ข่าวจากเยอรมนี ระบุว่า BMW พลิกหน้าประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ ตามแผนการลงทุนที่เคยประกาศไว้เมื่อปี 2563 โดยยุติการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในที่โรงงานในมิวนิค ที่เคยใช้มาเป็นเวลาถึง 60 ปี ปิดฉากด้วยการผลิตเครื่องยนต์ 8 สูบ ตัวสุดท้าย ในเดือนพฤศจิกายน 2566 ก่อนย้ายสายการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในไปยังโรงงานที่ Steyr ประเทศออสเตรีย และ Hams Hall ในสหราชอาณาจักร
BMW ใช้โรงงานที่มิวนิค ในการผลิตรถไฟฟ้า i4 ตั้งแต่ปี 2564 และใช้เงินลงทุนถึง 400 ล้านยูโร (ประมาณ 1.54 หมื่นล้านบาท) เพื่อปรับเปลี่ยนสายการผลิตเดิม เพื่อผลิตรถไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ทั้งใช้เป็นฐานการผลิตหลัก ในการผลิตพแลทฟอร์ม Neue Klasse (New Class) ซึ่งจะเริ่มการผลิตในปี 2659 เป็นต้นไป
พนักงานจำนวน 1,200 คนของ BMW ในมิวนิค และพื้นที่อื่นๆ ที่เคยทำหน้าที่ผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายใน จะได้รับการอบรมเพิ่มเติม เพื่อส่งไปปฏิบัติงานในส่วนงานอื่นต่อไป ด้วยรูปแบบการปรับเปลี่ยนองค์กรแบบนี้ “สภาแรงงานเยอรมนี” ได้กล่าวชื่นชมบริษัท BMW ในการใช้เงินลงทุนหลายล้านยูโร ในปี 2563 และถือว่าเป็นแบบอย่างการปรับเปลี่ยนองค์กรที่ประสบความสำเร็จ ในภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี
จากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างฐานการผลิตหลักของ BMW ในมิวนิค ทำให้เครือข่ายการผลิตรถไฟฟ้าเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น โดย i4 ใช้ฐานการผลิตในมิวนิค ส่วน iX, i7 และ i5 ถูกผลิตจากฐานการผลิตที่ Dingolfing ส่วน iX1 และ iX2 ผลิตจาก Regensburg สำหรับชิ้นส่วนระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ผลิตจากฐานการผลิตที่ Dingolfing ส่วนศูนย์การทดสอบระบบแบทเตอรีกำลังก่อสร้างที่ Wackersdorf
เดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้อยู่อาศัยในเขตเทศบาล Strasskirchen ได้ลงประชามติ อนุญาตให้สร้างฐานการผลิตแบทเตอรีในเมืองดังกล่าว ซึ่ง BMW จะใช้เป็นศูนย์กลางการผลิตแพคแบทเตอรีสำเร็จรูปแจกจ่ายไปยังโรงงานผลิตรถอื่นต่อไป