รถล่าสุด
Lamborghini Revuelto กระทิงดุพลังไฮบริด 1,015 แรงม้า ! ราคาเริ่มต้นที่ 47,490,000 บาท
Lamborghini Revuelto กระทิงดุพลังไฮบริด 1,015 แรงม้า ! ราคาเริ่มต้นที่ 47,490,000 บาท
ด้านหน้าของ Lamborghini Revuelto รถยนต์ซูเพอร์สปอร์ทรุ่นใหม่จาก Sant'Agata นี้มอบความโดดเด่นด้วยสปลิทเตอร์คาร์บอนไฟเบอร์ที่มีลักษณะขอบแผ่ออกรอบด้านตรงส่วนกลาง และเอียงลาดลงทางด้านข้าง ซึ่งช่วยสร้างกระแสอากาศเพื่อเพิ่มแรงกดส่วนหน้าตัวรถ และทำการเบี่ยงลมให้เลี่ยงส่วนล้อ การออกแบบรูปทรงกลางตัวรถช่วยให้อากาศไหลไปยังครีบ Vortex Generators จำนวน 4 ตัวหลัง ซึ่งประกอบด้วยแผ่นทรงโค้งแคบที่ติดตั้งอยู่ใต้ตัวถังที่จำเป็นสำหรับการเพิ่มแรงของกระแสลมที่ปะทะตัวรถด้านล่าง โดยจะช่วยเพิ่มแรงกด และกำหนดทิศทางของกระแสลมให้ไหลไปยังดิฟฟิวเซอร์ประสิทธิภาพสูงอย่างที่ไม่เคยมีในรถยนต์ V12 รุ่นใดมาก่อน ดิฟฟิวเซอร์จะทำหน้าที่ด้านอากาศพลศาสตร์ด้วยการแยกกระแสลมที่ไหลมาจากใต้ตัวถังผ่านระบบกำหนดช่องทางลมระหว่างส่วนกลางตัวรถซึ่งมีความลาดต่ำ (ที่ 11° เมื่อเปรียบเทียบกับ 7° ในรุ่น Aventador Ultimae) และส่วนท้ายของตัวรถที่มีความลาดเอียงสูง (ที่ 15° เมื่อเปรียบเทียบกับ 8° ในรุ่น Aventador Ultimae) โดยดิฟฟิวเซอร์นี้ยังทำหน้าที่ในเชิงโครงสร้างและช่วยในระบบระบายความร้อนให้กับส่วนเครื่องยนต์อีกด้วยโดยสรุปแล้ว แนวทางการออกแบบตัวรถใหม่ทำให้ Revuelto สามารถเพิ่มแรงอากาศพลศาสตร์ส่วนหน้ารถได้ถึง 33% และส่วนท้ายรถได้ถึง 74% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Aventador Ultimae (ภายใต้สภาวะแรงกระทำสูงสุด) Lamborghini Revuelto ใช้นวัตกรรมโครงสร้างใหม่ล่าสุด “Monofuselage” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวถัง Monocoque ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน และผลิตด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด โดย Monofuselage มีโครงสร้างส่วนหน้าเป็น Forged Composites ซึ่งเป็นวัสดุพิเศษที่ผลิตจากชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ขนาดเล็กชุบด้วยเรซิน โดย Lamborghini ได้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยีนี้ และเริ่มใช้ในการผลิตโครงสร้างครั้งแรกมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 โครงสร้าง Monofuselage แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญต่อจากรุ่น Aventador ทั้งในด้านประสิทธิภาพความแข็งแรง และทนต่อแรงบิด คุณสมบัติน้ำหนักเบา และพลศาสตร์การขับขี่ นอกจากนี้ Revuelto ยังเป็นรถยนต์ซูเพอร์สปอร์ทรุ่นแรกที่ใช้โครงสร้างส่วนหน้าเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ 100% โดยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ยังใช้กับโครงรูปโคนส่วนหน้าเพื่อยกระดับการดูดพลังงาน ซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโครงสร้างโลหะแบบดั้งเดิม และมากกว่าเป็น 2 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับโครงส่วนหน้าแบบอลูมิเนียมของรุ่น Aventador บวกกับคุณสมบัติน้ำหนักที่เบาลงอย่างมาก ข้อเท็จจริงคือโครงสร้าง Monofuselage ของ Revuelto มีน้ำหนักเบากว่าโครงแชสซีของรุ่น Aventador ถึง 10% และโครงส่วนหน้าเบากว่าโครงอลูมิเนียมของรุ่นก่อนหน้าถึง 20% นอกจากนี้ ความแข็งแรง และทนต่อแรงบิดยังเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Aventador ซึ่งการันตีสมรรถนะที่เป็นเลิศด้านพลศาสตร์ที่ดีที่สุดในคลาสอีกด้วย รถยนต์ซูเพอร์สปอร์ทรุ่นใหม่นี้ใช้เลย์เอาท์การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยติดตั้งเครื่องยนต์ V12 แบบไร้ระบบอัดอากาศขนาด 6.5 ลิตร บริเวณกลางตัวรถ และมีมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวแรกจะอยู่ที่เพลาขับคู่หน้า และอีก 1 ตัวจะติดตั้งอยู่กับชุดเกียร์ดับเบิลคลัชท์ 8 จังหวะรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ชุดเกียร์ถูกติดตั้งอยู่หลังเครื่องยนต์ โดยเป็นการติดตั้งแนวขวางอยู่ด้านหลังเครื่องยนต์สันดาป V12 เป็นครั้งแรก ส่วนพื้นที่ของอุโมงค์เกียร์ที่มีมาตั้งแต่รุ่น Countach ถูกแทนที่ด้วยแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน พลังสูงเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถช่วยจ่ายไฟให้กับเครื่องได้ในขณะทำงานรอบต่ำ และสามารถเปลี่ยน Revuelto ให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดยสมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์รวมได้ถึง 30% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น Aventador Ultimae Lamborghini Revuelto ยังนำเสนอสถาปัตยกรรมโครงสร้างแบบไฮบริดที่ไม่เคยมีมาก่อนรวมถึงเครื่องยนต์ V12 รุ่นใหม่ และเป็นการเปิดตัวรถยนต์ซูเพอร์สปอร์ทระบบไฮบริดในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง (High Performance Electrified Vehicle: HPEV) รุ่นแรกที่ใช้แบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน กำลังไฟสูงน้ำหนักเบา โดยติดตั้งในท่อส่งกำลังที่อยู่ส่วนกลางของโครงแชสซี ซึ่งถือเป็นรูปแบบใหม่ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดการปล่อยไอเสีย เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์ V12 ที่ผ่านมา พร้อมกับการเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ในระดับสูงสุด เครื่องยนต์รหัส L545 รุ่นใหม่นี้มีความจุ 6.5 ลิตร โดยเป็นเครื่อง12 สูบที่เบาที่สุด และให้กำลังเครื่องสูงสุดเท่าที่ Lamborghini เคยผลิตมา โดยมีน้ำหนักรวมเพียง 218 กก. ซึ่งเบากว่าเครื่องยนต์ของรุ่น Aventador ถึง 17 กก. โดย Revuelto เปลี่ยนมุมติดตั้งเครื่องยนต์ถึง 180 องศา เมื่อเปรียบเทียบกับเลย์เอาท์ของ Aventador โดยเครื่องยนต์ Superquadro V12 มีกำลังสูงสุด 825 แรงม้า ที่ 9,250 รตน. ซึ่งเป็นผลมาจากระบบจ่ายกำลังเครื่องรุ่นใหม่ที่รองรับรอบเครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 9,500 รตน. โดยมีค่ากำลังจำเพาะอยู่ที่ 128 แรงม้า ต่อลิตร ซึ่งถือว่าเป็นกำลังเครื่องที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ของเครื่องยนต์ 12 สูบของ Lamborghini ทั้งยังให้แรงบิดสูงสุดถึง 74.0 กก.-ม. ที่ 6,750 รตน. ท่อดักอากาศได้รับการออกแบบโครงสร้างใหม่เพื่อเพิ่มปริมาณอากาศ และเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนอากาศสู่ห้องเผาไหม้ให้ดียิ่งขึ้น การเผาไหม้ในห้องเครื่องประสิทธิภาพสูงสุดยังมาจากระบบควบคุมการแตกตัวของประจุในห้องเครื่องผ่านหน่วยควบคุม 2 ชุด ซึ่งเป็นรูปแบบที่เคยใช้ในรุ่น Aventador และวันนี้ได้ถูกส่งต่อมายังรถยนต์รุ่นนี้ ระบบการสันดาปใหม่มีอัตราส่วนกำลังอัดเพิ่มขึ้น (12.6:1 เมื่อเปรียบเทียบกับ 11.8:1 ในรุ่น Aventador Ultimae) ท่อไอเสียได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อการไหลเวียนของไอเสียเมื่อเครื่องมีกำลังรอบสูงได้ดีขึ้น และเพิ่มกำลังเครื่องจำเพาะให้สูงขึ้น Lamborghini มีชื่อเสียงเลื่องลือมาตั้งแต่ยุคก่อตั้งในด้านพลังเสียงอันกระหึ่มสุดเร้าใจที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง ซึ่งพลังเสียงนี้ได้ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ในเครื่องรุ่น L545 นี้เช่นกัน เพื่อเน้นย้ำถึงพลังเครื่องยนต์ซึ่งจะให้เสียงที่ไพเราะในขณะรอบเครื่องต่ำ และค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปอย่างเป็นธรรมชาติในยามที่รถยนต์พุ่งทะยานไป แรงบิดรวมจากเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว มอบสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่นเหนือใครแม้ในหมู่รถยนต์ซูเพอร์สปอร์ท ด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 74.0 กก.-ม. จากเครื่องยนต์สันดาปภายใน และอีก 35.7 กก.-ม. จากมอเตอร์หน้าแต่ละตัว ซึ่งเมื่อรวมแล้วจะสามารถมอบกำลังรวมสูงสุดได้ถึง 1,015 แรงม้า เลยทีเดียวมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวด้านหน้าเป็นมอเตอร์แกนแบบน้ำมันหล่อเย็น และให้อัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าดีเยี่ยมที่ 18.5 กิโลกรัมจากมอเตอร์ 110 กิโลวัตต์แต่ละตัว นอกจากการส่งกำลังแก่ล้อหน้าแต่ละข้าง ยังมีฟังค์ชันกระจายแรงบิด (Torque Vectoring) เพื่อยกระดับพลศาสตร์การขับขี่ และกู้พลังงานจากการเบรค โดยเมื่อเลือกโหมดการขับขี่แบบไฟฟ้า Revuelto จะขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าเท่านั้นเพื่อลดอัตราการใช้พลังงานให้น้อยที่สุด ซึ่งในขณะขับด้วยระบบไฟฟ้า เพลาหลังจะทำงานเฉพาะเมื่อถูกสั่งการในสถานการณ์ที่จำเป็นเท่านั้น Lamborghini Revuelto ติดตั้งชุดแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน กำลังสูง (4,500 วัตต์ ต่อ กก.) ไว้บริเวณท่อแกนกลาง ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงได้ต่ำสุด และมั่นใจได้ถึงการกระจายน้ำหนักที่ดีเยี่ยม ตัวแบทเตอรีได้รับการปกป้องโดยชั้นโครงสร้างส่วนล่าง และเชื่อมต่อไปยังมอเตอร์ไฟฟ้าตัวหน้า มอเตอร์ไฟฟ้าตัวหลัง และหน่วยชาร์จไฟที่รวมไว้ในระบบ แบทเตอรีมีความยาว 1,550 มม. สูง 301 มม. และกว้าง 240 มม. บรรจุเซลล์พลังงานรวมความจุ 3.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง เมื่อประจุลดลงเหลือศูนย์ สามารถชาร์จใหม่ได้ทั้งการใช้กระแสสลับ (AC) และแบบชาร์จในบ้านที่มีกระแสสูงสุด 7 กิโลวัตต์ โดยชาร์จเต็มในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังสามารถชาร์จไฟจากการเบรคของล้อหน้าที่ช่วยประจุไฟได้ หรือชาร์จโดยตรงจากเครื่องยนต์ V12 ในเวลาเพียง 6 นาที ชุดเกียร์ 8 จังหวะรุ่นใหม่ถูกวางตำแหน่งตามขวางด้านหลังเครื่องยนต์ V12 ที่วางตามแนวยาว เพื่อเว้นเนื้อที่ในท่อระบบส่งกำลังสำหรับการติดตั้งแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน ที่จะเป็นตัวให้พลังงานแก่มอเตอร์ไฟฟ้า ถือเป็นรายละเอียดทางเทคนิคที่ยอดเยี่ยมในโลกรถยนต์สมรรถนะสูง และยกระดับให้ Lamborghini ขึ้นแท่นผู้นำด้านวิศวกรรมยานยนต์อีกครั้ง การวางเลย์เอาท์ลักษณะนี้ยังช่วยรักษาตำแหน่งของฐานล้อ และเสริมการกระจายน้ำหนักให้ดีขึ้น เพื่อเสริมระบบพลศาสตร์การขับขี่ให้ดีที่สุด โครงสร้างภายในของชุดเกียร์รุ่นใหม่นี้มีชาฟท์พิเศษ 2 ชิ้นซึ่งตรงข้ามกับตามปกติที่มี 3 ชิ้น ชิ้นหนึ่งทำหน้าที่ควบคุมเกียร์เลขคู่ อีกชิ้นควบคุมเกียร์เลขคี่ โดยทั้งสองชิ้นทำงานกับโรเตอร์ตัวเดียวกัน การวางเลย์เอาท์ลักษณะนี้ยังช่วยลดน้ำหนักรวม และประหยัดพื้นที่ได้อย่างมาก สิ่งที่เปิดตัวพร้อมกับระบบไฮบริดคือ 3 โหมดการขับขี่รูปแบบใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ ได้แก่ Recharge, Hybrid และ Performance เพื่อใช้ร่วมกับโหมดเดิมอย่าง Città (City), Strada, Sport และ Corsa ซึ่งสามารถเลือกปรับได้ด้วยการใช้โรเตอร์ 2 ตัวบนพวงมาลัยที่ออกแบบใหม่ ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดจะสามารถตั้งค่าไดนามิคได้ถึง 13 รูปแบบ เพื่อให้ Revuelto แสดงสมรรถนะที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์ และสภาพพื้นถนน หรือแม้แต่บนสนามแข่งขัน ยกตัวอย่างเช่น โหมด Città ถูกออกแบบมาเพื่อการขับขี่ประจำวันในย่านกลางเมืองด้วยอัตราการปล่อยไอเสียเป็นศูนย์ ซึ่งเมื่อแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน ที่คอยให้พลังงานแก่มอเตอร์ไฟฟ้าจำเป็นต้องได้รับการชาร์จไฟ แต่พื้นที่แถบนั้นไม่มีสถานีชาร์จ เครื่องยนต์ V12 จะเข้ามาทำงานเพื่อชาร์จไฟจนเต็ม (เข้าสู่โหมด Recharge) ในเวลาไม่กี่นาที ทำให้รถยนต์รุ่นนี้สามารถแล่นเข้าไปในพื้นที่ที่มีกฎระเบียบควบคุมการปล่อยมลพิษได้ด้วยการใช้โหมดไฟฟ้า โดยที่ระบบกันสะเทือน ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และชุดเกียร์ จะมอบความสบายสูงสุดในการขับขี่ แรงต้านอากาศที่น้อยลงยังทำให้โหมด Città มีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีที่สุดโดยจำกัดกำลังเครื่องสูงสุดที่ 180 แรงม้า หากต้องการสุดยอดแห่งประสบการณ์ไดนามิค และพลังที่เต็มเปี่ยมทั้งในแง่ประสิทธิภาพการขับขี่ และพลังเสียง ต้องเลือกโหมด Corsa ที่ออกแบบมาเพื่อเน้นย้ำถึงศักยภาพด้านสุดยอดไดนามิคบนสนามแข่งขันของ Revuelto โดยในโหมด Performance ระบบส่งกำลังจะแสดงพลังสูงสุดด้วยกำลังเครื่องถึง 1,015 แรงม้า และการควบคุมระบบไฮบริดจะถูกปรับให้รีดศักยภาพของเพลาขับไฟฟ้า (e-axle) ออกมาทั้งหมด ทั้งในด้านการกระจายแรงบิด และการขับเคลื่อนในทุกล้อเพื่อสร้างประสบการณ์ขับขี่ระดับ Ultra-sport ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยในโหมด Corsa Recharge นักขับสามารถเน้นการชาร์จไฟแบทเตอรีให้มากที่สุด สำหรับนักขับที่เชี่ยวชาญก็สามารถเลือกปิด ESC เพื่อสัมผัสประสบการณ์แห่งพลังได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องมีระบบช่วยขับ และเร้าใจได้ตั้งแต่ออกสตาร์ตด้วยกำลังเครื่องสูงสุดผ่านฟังค์ชัน “Launch Control” ซึ่งเปิดทำงานได้ด้วยการกดค้างปุ่มตรงกลางโรเตอร์ตัวซ้าย พันธมิตรด้านชิ้นส่วนยางของ Revuelto คือ Bridgestone ซึ่งได้พัฒนายางรุ่น Potenza Sport ขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อยกระดับประสบการณ์ซูเปอร์สปอร์ตและเพิ่มขีดศักยภาพด้านความเร็วให้แก่รถยนต์รุ่นใหม่นี้ ยาง Potenza Sport เกรดพรีเมียมประสิทธิภาพสูง ซึ่งผสมผสานระหว่างการจัดล้อแบบ 265/35 ZRF20 ที่เพลาหน้าและ 345/30 ZRF21 ที่เพลาท้าย รวมถึงแบบ 265/30 ZRF21 ที่ด้านหน้าและ 355/25 ZRF22 ที่ด้านหลัง ซึ่งทั้งสองแบบเป็นเทคโนโลยียางแบบ Run-flat เทคโนโลยีนี้ช่วยให้นักขับสามารถขับต่อไปได้อย่างปลอดภัยแม้ยางถูกตำทะลุจนไม่มีลม โดยวิ่งต่อไปได้อย่างน้อย 80 กม.ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. ที่ความดันลม 0 บาร์ ช่วยมอบความอุ่นใจให้แก่นับขับได้อย่างมาก การผสานประสิทธิภาพกันยังถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งการใช้ล้อแบบ 265/35 ZR20 ที่เพลาหน้าและ 345/30 ZR21 Potenza Sport ที่เพลาท้าย (ยางแบบ Tubeless) ซึ่งทั้ง 2 รูปบบเป็นยางแบบ Run-flat และยางแบบ Tubeless มอบประสิทธิภาพการวิ่งด้วยความเร็วสูงที่เหนือชั้น ความแม่นยำในการเข้าโค้ง และการตอบสนองที่เป็นเยี่ยม รวมถึงการยึดเกาะทั้งบนพื้นผิวแห้ง และเปียกที่เป็นเลิศ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักขับ Revuelto จึงมีการนำเสนอออปชั่นยาง Bridgestone Potenza Race แบบสั่งผลิตสำหรับการวิ่งในสนามแข่งขัน ซึ่งจะช่วยให้นักขับสามารถยกระดับการยึดเกาะ และการควบคุมตัวรถขั้นสูงสุด ส่วนยาง Bridgestone Blizzak LM005 รุ่นปรับแต่งพิเศษ คือ อีกหนึ่งออพชันแห่งชัยชนะที่แท้จริง เพราะมอบการยึดเกาะที่ดีที่สุดแม้บนหิมะ พร้อมการเข้าโค้งที่ไวต่อการตอบสนอง และแม่นยำทั้งบนพื้นผิวแห้ง และเปียก ยาง Bridgestone เหล่านี้ยังออกแบบด้วยเทคโนโลยีปฏิวัติวงการอย่าง Virtual Tyre Development เอกสิทธิ์ของ Bridgestone ซึ่งสามารถลดทั้งปริมาณวัตถุดิบ และการปล่อยก๊าซมลพิษในระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างมาก Lamborghini Revuelto ยังสามารถเชื่อมต่อแอพพลิเคชันพิเศษอื่นๆ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ใช้จึงสามารถเลือกปรับแต่งการใช้งานเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การขับขี่ได้ดังใจ และด้วยการให้ความสำคัญอย่างมากกับความปลอดภัยของลูกค้า Lamborghini Revuelto จึงติดตั้งระบบโทรศัพท์ฉุกเฉิน และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินไว้กับตัวรถ ซึ่งจะทำงานทันทีเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที โดยระบบติดตามรถยนต์ Lamborghini Connect ยังสามารถตรวจจับการใช้งานรถยนต์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งไม่เพียงแจ้งไปยังเจ้าของรถ แต่ยังติดต่อไปยังศูนย์ความปลอดภัยที่เปิดรับสัญญาณตลอด 24 ชม. เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในการติดตามรถยนต์กลับคืน Lamborghini Revuelto ใช้งานได้ทั่วโลกโดยรองรับได้มากกว่า 30 ภาษา เพื่อมอบประสบการณ์ที่ถูกต้องแม่นยำและมั่นใจได้ในทุก ๆ ประเทศ Lamborghini ยังนำระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS (Advanced Driver Assistance System) มาใช้ใน Revuelto เป็นครั้งแรก ซึ่งรวมถึงฟังค์ชันขั้นสูงเพื่อการเพิ่มความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการขับขี่ประจำวัน ซึ่งเกิดจากการทำงานผสานกันทั้งระบบกล้อง เรดาร์ และเซนเซอร์ ซึ่งชุดความปลอดภัยยังมีระบบเตือนเมื่อออกนอกช่องเดินรถพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ Active Lane Departure Warning (ALDW) ซึ่งจะตรวจจับเส้นแบ่งช่องเดินรถ และปรับวงล้อให้เหมาะสมหากผู้ขับเผลอขับข้ามช่อง นอกจากนี้ ระบบเตือนเมื่อเปลี่ยนช่องเดินรถ Lane Change Warning (LCW) จะตรวจจับจุดบอด และเตือนผู้ขับถึงอันตรายก่อนที่จะเปลี่ยนช่องทาง ส่วนระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control (ACC) จะควบคุมความเร็วรถ และระยะห่างกับรถคันหน้า โดยจะช่วยทั้งในการเร่งความเร็ว และเบรครถให้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert (RCTA) โดยเมื่อทำการถอยรถ อุปกรณ์จะเตือนนักขับหากมีสิ่งกีดขวางอยู่ด้านหลัง และทำการเบรคเมื่อใกล้จะเกิดการชนปะทะ นอกจากนี้ ระบบกล้องยังแสดงภาพด้านหลังรถ และด้านบนที่จอแสดงผลบริเวณแผงหน้าปัด ทำให้นักขับไม่เพียงมองเห็นด้านหลังรถ แต่ยังเห็นภาพจำลองของรถทั้งคันเมื่อมองจากด้านบน Lamborghini Revuelto สปอร์ทรุ่นใหญ่ จากค่ายกระทิงดุ กับแนวทางใหม่ขุมพลังของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการโดย Renazzo Motor กับสนนราคาเริ่มต้นที่ 47,490,000 บาทABOUT THE AUTHOR
ภูเขม หน่อสวรรค์
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : รถล่าสุด (บก. ออนไลน์)