ทดลองขับ
ขับ Mazda 2 สาวแซบ หนุ่มหน้าใส หัวใจดี.. แรง ประหยัด
หลังจากที่ Mazda เปิดตัว Mazda 2 โฉมใหม่ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ใจกลางสยามสแควร์แหล่งรวมตัวของคนรุ่นใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมแนวคิด “Express Your Identity เลือกต่างในแบบเรา” กับ 2 ดีไซน์ใหม่ Sport Design และ New Wave Design เติมแต่งสีสันความสปอร์ทด้วยรุ่นพิเศษ Rookie Drive และ Clap Pop ดีไซน์ใหม่ของตัวรถที่โดดเด่นสดใสบ่งบอกบุคลิกตัวตนที่แตกต่างของกลุ่มเจเนอเรชัน Z เพื่อตอบโจทย์ตัวตนที่แตกต่างของลูกค้ายุคใหม่ ทั้ง สาวแซบ และหนุ่มหน้าใส
Mazda 2 โฉมใหม่ มีให้เลือกด้วยกัน 2 ดีไซน์ใหม่ คือ แบบ Sport Design และแบบ New Wave Design พร้อมรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น กับ Rookie Drive และ Clap Pop ที่เพิ่มความแตกต่างด้วยการตกแต่งพิเศษ บ่งบอกความเป็นตัวตนได้แบบไม่ซ้ำทางใคร มีให้เลือกถึง 83 ดีไซน์ ทั้งรูปลักษณ์ การเลือกใช้สีภายนอกและภายใน รวมถึงอุปกรณ์ที่นำมาตกแต่งในแต่ละรุ่น
การทดสอบในครั้งนี้ ทาง Mazda เตรียมรถ Mazda 2 โฉมใหม่ ไว้ให้ทดสอบทั้งหมด 15 คัน หลากสีสัน หลากหลายรุ่น รวมทั้งรุ่นพิเศษก็มาให้ขับด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้ได้พิสูจน์สมรรถนะของเครื่องยนต์ Skyactiv (สกายแอคทีฟ) บนเส้นทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมระยะทางทั้งไปและกลับประมาณ 270 กม.
ส่วนเส้นทางการทดสอบทาง Mazda ได้วางไว้ทั้งแบบการจราจรที่ใช้กันเป็นปกติในการเดินทาง และการขับทดสอบในสนาม โดยเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีโอกาสทดสอบการขับขี่แบบทั่วไป ที่หลากหลายรูปแบบ ทั้งการจราจรที่คับคั่งในเมือง และการวิ่งบนทางด่วนแบบยาวๆ Mazda 2 มีความคล่องตัว ควบคุมง่าย
ภายในรุ่น 1.3 SP และ XDL เพิ่มรายละเอียดด้วยกรอบช่องแอร์สีแดง มาพร้อมเบาะและแผงคอนโซลหน้า Grand Luxe Suede ตกแต่งตะเข็บด้ายสีแดง ให้ความรู้สึกสปอร์ท
นอกจาก 2 รุ่นทอพ Mazda 2 ใช้ New Wave Design กับแผงคอนโซลหน้าหลากสีที่ถูกจับคู่กับสีภายนอก โดยผลิตจากวัสดุ Bioplastic ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เบาะเต็มหลัง โอบช่วงลำตัว ทำให้ท่านั่งที่เป็นธรรมชาติให้ความสะดวกสบาย และวิสัยทัศน์ในการขับขี่ที่ดี หน้าจอ Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander เทคโนโลยีเชื่อมต่อ Mazda Connect ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รวมทั้ง Wireless Apple CarPlay พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย ระบบควบคุมความเร็วคงที่ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง ที่มอบความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร (ยกเว้นรุ่น C และ XD)
เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 1.3 ลิตร
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ Skyactiv-D 1.5
Mazda 2 มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 1.3 ลิตร 93 แรงม้า ที่ 5,800 รตน. แรงบิด 13.0 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. และเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ Skyactiv-D ขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ที่ 4,000 รตน. แรงบิด 26.0 กก.-ม. ที่ 1,500-2,500 รตน. ที่มาพร้อมเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยทั้ง ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus (G-Vectoring Control Plus) ระบบความปลอดภัย i-Activsense ที่มีให้ครบครันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
เครื่องยนต์ตอบสนองดี ทั้งออกตัว อัตราเร่ง เครื่องยนต์ Skyactiv 2 แบบ ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 1.3 ลิตร ให้แรงม้าและแรงบิดสูง ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ Skyactiv-D 1.5 ลิตร ให้แรงบิดสูง ประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร
ลองวัดอัตราสิ้นเปลืองของ Mazda 2 Sports XD ช่วงมอเตอร์เวย์ ใกล้เคียงกับตัวเลขที่วัดด้วยเครื่องมือวัดสมรรถนะ
ขับสนุกปลอดภัยไร้กังวลตลอดการเดินทาง สัมผัสกับความสะดวกสบายในการขับขี่จากเทคโนโลยี i-Activsense อาทิ ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว เซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง (RCTA) ในรุ่น 1.3 SP และ XDL ยังมีระบบภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 View Monitor) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลน (LDWS) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและเบรกอัตโนมัติ (MRCC) รวมถึงระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sport paddle shift) ที่เพิ่มความสนุกสนานในการขับขี่อย่างลงตัว
กิจกรรมในช่วงบ่ายที่ Mazda เตรียมไว้ให้ทุกคนได้ตื่นเต้น และลองความเฉียบคมของฝีมือการขับขี่และควบคุมรถในสนามทดสอบ หลังจากได้รับฟังข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รถยนต์ Mazda 2 รูปแบบการทดสอบ และข้อมูลเกี่ยวกับสนามทดสอบ ณ ศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (ATTRIC) ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณเขตสวนป่าลาดกระทิง ตำบลลาดกระทิง อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) บนพื้นที่กว่า 1,235 ไร่
ซึ่งสนามแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมและยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และยางล้อของไทย ไปสู่การเป็น ซูเพอร์คลัสเตอร์ (Super Cluster) ตามยุทธศาสตร์ของประเทศและศักยภาพของพื้นที่ รวมถึงสนับสนุนให้มีการออกแบบ วิจัยพัฒนา และนวัตกรรม ตลอดจนเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำและเป็นศูนย์กลางการทดสอบและรับรองในภูมิภาคอาเซียน มีบุคลากรที่มีความรู้และความสามารถในด้านผลิตภัณฑ์ยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และยางล้อ ที่สามารถทดสอบและรับรองได้เองในประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างแรงจูงใจให้มีผู้ลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น
หลังจากได้ฟังบรรยายข้อมูลผลิตภัณฑ์และข้อมูลเกี่ยวกับสนามแล้ว สิรคุปต์ เมทะนี (อั๋น) ผู้เชี่ยวชาญการทดสอบและการเซตอัพรูปแบบการทดสอบ ได้อธิบายรูปแบบของการทดสอบในแต่ละสถานี เพื่อให้ทุกคนได้รับข้อมูลและวิธีการในการขับขี่ที่ถูกต้องและสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ก่อนจะได้ลงไปทดสอบการขับขี่ในสนามจริง โดยสถานีการทดสอบแบ่งออกเป็น 3 สถานี ดังต่อไปนี้
สถานีทดสอบ 1 สนามทดสอบสมรรถนะและความเร็ว (High Speed Test Track): Skyactiv-Vehicle Dynamics ให้สื่อมวลชนสัมผัสกับสมรรถนะของเครื่องยนต์ Skyactiv ทดสอบอัตราเร่ง ระบบเบรกที่เฉียบคม และการขับขี่แบบสลาลอม การเปลี่ยนเลนฉุกเฉิน อันเกิดจากการทำงานของระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล โดยเฉพาะในทางโค้งและในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น มอบความมั่นใจให้กับทุกสถานการณ์การขับขี่
สถานีทดสอบ 2 สนามทดสอบระบบเบรก (Brake Performance): การทดสอบ NVH (Noise, Vibration and Harshness) ความเงียบของห้องโดยสารอันเกิดจากการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยในการเก็บเสียง กระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวน รวมถึงทดสอบการเบรกฉุกเฉินบนทางแห้งและบนทางเปียกลื่น
สถานีทดสอบ 3 สนามทดสอบพลวัต (Dynamic Platform): จำลองสไตล์การขับขี่จากสนามแข่งขันระดับโลก ฟูจิสปีดเวย์ เพื่อให้ทุกคนได้แสดงศักยภาพการบังคับควบคุมรถ Mazda 2 ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและสนุกสนานของการควบคุมพวงมาลัย การตอบสนองต่อการเร่ง และเบรกในสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะเอกลักษณ์ความเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ขับขี่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีของ Skyactiv รวมถึงสัมผัสถึงสมรรถนะของเกียร์ 6 จังหวะ Skyactiv-Drive ของ Mazda 2
สำหรับกิจกรรมทดสอบรถยนต์ Mazda 2 ในครั้งนี้ นอกจากจะได้สัมผัสกับสมรรถนะความแรงของเครื่องยนต์ Skyactiv พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งจากการขับขี่บนถนนจริงแล้ว ยังได้สัมผัสกับการทดสอบในสนามปิด ซึ่งเป็นสนามทดสอบแห่งชาติกับผู้เชี่ยวชาญการทดสอบ ทำให้ได้รับทั้งความสนุกและประสบการณ์ที่น่าจดจำกับรถ Mazda 2 ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันโดยสวัสดิภาพ
เส้นสายที่เรียบง่าย แต่แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยว พร้อม LED Projector ของ Mazda 2 ยังคงเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจทั้งในรุ่น 4 ประตูและ 5 ประตู แม้ว่ารุ่น 5 ประตู จะมีสีแนวพาสเทลที่จับใจ ลูกค้ายุคใหม่ ทั้ง สาวแซบ และหนุ่มหน้าใส ก็ตาม ภายในห้องโดยสารดีไซน์โดดเด่น พิถีพิถัน และใช้วัสดุเกรดพรีเมียม ทั้งยังติดตั้งจอใสแสดงข้อมูลการขับขี่เหนือคอนโซลหน้าในระดับสายตาของผู้ขับ (Active Driving Display) หรือ Head-Up Display แท่นชาร์จไร้สาย และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ด้วยระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sports Paddle Shift) พร้อม Drive Selection Switch เลือกขับขี่โหมด Sport เมื่อต้องการเร่งแซง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง พนักพิงเบาะหลังแยกปรับพับ 60:40 พร้อมปุ่มพับเบาะในฝากระโปรงท้าย เพิ่มความสะดวกและพื้นที่บรรจุสัมภาระ
และภายใต้ Skyactiv-Vehicle Dynamics พัฒนาต่อยอดจากระบบ GVC ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับ ควบคู่ไปกับการเบรคที่เหมาะสม ทำให้รถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ ผู้ขับแก้พวงมาลัยน้อยลง ควบคุมรถง่าย และแม่นยำยิ่งขึ้น สามารถเข้าโค้ง และออกจากโค้งได้อย่างนุ่มนวล ลดอาการเมื่อยล้าสะสมจากการขับรถทางไกลของผู้ขับขี่ และการโคลงตัวไป/มาของผู้โดยสาร
ส่วนจะเลือกเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 1.3 ลิตร ให้แรงม้าและแรงบิดสูง ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร ตัวเริ่มที่ราคา 599,000 บาท หรือเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ Skyactiv-D 1.5 ลิตร ให้แรงบิดสูง ประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร ตัวเริ่มที่ราคา 720,000 บาท ก็น่าลอง
ราคาจำหน่ายทั้งรุ่น 4 ประตู Mazda 2 Sedan และ 5 ประตู Mazda 2 Hatchback หรือ Mazda 2 Sports
เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 1.3 ลิตร
1.3 C ราคา 599,000 บาท
1.3 S ราคา 680,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่)
1.3 SP ราคา 730,000 บาท
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ Skyactiv-D 1.5 ลิตร
XD ราคา 720,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่)
XDL ราคา 830,000 บาท
สีของ New Wave Design ในรุ่นย่อย 1.3 C, 1.3 S และ XD มีให้เลือกถึง 8 สี แดง (Soul Red Crystal) เทา (Machine Gray) ขาว (Snowflake White Pearl) ดำ (Jet Black) บรอนซ์ (Platinum Quartz) โดยเพิ่มเติม ฟ้า (Air Stream Blue) และ เทา (Aero Gray) ทั้งในรถแบบ 4 ประตู และแบบ 5 ประตู
สีของ Sport Design ที่มาพร้อมกับหลังคาสีดำ ในรุ่นทอพ 1.3 SP และ XDL มีให้เลือกถึง 7 สี แดง (Soul Red Crystal) เทา (Machine Gray) ขาว (Snowflake White Pearl) บรอนซ์ (Platinum Quartz) โดยเพิ่มเติม ฟ้า (Air Stream Blue) และ เทา (Aero Gray) ทั้งในรถแบบ 4 ประตู และแบบ 5 ประตู
นอกจากนี้ ยังมี 5 ประตู Hatchback เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 1.3 ลิตร รุ่นพิเศษ
Rookie Drive Sports ราคา 662,000 บาท
กระจังหน้า สีขาว ยกเว้นรถสีภายนอก ขาว (Snowflake White Pearl) ชุดสปอยเลอร์หลัง รุ่น 5 ประตู สีส้ม Racing Orange ชุดสติกเกอร์ Rookie Drive ชุดครอบกระจกมองข้าง สีส้ม Racing Orange คิ้วตกแต่งกระจังหน้าและกันชนหลัง สีส้ม Racing Orange ชุดฝาครอบล้อ สีส้ม Racing Orange และเสาอากาศแบบครีบฉลาม
มีให้เลือก 3 สี คือ ฟ้า (Air Stream Blue) หลังคาสีขาว เทา (Polymetal Gray) และขาว (Snowflake White Pearl) หลังคาสีดำ
Clap Pop Sports ราคา 647,000 บาท
กระจังหน้า สีขาว ชุดสติกเกอร์ Clap Pop ชุดครอบกระจกมองข้าง และชุดฝาครอบล้อ สีขาว (Ceramic Metallic) หลังคาสีขาว และเสาอากาศแบบครีบฉลาม
มีให้เลือก 4 สี เทา (Polymetal Gray) เทา (Machine Gray) ดำ (Jet Black) และน้ำเงิน (Deep Crystal Blue)
ABOUT THE AUTHOR
Thanasan Saowamol
ลุงหนึ่ง ฟอร์มูลา ศึกษาวิชาตำรารถมานานกว่า 30 ปี ผ่านร้อนหนาว ตั้งแต่ ยุคเครื่องยนต์ มาถึงยุคมอเตอร์ จะว่าเวอร์ ก็เจอมาหมด
ภาพโดย : Mazdaคอลัมน์ Online : ทดลองขับ (บก. ออนไลน์)