เจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัว Stargazer รถยนต์เอมพีวี 6 ที่นั่งคันแรกในกลุ่ม ซึ่งมาพร้อมกับการออกแบบอันมีเอกลักษณ์ ทั้งยังมีห้องโดยสารกว้างขวาง และอัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่หลายรายการ ทำให้รถยนต์คันนี้เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง
ล่าสุด บริษัทเดินหน้าเปิดตัว Creta “Black Edition” รุ่นใหม่ พร้อม Creta ในรุ่นสีทูโทน โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ซึ่งผ่านการปรับปรุงเพิ่มอุปกรณ์ และความสดใหม่ ทั้งยังมีราคาที่น่าเป็นเจ้าของเพื่อสานต่อความสำเร็จของ Creta ที่เปิดตัวไปได้ไม่นาน และได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี จากลูกค้าในหลายประเทศรวมถึงภูมิภาคเอเชีย ด้วยดีไซจ์นโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์, สมรรถนะการขับขี่, ทางเลือกในการตกแต่ง และประโยชน์ใช้สอย
Creta “Black Edition” รุ่นใหม่ ออกแบบขึ้นอย่างแตกต่าง เพื่อผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ซึ่งสื่อถึงอิสระ และความเป็นเอกลักษณ์ โดยมากับการตกแต่งในโทนสีดำทั้งหมด เสริมภาพลักษณ์คมเข้ม และคล่องแคล่วพร้อมด้วยอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ขับขี่หลายรายการ เพื่อยกระดับความมั่นใจในการขับขี่
Creta “Black Edition” ตกแต่งพิเศษด้วยกระจังหน้าสีดำ พร้อมไฟ DRL แบบ Hidden-Type โลโกกระจังหน้าสี Monochrome ช่องลมกันชนหน้า ซี่กระจังหน้าสีดำ ราวหลังคาสีดำ ด้านข้างเสริมความเข้มด้วยคิ้วหลังคา C-Pillar พร้อมล้อขนาด 17 นิ้ว สีดำ และที่พิเศษสุด คือ สีดำ Midnight Black Pearl ซึ่งมีให้เลือกในรุ่น Hyundai Creta “Black Edition” เท่านั้น ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการติดตั้งเครื่องเสียง Bose มาเป็นพิเศษอีกด้วย
นอกจาก “Black Edition” แล้ว Hyundai Creta ยังมีรุ่นสีตัวถังทูโทนให้เลือก สงวนสิทธิ์เฉพาะรุ่นย่อย Smart, Style และ Style+ เท่านั้นโดยผสานหลังคาสีดำเข้ากับสีตัวถังที่มีให้เลือกอย่างลงตัว ประกอบด้วย สีขาว Creamy White Pearl, สีเงิน Magnetic Silver และสีแดง Dragon Red Pearl ในขณะที่รุ่นย่อย Trend จะมีสีตัวถังให้เลือกเพียงสีเดียวกับสีขาว Optic White
Hyundai Creta โดดเด่นไม่เหมือนใครด้วยการผสานเส้นสายตัวถังเฉียบคม เข้ากับกราฟิคอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแฝงอยู่ในแต่ละองค์ประกอบทั้งยังมีแนวหลังคาเรียบ และเสาหลังคา C-Pillar ขนาดใหญ่ เสริมความมั่นคง ส่วนห้องโดยสารออกแบบมาโดยเน้นความพรีเมียม และทันสมัยเติมเต็มรถยนต์เอสยูวีคันนี้ให้สมบูรณ์จากทุกมุมมอง
มาพร้อมกับกระจังหน้าแบบ Parametric Jewel Grill อันเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์การออกแบบจาก Hyundai แบบ Parametric Dinamics ซึ่งผสานกระจังหน้า และโคมไฟเข้าเป็นชิ้นส่วนเดียวกันอย่างแนบเนียน จนแยกส่วนกันไม่ออกเมื่อดับไฟหน้า สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของ Hyundai ในการผสานนวัตกรรมเข้ากับความสวยงามอย่างไร้ที่ติ ส่วนไฟท้ายมาในรูปทรงของบูเมอแรง และไฟเบรคแบบ HMSL ที่รวมกันอย่างลง ตัวเสริมภาพลักษณ์ล้ำสมัยให้กับรถยนต์คันนี้
อีกอัตลักษณ์ดีไซน์ของ Hyundai Creta คือ กระจกบานหน้าที่ดีไซจ์นมาให้โอบล้อมห้องโดยสาร มอบทัศนวิสัยกว้างขวาง และให้ความรู้สึกปกป้องผู้โดยสารในเวลาเดียวกัน ปิดท้ายด้วยล้อขนาด 17 นิ้ว สี Diamond Cut เสริมภาพลักษณ์สปอร์ท
Hyundai Creta ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 115 แรงม้า ที่ 6,300 รตน. แรงบิดสูงสุด 14.7 กก.-ม. หรือ 144 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รตน. ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติแบบ IVT ตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะการขับขี่ และความประหยัดเชื้อเพลิง Hyundai Creta ยังสามารถปรับรูปแบบการขับขี่ได้ 4 แบบ ประกอบด้วย Normal, Eco, Sport และ Smart อีกทั้งยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี Traction Control
มอบอีกระดับของความมั่นใจในการขับขี่ ด้วยช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม ส่งผลให้ Creta ขับขี่ได้อย่างมั่นคง และมั่นใจ บนทุกสภาพถนน
ห้องโดยสารของ Hyundai Creta มาพร้อมกับความพรีเมียม โดยด้านหน้าจัดวางให้แดชบอร์ดทอดตัวยาวถึงแผงประตูในลักษณะเดียวกับรูปทรงของปีกนก เสริมภาพลักษณ์หนักแน่น และเต็มไปด้วยพลัง ทั้งยังให้ความรู้ สึกปกป้องผู้โดยสารที่ดีกว่า ส่วนหน้าจอสัมผัสมีขนาด 8 นิ้วรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Android Auto และ Apple Car Play นอกจากนั้น Hyundai Creta ยังมีองค์ประกอบการออกแบบอื่นที่เป็นเอกลักษณ์อีกหลายส่วนทั้ง ช่องลำโพงแบบ 3 มิติ, หัวเกียร์ตกแต่งสีเงิน, ไฟส่องสว่าง Ambient Light และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ยกระดับความหรูสู่อีกขั้น
สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวก Hyundai Creta มาพร้อมกับระบบพุชสตาร์ท, มาตรวัดดิจิทอล ขนาด 10.25 นิ้ว, ระบบแจ้งแรงดันลมยางอัตโนมัติ, เบรคมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และแท่นชาร์จไร้สาย นอกจากนั้น ยังมีระบบสตาร์ทเครื่องยนต์จากรีโมท
Hyundai Creta มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ADAS ซึ่งควบรวมเทคโนโลยีล้ำยุคเอาไว้หลายรายการใน Hyundai Smart Sense ซึ่งมีทั้งระบบช่วยเตือน และเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ FCA, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตา BCW, กล้องมองภาพด้านหลัง, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน LFA, ระบบช่วยเตือน และเบรคอัตโนมัติขณะถอยหลัง RCCA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบปรับระดับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง SEW และระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้า DAW
มั่นใจในการปกป้อง แม้ในยามเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพราะ Hyundai Creta ติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และได้รับคะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากมาตรฐานทดสอบการชน Asean NCAP
Hyundai Creta ซึ่งเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมา คือ รถยนต์สำหรับลูกค้ารุ่นใหม่ที่เสาะหาสมดุลแห่งการใช้ชีวิต ระหว่างการทำงาน และชีวิตส่วนตัว Creta คือ ตัวเลือกรถยนต์อันไร้ที่ติ พร้อมขับเคลื่อนคุณสู่ทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวัน หรือผจญภัยในวันหยุด
Hyundai Creta “Black Edition” จำนวนจำกัดเพียง 50 คัน โดย ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย)ฯ คาดว่าจะได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี และจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว รุ่นสีทูโทนจะพร้อมให้ลูกค้าสัมผัส และทดลองขับผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 สำหรับราคาจำหน่ายของ Hyundai Creta อยู่ระหว่าง 789,000-899,000 บาท โดยราคาของรุ่น “Black Edition” จะอยู่ที่ 959,000 บาท
เพื่อให้คุณเป็นเจ้าของ Hyundai Creta ได้ง่ายขึ้น บริษัทฯ ขอมอบข้อเสนอสุดพิเศษทั้ง ฟรีประกันภัยชั้น 1 1 ปี, ฟรีค่าแรงเชคระยะ 3 ปี หรือ 60,000 กม.* และฟรีการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กม.* นอกจากนั้น ยังมีข้อเสนอการเงินให้คุณเลือกในแบบที่ใช่ทั้งดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.49 %** หรือเงินดาวน์เริ่มต้นที่ 74,999 บาท***
* เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด
** ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.49 % ภายใต้เงื่อนไข เงินดาวน์ 25 % และผ่อนชำระเป็นเวลา 48 เดือน
*** เงินดาวน์เริ่มต้น 74,999 บาท ภายใต้เงื่อนไข ผ่อนชำระเป็นเวลา 84 เดือน