รถล่าสุด
Honda City Minorchange เติมมาดสปอร์ท เน้นความปลอดภัย
ถึงเวลาของการเปิดตัว New Honda City ในแบบ Honda City Minorchange ตัวถัง Sedan อย่างเป็นทางการ ยกระดับความสปอร์ทพรีเมียม ด้วยดีไซจ์นใหม่ มาพร้อม 2 ขุมพลัง ทั้งระบบฟูลล์ไฮบริด e:HEV และ VTEC Turbo เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ e:HEV SV พร้อม Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย
มีให้เลือก 2 ขุมพลังขับเคลื่อน รวม 5 รุ่นย่อย แบ่งเป็น
ฟูลล์ไฮบริด e:HEV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย
- รุ่น e:HEV RS
- รุ่น e:HEV SV
VTEC Turbo มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
- รุ่น RS
- รุ่น SV
- รุ่น V
ภายนอก โดดเด่นเหนือระดับในทุกรายละเอียด
• กันชนหน้า และกันชนหลังดีไซจ์นใหม่
• กระจังหน้าโครเมียม
• ไฟหน้าแบบพโรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
• ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
• มือจับประตูด้านนอกโครเมียม (รุ่น SV และ e:HEV SV)
• กระจกมองข้างปรับ และพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
• ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
• เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ
• ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว (รุ่น V) แบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV)
เสริมความสปอร์ทรอบคันในรุ่น RS และรุ่น e:HEV RS
• กระจังหน้าสีดำเงาดีไซจ์นใหม่ เสริมความสปอร์ทแบบ RS
• กันชนหน้า กันชนหลัง สเกิร์ทข้าง ดีไซจ์นใหม่ เสริมความสปอร์ทแบบ RS
• สปอยเลอร์หลังดีไซจ์นสปอร์ทแบบ RS
• ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
• มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น RS และ e:HEV RS)
• ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
• ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำเงา
• ระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาพร้อมระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ (รุ่น e:HEV RS)
• เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำเงา
• ล้ออัลลอยแบบทูโทนสไตล์สปอร์ทขนาด 16 นิ้ว
รุ่น e:HEV RS
รุ่น e:HEV SV
รุ่น RS
รุ่น SV
รุ่น V
ภายใน
• วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีเงิน (เฉพาะรุ่น V) และสีดำ Piano Black (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV)
• วัสดุหุ้มเบาะผ้า (เฉพาะรุ่น V) และวัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ (เฉพาะรุ่น SV และ e:HEV SV)
• มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม
ยกระดับความสปอร์ทในรุ่น RS และรุ่น e:HEV RS
• วัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีแดงเมทัลลิค
• วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้ และหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย อาทิ
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth
• พวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ/วางสายโทรศัพท์
• พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง
• ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS และ e:HEV RS)
• ระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ปุ่ม ECON
• ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านหลังแบบ Type-C 2 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
• กระจกมองหลังแบบตัดแสง
• แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกแต่งหน้าแบบมีฝาปิดด้านคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS และ e:HEV RS)
• ไฟอ่านแผนที่ และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร
• ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย
• พนักเท้าแขนด้านหน้า
• พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว (รุ่น RS และ e:HEV RS)
• ช่องเก็บของหลังเบาะนั่งคนขับ และหลังเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมช่องเก็บของขนาดเล็ก
(รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT (รุ่น RS และ e:HEV RS)
• ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
• ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System)
พร้อมด้วยเทคโนโลยี และความปลอดภัยครบครัน อาทิ
• ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น e:HEV RS)
• กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) (รุ่น SV, RS, e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ระบบเบรคมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ระบบ Auto Brake Hold (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ถุงลมคู่หน้า
• ถุงลมด้านข้างคู่หน้า
• ม่านถุงลมด้านข้าง (รุ่น RS และ e:HEV RS)
• ระบบลอคประตูรถอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
• ระบบลอครถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
• ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
• ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า
• ระบบเบรคป้องกันล้อลอค (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรค (EBD)
• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ
• เข็มขัดนิรภัยด้านหน้า และหลัง แบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง
• ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมระบบสัญญาณกันขโมย
• ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)
• จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (Isofix & Child Anchor)
• ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
• ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
• สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรคกะทันหัน (ESS)
ขุมกำลังของ Honda City Minorchange มี 2 ทางเลือก ขับเคลื่อนล้อหน้า เหมือนเช่นเคย คือ
เบนซิน Turbo
เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ขนาด 1.0 ลิตร (988 ซีซี) VTEC พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบxช่วงชัก: 73.0x78.7 มม. กำลังอัด 10.0:1 พละกำลังสูง 122 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 17.6 กก.-ม. หรือ 173 นิวตันเมตร ที่ 2,000-4,500 รตน. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับน้ำมัน E20 ให้อัตราการประหยัดน้ำมันถึง 23.8 กม./ลิตร
ไฮบริด e:HEV
เครื่องยนต์รหัส LEB-MMD เบนซิน 4 สูบ Atkinson Cycle DOHC i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร (1,498 ซีซี) กระบอกสูบxช่วงชัก: 73.0x89.5 มม. พละกำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,600-6,400 รตน. แรงบิดสูงสุด 13.0 กก.-ม. หรือ 127 นิวตันเมตร ที่ 4,500-5,000 รตน. รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แบทเตอรี Lithium-ion พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 3,500-8,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 25.8 กก.-ม. หรือ 253 นิวตันเมตร ที่ 0-3,000 รตน. ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ e-CVT ให้อัตราการประหยัดน้ำมันถึง 27.8 กม./ลิตร
ระบบขับเคลื่อนฟูลล์ไฮบริด e:HEV จะปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้โดยอัตโนมัติตามความเหมาะสม ประกอบด้วย 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ คนเดินถนน จักรยาน และจักรยานยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย 6 ฟังค์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้
• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรค (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) (รุ่น V, SV และ RS)
พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (with Low-Speed Follow: with LSF)
(รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)
• ใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่
Obsidian-Blue-Pearl เฉพาะรุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS
Ignite Red Metallic เฉพาะรุ่น RS และ e:HEV RS
Platinum White Pearl เฉพาะรุ่น SV, RS, e:HEV SV, และ e:HEV RS
Crystal Black Pearl
Lunar Silver Metallic
Meteoroid Gray Metallic
Taffeta White เฉพาะรุ่น V
ราคาจำหน่าย
รุ่น RS ราคา 749,000 บาท
รุ่น SV ราคา 679,000 บาท
รุ่น V ราคา 629,000 บาท
รุ่น e:HEV RS ราคา 839,000 บาท
รุ่น e:HEV SV ราคา 769,000 บาท
โดยมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 2.09 % พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และเฉพาะรุ่น e:HEV เพิ่มการรับประกันแบทเตอรีไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เมื่อจอง และรับรถตั้งแต่ 5 กรกฎาคม 2566-30 กันยายน 2566
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง
เสริมความพรีเมียมด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่ง Modulo รอบคัน ที่มาพร้อมกับแนวคิด “More Stage Up Booster” โดยมีไอเทมอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก เช่น ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ราคา 15,600 บาท คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วบันไดสเตนเลสส์ LED ราคา 4,400 บาท รวมทั้งอุปกรณ์เพิ่มอรรถประโยชน์ใช้สอยในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ เช่น กระบะใส่ของท้ายรถ สำหรับรุ่น Turbo ราคา 1,100 บาท สำหรับรุ่น e:HEV ราคา 1,250 บาท
นอกจากนี้ ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพคเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่ Modulo Aero Package ราคา 15,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ทหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ทข้าง และสเกิร์ทหลัง แบบ 2 ชิ้น
ABOUT THE AUTHOR
Thanasan Saowamol
ลุงหนึ่ง ฟอร์มูลา ศึกษาวิชาตำรารถมานานกว่า 30 ปี ผ่านร้อนหนาว ตั้งแต่ ยุคเครื่องยนต์ มาถึงยุคมอเตอร์ จะว่าเวอร์ ก็เจอมาหมด
ภาพโดย : Hondaคอลัมน์ Online : รถล่าสุด (บก. ออนไลน์)