ยอดขายรถไฟฟ้ามือสองในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์

ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า สมาคมผู้ผลิต และจำหน่ายยานยนต์ (SMMT) ประเทศอังกฤษ รายงานว่า ในปีนี้มีความต้องการซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในไตรมาส 3 ของปีนี้ เกิดปรากฏการณ์รถไฟฟ้ามือสอง (BEV) มีการเปลี่ยนมือเพิ่มเป็น 2 เท่า

ไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ยอดขายของรถไฟฟ้ามือสองเพิ่มขึ้น 99.9 % ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของรถไฟฟ้ามือสองเพิ่มเป็น 1.8 % ของตลาดรถมือสองทั้งหมด ซึ่งเป็นเพราะราคาเฉลี่ยในท้องตลาดของรถไฟฟ้าต่ำลง โดยบริษัทต่างๆ มีการระบายรถไฟฟ้าที่ครบกำหนดใช้งาน ออกมาเป็นจำนวนมาก โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รถไฟฟ้า (BEV) มือสองมีราคาประมาณ 32,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่าราคาเฉลี่ยของช่วงเดียวกันในปีที่แล้วถึง 20 % ทำให้มีราคาต่ำกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายในระดับเดียวกัน เช่น Renault Zoe อายุ 3 ปี มีราคาต่ำกว่า Renault Clio เครื่องยนต์เบนซินที่มีอายุเท่ากันถึง 500 ปอนด์ (ประมาณ 2.2 หมื่นบาท) หรือ Jaguar I-Pace EV อายุ 3 ปี มีราคาต่ำกว่า F-Pace เครื่องยนต์สันดาปภายใน เกือบ 4,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.74 แสนบาท) อ้างอิงจากข้อมูลของ Auto Trade

เมื่อ 3 ปีที่แล้ว มีการจำหน่ายรถไฟฟ้าให้แก่บริษัทเป็นลอทใหญ่รวมกันถึง 7.5 แสนคัน การระบายรถออกมาในช่วงนี้ ทำให้มีรถมือสองในตลาดมากเกินความคาดหมาย ขณะเดียวกันรัฐบาลช่วยสนับสนุน ด้วยการลดภาษีให้แก่บริษัทที่ระบายรถออกมา นับว่าเป็นวิธีการที่รวดเร็ว และได้ผล ในการเพิ่มจำนวนรถไฟฟ้าสู่ถนนของสหราชอาณาจักรมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม SMMT ยังให้สิทธิประโยชน์สำหรับการซื้อรถไฟฟ้าใหม่สำหรับระดับครอบครัว โดยมีส่วนลดเท่ากับเปอร์เซนต์ของส่วนแบ่งการตลาด ทำให้จำหน่ายรถไฟฟ้าได้ถึง 15.6 % ของยอดจำหน่ายรถใหม่ทั้งหมด มากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ส่วนการซื้อรถไฟฟ้าสำหรับระดับครัวเรือนยังมีส่วนแบ่งไม่ถึง 25 % ของยอดขายรถไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด

ภาครัฐ และบริษัทผู้ผลิตรถไฟฟ้า ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ 22 % ตามข้อกำหนด “รถที่มีมลพิษเป็นศูนย์” ที่ทำความตกลงเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา จากปรากฏการณ์นี้อาจทำให้ไม่สามารถบรรลุตัวเลขนั้นได้ อย่างไรก็ตาม การจำหน่ายรถไฟฟ้ามือสองกำลังเติบโตอย่างรุนแรง ทางรัฐบาลต้องรักษาโมเมนตัมนี้ไว้ เพื่อผลักดันให้เกิดการเติบโตในกลุ่มรถไฟฟ้าใหม่ จึงเพิ่มอุปทานด้วยการเร่งสร้างโครงการพื้นฐานเครือข่ายสถานีชาร์จ เพื่อให้ผู้ใช้รถมีความมั่นใจว่าสามารถใช้สถานีชาร์จได้ทุกที่ และทุกเวลา ทำให้อุปสงค์เพิ่มขึ้นเอง