ระเบียงรถใหม่
เปิดตัว Suzuki XL7 Hybrid ในอินโดนีเซีย

Suzuki XL7 Hybrid มีขนาดตัวถังยาว 4,450 มม. กว้าง 1,775 มม. สูง 1,710 มม. ระยะความยาวฐานล้อ 2,740 มม. ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถ Ground Clearance 200 มม. โดยเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mitsubishi Xpander Cross 2023 ใหม่ ที่มีความยาว 4,595 มม. กว้าง 1,790 มม. ความสูง 1,750 มม. ฐานล้อ 2,775 มม. ระยะต่ำสุดถึงพื้น 220 มม. ก็ยังถือว่ามีขนาดตัวที่เล็กกว่าเล็กน้อย
ภายนอกในเวอร์ชันไฮบริด ได้รับการปรับเปลี่ยนให้มีความดุดันกว่าเดิม ด้วยกระจังหน้าสีดำ แผ่นพลาสติกกันกระแทก ล้ออัลลอยสีดำขนาด 16 นิ้ว ไฟหน้าออโต กระจกมองข้างแบบพับได้อัตโนมัติ ในรุ่นทอปนั้น จะมีสีตัวถังแบบทูโทนให้เลือก โดยมีสีเปิดตัวใหม่เป็นสีออกเหลืองงาช้าง ที่ซูซูกิเรียกว่า Savana Ivory ตัดกับหลังคาสีดำ
ห้องโดยสารได้รับการออกแบบเน้นความหรูหรา ออกแบบด้วยสีทูโทนดำ-เทา พร้อมด้วยชุดลายไม้สีเข้ม กระจกมองหลังดิจิตอลแบบสัมผัส (E-Mirror Touchscreen) ในรุ่นทอปที่ทำให้สามารถใช้งานกล้องมองหลังได้อย่าง เต็มประสิทธิภาพ ตัวรถนั้นยังรองรับการโดยสาร 7 ที่นั่ง
Suzuki XL7 Hybrid มาพร้อมเครื่องยนต์รุ่นเดิม ที่ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมติดตั้งเจเนอเรเตอร์สำหรับการสตาร์ทจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด Multi-point Fuel Injection รองรับระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์แบบอัตโนมัติ ช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น มอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator (ISG) เข้ามาทดแทนไดชาร์จ ทำหน้าที่ได้ทั้งการช่วยสตาร์เครื่องยนต์ และชาร์จไฟเข้าไปเก็บยังแบทเตอรี Lithium-ion ทำงานควบคู่ไปกับแบทเตอรีลูกเล็กหน้าเครื่องแบบ Lead-Acid Battery ระบบ Smart Hybrid ของ Suzuki จึงเป็นระบบ Mild Hybrid แบบแบทเตอรีคู่ (Dual Battery)
หลักการทำงานของระบบ Smart Hybrid หรือ Mild Hybrid ของ Suzuki เมื่อกดปุ่ม Push Start เพื่อติดเครื่องยนต์ แบทเตอรีลูกเล็กในห้องเครื่องยนต์ จะส่งพลังงานไปยัง ISG Generator เพื่อหมุนสายพานสตาร์ทเครื่องยนต์ ทำให้การสตาร์ทมีความราบรื่นมากยิ่งขึ้น เหมือนกับรถยนต์แบบ Full Hybrid ทั่วไป ในขณะติดเครื่องยนต์รอบเดินเบาจอดนิ่งๆ ติดไฟแดง เครื่องยนต์ก็ยังทำงานอยู่ดี
เมื่อเหยียบคันเร่งเพื่อออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง เครื่องยนต์ยังเป็นหลักในการหมุนล้อคู่หน้า แต่ถ้าหากไฟในแบทเตอรี Lithiumion มีมากเพียงพอ กระแสไฟจากแบทเตอรีจะถูกส่งมายัง ISG generator เพื่อที่จะส่งกำลังไปหมุนชุดสายพาน เพื่อช่วยเพิ่มอัตราเร่งดีขึ้น และเมื่อไต่ความเร็วขึ้นไปได้ตามที่ระบบคำนวนแล้ว ระบบจะตัดการทำงานปล่อยให้เครื่องยนต์หมุนล้อคู่หน้าต่อไปตามปกติ
เมื่อชะลอความเร็วรถ ด้วยการเหยียบเบรค เครื่องยนต์จะไปหมุุนมอเตอร์ ISG เพื่อปั่นไฟ จนเกิดกระแสไฟฟ้าไหลกลับเขาไปยังแบทเตอรีทั้ง 2 ลูก นอกจากนี้การเบรคในบางจังหวะ เครื่องยนต์จะดับลงเพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และเมื่อรถหยุดสนิท ระบบ Idling stop (Auto Start Stop) จะตัดการทำงานของเครื่องยนต์ ระหว่างนั้น แบทเตอรีลูกเล็กหน้าเครื่อง และแบทเตอรี Lithium-ion จะช่วยกันส่งกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า และระบบต่างๆ ของตัวรถ ทั้งพัดลมปรับอากาศ เครื่องเสียง ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟภายในห้องโดยสาร ฯลฯ จนกว่าจะเหยียบคันเร่งออกรถอีกครั้ง แต่ถ้าคุณหงุดหงิดกับระบบ Idling Stop สามารถกดสวิตช์ปิดระบบได้
ช่วงล่างด้านหน้า McPherson Strut พร้อมคอยล์สปริง ช่วงล่างด้านหลัง Torsion Beam พร้อมคอยล์สปริง แม้ว่าจะถือว่าเป็นระบบ Hybrid รูปแบบหนึ่ง แต่ด้วยเหตุที่ความจุแบทเตอรี Lithium-ion มีไม่มาก และความสามารถในการส่งแรงบิดไปยังเครื่องยนต์ของ ISG generator มีน้อย จึงไม่ได้ทำให้ตัวเลขแรงม้า และแรงบิดเพิ่มขึ้นกว่าเดิมแต่อย่างใด และทำให้ไม่สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ดังเช่นรถยนต์ Full Hybrid แบบทั่วไปที่ ทุกคนรู้จักยังคงต้องใช้เครื่องยนต์เป็นกำลังขับเคลื่อนหลักตลอดเวลาอยู่ดี
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ มีการเพิ่มระบบคุมความเร็วอัตโนมัติมาให้ และระบบช่วยหยุดรถบนทางลาดชัน (Hill Hold Control) ส่วนราคาจำหน่ายของซูซูกิ Suzuki XL7 Hybrid ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ จะแพงกว่ารุ่นเครื่องยนต์ธรรมดา 6.5-8.8 หมื่นบาท แน่นอนว่าต้องเข้ามาทำตลาดในไทย แต่คงต้องลุ้นเรื่องราคากันอีกที 

