิจที่โดดเด่น และแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ผ่านการขยายฐานผลิตภัณฑ์ บริการ และกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุม เพื่อเพิ่มความแข็ง แกร่ง และศักยภาพการเติบโต สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทาง (Lifestyle Mobility) ได้อย่างครบวงจร
ปัจจุบัน ระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ มีสินค้า และบริการที่หลากหลาย ประกอบด้วย ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ระดับโลก ได้แก่ Rolls-Royce, BMW, MINI, Honda บิกไบค์ BMW Motorrad, Harley-Davidson ธุรกิจนำเข้า และจำหน่ายเรือยอชท์ Azimut รายเดียวในประเทศไทย ธุรกิจนำเข้า และจำหน่ายเรือแม่น้ำ Chris-Craft รายเดียวในประเทศไทย และอาเซียน ธุรกิจรถ ยนต์มือสองพร้อมการรับประกัน ธุรกิจจัดหาลูกค้าสำหรับบริการให้เช่าเครื่องบินเจทส่วนตัว Vista Jet และตัวแทนจำหน่ายบัตรโดย สาร
สายการบินชั้นนำ ธุรกิจให้บริการหลังการขาย และให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ MMS Bosch Car Service and Tire ธุรกิจบริ การเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้น และระยะยาวพร้อมพนักงานขับ
นอกจากนี้ มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-Asia ได้ร่วมทุนกับ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) จัดตั้ง บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ขยายธุรกิจให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร ครอบคลุมสินเชื่อเช่าซื้อ ลีซิง และสินเชื่อรีไฟแนนศ์ สำหรับยานยนต์ และมารีนในระดับลักชัวรี และร่วมทุนกับฮาวเด้น กรุ๊ป หนึ่งในโบรคเกอร์รายใหญ่ที่สุดในยุโรป และมีชื่อเสียงระดับโลก ขยายธุรกิจนายหน้าประ กันภัย ภายใต้บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ซึ่งธุรกิจทั้ง 2 เป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง และส่งเสริมธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ
“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของมิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-Asia ที่จะเพิ่มศักยภาพการขยายธุร กิจ โดยเรามีแผนจะขยายธุรกิจภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ (1) ขยายพอร์ทธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศทางธุรกิจภายใต้ชื่อ MGC-Asia Ecosystem ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทาง (Lifestyle Mobility Ecosystem) (2) เตรียมความพร้อมสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจจัดจำหน่าย และให้บริการหลังการขายยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยการพัฒนาบุคลากร และมาตรฐานการให้บริการ (3) บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการสร้างผลกำไรให้กลุ่มบริษัทฯ ในระยะยาว (4) ยกระดับการให้บริการโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ (Digitalization) เตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ Digi-Tech Lifestyle Mobility นอกจากกลยุทธ์ดังกล่าวกลุ่มบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่องค์กรคาร์บอนต่ำ” ดร. สัณหวุฒิ กล่าว
เจิดนภางค์ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน และบัญชีกลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-Asia สามารถสร้างการเติบโตของรายได้อย่างแข็งแกร่ง และต่อเนื่อง แม้เผชิญความท้าทายจาก COVID-19 และปัญหาซัพพลายเชนดิสรัปชัน แต่ด้วยการมีพอร์ทธุรกิจที่หลากหลาย รวมทั้งการบริหารที่ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างรวดเร็ว ทำให้ภาพรวมรายได้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานปี 2563-2565 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 20,275.3 ล้านบาท 21,350.3 ล้านบาท และ 23,076.2 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6.7 %/ปี เนื่องจากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีกำไรสุทธิปี 2563-2565 อยู่ที่ 188.8 ล้านบาท 295.5 ล้านบาท และ 595.6 ล้านบาท ตามลำดับ จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขาย บริการ การเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น ในขณะที่สัดส่วนต้นทุนการจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ทั้งนี้ สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ครั้งนี้ เพื่อรองรับแผนงานขยายการลงทุนในบริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ลงทุนในบริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำ กัด ขยายศูนย์ให้บริการหลังการขาย และซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ ปรับโครงสร้างเงินทุนผ่านการชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงาน รองรับการเติบโตในอนาคต
วราห์ สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า หลังจาก บมจ. มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์ฯ จากสำ นักงาน กลต. ปัจจุบันแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) มีผลใช้บังคับแล้ว โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 280 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25.0 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ล่าสุดได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่ 7.95 บาท/หุ้น และจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 18-20 เมษายน 2566 และคาดว่าจะสามารถนำหุ้น MGC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ ภายในเดือนเมษายน 2566 นี้ โดยมองว่าราคาดังกล่าวมีความสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน และศักยภาพการเติบโตในอนาคต
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/448151