ทริพนี้เป็นการเดินทางที่อิ่มบุญ สุขใจกับกิจกรรมดีๆ ส่งท้ายปี 2566 ที่บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ชวนทำความดี และพาไปสัมผัสวิถีชุมชนพื้นบ้านที่อบอุ่น
วันแรก
บินสู่เชียงใหม่ สัมผัสวิถีชุมชน
เริ่มต้นการเดินทาง นัดรวมพลที่สนามบินดอนเมือง เพื่อโดยสารสายการบินแอร์เอเซีย มุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติเชียงใหม่ และเดินทางต่อไปยังโชว์รูมธาราอีซูซุ แยกศาลเด็ก จ. เชียงใหม่ ในเช้าวันจันทร์ที่ดูสับสนวุ่นวายกับการจราจรในเมืองใหญ่ แต่คณะเราทำตัวชิลล์ๆ กับพโรแกรม หลังฟังการบรรยายสรุปเส้นทาง และกิจกรรมต่างๆ เสร็จแล้ว พาหนะคู่ใจในทริพนี้ เป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ New ! Isuzu V-Cross 4x4 สุดเท่ ที่จะมาเป็นเพื่อนคู่ใจตลอด 2 วันเต็มในการปลดลอคความท้าทายใหม่ๆ
New ! Isuzu V-Cross มาพร้อมดีไซจ์นใหม่ ตั้งแต่กระจังหน้าแบบ 3D-Dimension สีเทาดำ และ Black Chrome ไฟหน้าใหม่ โฉบเฉี่ยวด้วย Isuzu Vision Bi-LED พร้อม Multifunctionnal Daylight ทำหน้าที่ทั้งไฟหรี่ และไฟเลี้ยว ส่วนฝากระโปรงหน้าจรดสเกิร์ทด้านล่าง มาดเข้มมาพร้อมชุดแต่ง Isuzu V-Cross Package รวมถึงฝาท้าย และชุดไฟท้ายใหม่แบบ Triple-Armour LED นอกจากนี้ ยังมีล้ออัลลอยลวดลายใหม่ ขนาด 18 นิ้ว ดีไซจ์นเท่ เน้นดุดัน
ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รตน. ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และมีตัวช่วยในการขับขี่ครบครัน อาทิ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบ Terrain Command ระบบ Rough Terrain ตัวช่วยใหม่สำหรับคนชอบลุย ซึ่งเราจะมีโอกาสใช้งานระบบต่างๆ เหล่านี้ ในการเดินทางวันที่สอง
เป้าหมายแรก คือ เดินทางไปนั่งจิบบรรยากาศของร้านกาแฟเปิดใหม่ สไตล์นอร์ดิคผสมผสานกับธรรมชาติ ดูกลมกลืน และเหมาะกับการพักผ่อนสบายๆ จากนั้นเราเดินทางต่อไปยังบ้านออนใต้ ระยะทางประมาณ 28.6 กม. ซึ่งเป็นตำบลเล็กๆ ใน อ. วันกำแพง เป็นเมืองเก่าที่มีตำนานเล่าขานมากมาย เป็นเมืองที่เงียบสงบ มีเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คน หรือนักท่องเที่ยวเดินทางมาแวะเยือนเป็นประจำ
ชุมชนออนใต้ เป็นการรวมตัวกันของชาวบ้าน จำนวน 11 หมู่บ้าน ซึ่งแต่ละหมู่บ้าน แต่ละชุมชน มีวัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน มีผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชน เช่น ผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมสี การตัดเย็บเสื้อผ้า และการทอผ้าฝ้าย ซึ่งเรามีโอกาสได้เรียนรู้วิธีการทำจากมืออาชีพ โดยการทำผ้ามัดย้อมสีจากธรรมชาติเป็นของที่ระลึกกลับบ้านด้วย สำหรับอาหารมื้อแรก เราได้สัมผัสกับอาหารพื้นเมืองออแกนิคส์ จากแปลงเกษตรของชุมชน สู่เมนูอาหารที่พิถีพิถันปรุงแต่งรสชาติอาหารแบบดั้งเดิม และการบริการที่เป็นกันเอง
นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์เรียนรู้การท่องเที่ยว และการทำกิจกรรม CSR จิตอาสา พัฒนาชุมชนโดยชาวบ้านที่นี่ได้นำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการดำเนินชีวิต และสร้างรายได้ให้แก่ท้องถิ่น
ช่วงบ่าย หลังจากกิจกรรมทำผ้ามัดย้อมสี เราเดินทางไปทำกิจกรรมเวิร์คชอพทำลูกประคบสมุนไพร เป็นการเรียนรู้วิถีชิวิตกับธรรมชาติบำบัด และปิดท้ายวันแรก ก่อนเข้าที่พัก เราแวะไปสัมผัสกับไร่สคุกกา (Skugga Estate) คาเฟคราฟโกโก สไตล์คาเฟโรงนา ที่ออกแบบร้านได้น่าประทับใจท่ามกลางธรรมชาติที่เนรมิตเป็นลาน Camping ขนาดใหญ่ และซุกซ่อนพิพิธภัณฑ์รถคลาสสิคขนาดย่อมๆ ไว้ในโรงนา เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมได้ตลอดเวลา
วันที่สอง
อิ่มบุญ ทำความดี ร่วมสร้างถนนชุมชนบ้านหินลาดใน
เช้าวันใหม่ เราเริ่มต้นเดินทางจาก จ. เชียงใหม่ สู่ อ. เวียงป่าเป้า จ. เชียงราย ร่วมกิจกรรม CSR สร้างถนนให้แก่ชุมชนบ้านห้วยหินลาดใน เพื่อป้องกันไฟป่า
ชุมชนบ้านหินลาดใน เป็นชุมชนชาวปกาเกอะญอ หรือกะเหรี่ยง ก่อตั้งหมู่บ้านเมื่อร้อยกว่าปีก่อน อยู่ระหว่างรอยต่อของเชียงใหม่ และเชียงราย ลักษณะทางภูมิศาสตร์หมู่บ้านแห่งนี้ อยู่ในแอ่งกระทะของขุนเขา มี 3 หมู่บ้านเล็กๆ รวมตัวกัน เช่น บ้านห้วยหินลาดใน บ้านห้วยหินลาดนอก และบ้านผาเยือง…
ชุมชนบ้านหินลาดใน เป็นชุมชนต้นแบบที่ได้รางวัลระดับนานาชาติจากสหประชาชาติด้านสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรป่าไม้ โดยคว้ารางวัล United Nations Forest Hero Award ในปี 2556
เวียงป่าเป้า เป็นป่าต้นน้ำของอุทยานแห่งชาติขุนแจ ทางทิศตะวันตก และป่าสงวนแห่งชาติแม่ปูนน้อย ซึ่งอยุ่ทางทิศตะวันออก เวียงป่าเป้าเป็นอำเภอเดียวในเชียงราย ที่มีต้นกำเนิดแม่น้ำไหลย้อนกลับขึ้นไป และไปรวมกับน้ำแม่กก
หลังจากเสร็จภารกิจสร้างถนนให้ชุมชนแล้ว เราย้อนกลับมาที่โรงเรียนบ้านห้วยหินลาดใน เพื่อมอบทุนพัฒนาโรงเรียน และกิจกรรมกีฬาเบาๆ กับน้องๆ นักเรียน ก่อนที่เราจะเดินทางกลับเข้าเชียงใหม่
ขอขอบคุณ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ที่ชวนไปทำความดีในครั้งนี้