บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-Asia ประกาศผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก ทำรายได้รวม 18,449 ล้านบาท เติบโต 11 % และมีกำไรสุทธิ 228 ล้านบาท แย้มผลงานไตรมาสสุดท้าย เติบโตโดดเด่นรับไฮซีซัน เตรียมรับรู้รายได้จากการส่งมอบเรือยอทช์ Azimut มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และจากศูนย์บริการซ่อมสี และตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า Tesla เล็งขยายฟลีทรถเช่ารับภาคท่องเที่ยวฟื้น เตรียมรุกธุร กิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างครบวงจร หลังเซ็นต์ MOU กับ "กลุ่ม ปตท." แล้ว มั่นใจรายได้ทั้งปีเติบโตกว่า 10 % ตามเป้าหมาย
ดร. สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิที ที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ในการเดินทางอย่างครบวงจร เปิดเผยผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) ของปี 2566 มีรายได้รวม 18,449 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 % ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 228 ล้านบาท ลดลง 24 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ ที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจ บริษัทฯ จึงจัดโปรโมชันพิเศษ เพื่อกระ ตุ้นการตัดสินใจซื้อในช่วงไตรมาส 3/2566 นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เนื่องจากการปรับโครงสร้างการเช่าพื้นที่ เพื่อใช้เป็นศูนย์จัดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทฯ รวมถึง ในปี 2565 บริษัทฯ มีกำ ไรจากการได้รับสิทธิ์เป็นผู้บริหารจัดการขบวนรถยนต์ในการประชุม APEC ดังนั้นหากไม่รวมค่าใช้จ่าย และกำไรที่เกิดขึ้นในครั้งเดียวดังกล่าวข้างต้น จะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 255 ล้านบาท ลดลง 8 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าจะเติบโต โดดเด่น จากการวางโครง สร้างรายได้ที่หลากหลาย ภายใต้โมเดลธุรกิจ Lifestyle Mobility Ecosystem ของ MGC-Asia ที่มีระบบนิเวศทางธุรกิจที่สมบูรณ์ และแข็งแรง สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุม รวมทั้งสร้างการเติบโต จากการผสานความร่วมมือภายในองค์กร และพันธมิตรทางธุรกิจ (Synergy) โดยคาดว่าการเติบโตในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะมาจากธุรกิจหลักทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ ที่บริษัทฯ จะเข้าร่วมงาน Motor Expo 2023 ในวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม 2566 ซึ่งคาดว่าจะมียอดจองรถยนต์ในงานจำนวนมาก จากความต้องการซื้อหรือเปลี่ยนรถใหม่ในช่วงนี้ รวมถึงการรับรู้รายได้จากรถยนต์ที่รอส่งมอบกว่า 900 คัน และส่งมอบเรือยอทช์ Azimut แก่ลูกค้า มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
ซึ่งบริษัทฯ ได้รับสิทธิ์นำเข้า และจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย 2) ธุรกิจให้บริการหลังการขาย และให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ จะเริ่มรับรู้รายได้จากศูนย์บริการซ่อมสี และตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Approved Body Shop (TAB) ซึ่งจะสร้างรายได้ประจำให้บริษัทฯ (Recurring Income) อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย และมีแผนขยายศูนย์บริการเพิ่มอีกแห่งในปี 2567 3) ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ ทั้งระยะสั้น และระยะยาวพร้อมพนักงานขับ คาดว่าจะธุรกิจให้เช่ารถรถยนต์ระยะสั้นภายใต้ Sixt Rent a Car จะมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของการท่องเที่ยว และมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล โดยบริษัทฯ เตรียมขยายฟลีทรถเช่าในพื้นที่บริการ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่ทยอยฟื้นตัว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีปัจจัยการเติบโตจากธุรกิจร่วมทุนอีก 2 บริษัท คือ บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ผู้ให้บริการธุรกิจบริการประกันภัยชั้นแนวหน้า ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยคาดว่าจะมีรายได้กว่า 325 ล้านบาทในปี 2566 เติบโตกว่า 15 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจะเติบโตต่อเนื่องอีกไม่ต่ำกว่า 8 % ในปี 2567 พร้อมทั้งการเปิดตัวบริการประกันรูปแบบใหม่ จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก รวมถึงมุ่งขับเคลื่อนนโยบายตามหลัก ESG ขณะที่ บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ซึ่ง MGC-Asia ร่วมทุนกับ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เพื่อให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร ครอบคลุมสินเชื่อเช่าซื้อ ลีซิง และสินเชื่อรีไฟแนนศ์ สำหรับยานยนต์ระดับลักชัวรี และมารีน เจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียม-ลักชัวรี มีการขยายพอร์ทสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันรายได้ทั้งปีของบริษัทฯ ให้เติบโตทะลุ 10 % ตามเป้าหมาย
“MGC-Asia ในฐานะผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิที ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจรพร้อมแสวงหาโอกาสใหม่ๆ จากการร่วมมือกับพันธมิตร ในการขยายระบบนิเวศทางธุรกิจภายใต้ MGC-Asia Ecosys tem ให้สมบูรณ์ และแข็งแรง ล่าสุดทางบริษัทฯ ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับกลุ่มปตท. เพื่อศึกษาแนวทางการลงทุนธุรกิจรถไฟฟ้า (EV) ครบวงจร เพื่อสร้าง Synergy ร่วมกัน รวมทั้งผลักดันให้ MGC-Asia เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ตามเป้าหมายที่กำหนด”