ธุรกิจ
Michelin คว้ารางวัลนวัตกรรมยานยนต์ Automotive Innovations Award
Michelin สำหรับรถยนต์นั่งซึ่งผลิตจากวัสดุยั่งยืนในสัดส่วนสูงถึง 45 % และผ่านการรับรองสำหรับใช้งานบนท้องถนนทั่วไป ได้รับรางวัลนวัตกรรมยานยนต์ Automotive Innovations Award ประจำปี 2566 ประเภท “ระ บบช่วงล่าง ตัวถังรถ และอุปกรณ์ตกแต่งภายนอก” (Chassis, Car Body & Exterior) ณ นครฟรังค์ฟวร์ท ประเทศเยอรมนี รางวัลดังกล่าวมอบให้โดย บริษัท PricewaterhouseCoopers: PWC และศูนย์บริหารจัดการธุร กิจยานยนต์ (Center of Automotive Management: CAM) ซึ่งได้ทำการเฟ้นหานวัตกรรมที่โดดเด่นสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ร่วมกับผู้ผลิต และซัพพลายเออร์มาตลอดระยะเวลากว่า 1 ทศวรรษ โดยคณะกรรมการประกอบด้วยผู้มากประสบการณ์ทั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ แวดวงวิทยาศาสตร์ และการให้คำปรึกษา ตลอดจนสื่อเฉพาะทาง (Specialized Media)
กลยุทธ์การใช้วัสดุที่ยั่งยืนของ Michelin มีความโดดเด่น ทั้งในด้านมาตรฐานระดับสูง, ขอบเขตการดำเนินงาน, มิติของการผสานพันธมิตร และวิธีดำเนินการที่ครอบคลุมตลอดวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์
การให้คำจำกัดความคำว่า “วัสดุที่ยั่งยืน” อย่างชัดเจน
ปัจจุบัน คำว่า “วัสดุที่ยั่งยืน” ยังไม่มีคำจำกัดความที่แน่ชัดเพียงหนึ่งเดียว การไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจนนี้ส่งผลเสียต่อความเข้าใจในกระบวนการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ในภาคอุตสาหกรรมยางล้อ Michelin เห็นว่า “วัสดุที่ยั่งยืน” คือ วัสดุที่ผ่านการรีไซเคิล หรือวัสดุหมุนเวียน (Renewable) ตลอดช่วงชีวิตหนึ่งของมนุษย์ ด้วยเหตุนี้กลุ่ม Michelin จึงผลักดันให้เกิดฉันทามติของภาคอุตสาหกรรมยางล้อในการกำหนดคำจำกัดความที่ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับร่วมกันสำหรับคำว่า “วัสดุที่ยั่งยืน”
วิสัยทัศน์กว้างไกลเกี่ยวกับ “วัสดุที่ยั่งยืน” ถูกนำมาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์ทุกประเภทของกลุ่ม Michelin
Michelin ตั้งเป้าที่จะดำเนินกลยุทธ์การใช้วัสดุที่ยั่งยืนกับผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มประเภท...ไม่ใช่เพียงผลิตภัณฑ์ประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือบางกลุ่มผลิตภัณฑ์เท่านั้น การนำกลยุทธ์ดังกล่าวมาปรับใช้จำเป็นต้องอาศัยการปฏิ รูปเชิงลึกด้านวิธีดำเนินการ เครื่องมือ และกระบวนการทางอุตสาหกรรม พูดกว้างๆ ก็คือ จำเป็นต้องมีการจัดตั้งภาคส่วน หรือห่วงโซ่คุณค่าใหม่ๆ ขึ้นเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านการวิจัย และพัฒนา ตลอดจนด้านอุตสาห กรรม วิสัยทัศน์นี้ไม่เพียงมีความโดดเด่นเหนือกว่าในเชิงขอบเขตการดำเนินงานสำหรับภาคอุตสาหกรรมยางล้อ แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของกลุ่ม Michelin ที่จะปรับปรุงการออกแบบ และการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ขนานใหญ่เพื่อปกป้องพิทักษ์ผืนโลกเอาไว้
มิติของการผสานพันธมิตรอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อเร่งให้เกิดการวิจัย และพัฒนานวัตกรรม
กลุ่ม Michelin ตระหนักดีว่าการพัฒนานวัตกรรมด้านวัสดุยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยทักษะใหม่ๆ จึงได้ริเริ่มดำเนินโครงการผสานพันธมิตรกลุ่มเป้าหมาย เพื่อผลักดันให้การพัฒนาเทคโนโลยีล้ำหน้า...โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการแปรสภาพ และการรีไซเคิล...ดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว พันธมิตรเหล่านี้ ได้แก่ Pyrowave ในการผลิตสไตรีนจากการรีไซเคิล (R-Styrene), Carbios ในการผลิตพลาสติค PET จากการรีไซเคิล (R-PET), Enviro ในการพัฒนาคาร์บอนบแลคจากการรีไซเคิล (RCB) รวมทั้งกับ IFPEN และ Axens ภายใต้ความร่วมมือกับหน่วยงานเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางนิเวศวิทยาของฝรั่งเศส (ADEME) ในการผลิตบิวทาไดอีนจากชีวมวล (Bio-Butadiene) นอกจากนี้ Michelin ยังร่วมดำเนินโครงการ Empreinte* กับหน่วยงานเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางนิเวศวิทยาของฝรั่งเศส (ADEME) และจัดตั้งโครงการด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) Black Cycle และ White Cycle ร่วมกับพันธมิตรสัญชาติยุโรปหลายราย โดยได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป เพื่อแปรสภาพยางล้อที่สิ้นสุดอายุการใช้งานแล้วให้กลายเป็นวัตถุดิบคุณภาพสูงพิเศษสำหรับใช้ในการผลิตยางล้อใหม่
วิธีดำเนินการที่ครอบคลุมตลอดวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์
เพื่อนำตัวแปรต่างๆ ตลอดจนผลกระทบของยางล้อต่อสิ่งแวดล้อมมาพิจารณาอย่างรอบด้าน กลุ่ม Michelin ได้ดำเนินการแบบ 360 องศา บนฐานการวิเคราะห์วัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ยางล้อ ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงโซลูชันด้านการรีไซเคิลรูปแบบต่างๆ ภายใต้กรอบของการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจ (Eco-Design) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความพยายามดังกล่าวจึงส่งผลเหนือกว่าเพียงพัฒนา และนำวัสดุที่ยั่งยืนมาใช้ในการผลิตยางล้อ โดยยังมุ่งเป้าที่จะนำไปปฏิบัติในทุกระดับการดำเนินงานแต่ละขั้นของวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ยางล้อ (ได้แก่ การออกแบบ, การผลิต, การขนส่ง, การใช้งาน และการสิ้นสุดอายุผลิตภัณฑ์)
รางวัลที่มอบให้เพื่อยกย่องความมุ่งมั่นของ Michelin ในการที่จะผลิตยางล้อจากวัสดุยั่งยืน 100 % ภายในปี 2593 โดยมีเป้าหมายระยะกลาง (Interim Target) ที่จะใช้วัสดุยั่งยืนเพิ่มขึ้นในการผลิตยางล้ออีก 40 % ภาย ในปี 2573
ยาง Michelin ซึ่งผลิตจากวัสดุยั่งยืนในสัดส่วน 45 % เปิดตัวเมื่อปี 2565 โดยมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำหน้าซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของยางมาตรฐานในปี 2568 การเปิดตัวยางรุ่นนี้ช่วยให้มิชลินสามารถรุกก้าวไปสู่การพัฒนาวัสดุยั่งยืนใหม่ๆ ที่หลากหลายในปริมาณมาก ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพด้านนวัตกรรมของ Michelin ตลอดจนย่างก้าวที่ผ่านมาของกลุ่ม Michelin บนจุดยืนความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการผลิตยางล้อในระดับโลกจากวัสดุรีไซเคิล และวัสดุหมุนเวียน 100 % ภายในปี 2593 โดยมีเป้าหมายระยะกลางที่จะใช้วัสดุยั่งยืนเพิ่มขึ้นในการผลิตยางล้ออีก 40 % ภายในปี 2573
Eric Vinesse ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย และพัฒนา ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารกลุ่ม Michelin เปิดเผยว่า Michelin มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุที่ล้ำสมัย ทั้งยังมีหน่วยงานวิจัย และพัฒนาซึ่งประกอบด้วยวิศวกร นักวิจัย นักเคมี และนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ราว 6,000 คนทั่วโลก เป็นฐานผลักดันให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนงาน และบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้สูงมากได้ รางวัลที่ได้รับในครั้งนี้จึงถือเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จ และความภาคภูมิใจสำหรับทีมงานทุกทีม
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/458662