Kia Corporation ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำจากประเทศเกาหลีใต้ ประกาศเปิดตัวการร่วมทุนกลยุทธ์กับ บริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด และบริษัท ลีนุตพงษ์โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินงานของ Kia ในประเทศไทย
การร่วมทุนครั้งนี้เป็นการรวบรวมจุดแข็ง และความเชี่ยวชาญอันหลากหลายของทั้ง 3 บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ ประกอบด้วย บริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สำคัญภายใต้ Siam Motors Group กลุ่มบริษัทยานยนต์ที่มีประวัติยาวนานที่สุดในประเทศไทย โดยมีความโดดเด่นทั้งในด้านเครือข่ายการจัดจำหน่าย อะไหล่ยานยนต์ ลอจิสติคส์ โซลูชันระบบขับเคลื่อน (Powertrain) รวมถึงการลงทุนในธุรกิจยานยนต์ และบริษัท ลีนุตพงษ์โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่มบริษัท ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น ที่มีชื่อเสียงด้านประสบการณ์อันยาวนานในการนำเข้าเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำจากยุโรป และเอเชีย มากว่า 70 ปี มาสู่ตลาดในประเทศไทย และเมื่อรวมศักยภาพด้านต่างๆ ของทั้ง 2 บริษัทเข้ากับไลน์อัพผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมของ Kia ก็จะช่วยผลักดันให้ บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด สามารถดำเนินธุรกิจที่จะส่งผลกระทบสู่การพัฒนาต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศที่โดดเด่นต่อไป
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากกลยุทธ์ “Plan S-5” ของ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย)ฯ ซึ่งเป็นแผนการดำเนินธุรกิจในระยะยาว 5 ปี ระหว่างปี 2567-2571 โดยมุ่งหวังที่จะบรรลุเป้าหมายสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ 1. การครองส่วนแบ่ง 5 % ของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในประเทศไทย 2. การเพิ่มสัดส่วนการทำตลาดรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวขึ้นเป็น 50 % ของยอดจำหน่ายทั้งหมด 3. การก้าวขึ้นสู่ทำเนียบแบรนด์ที่มีการรับรู้จากผู้บริโภคสูงสุด 5 อันดับแรก และ 5. การขยายเครือข่ายดีเลอร์ทั่วประเทศให้เติบโตขึ้น 5 เท่าตัว
ธเนส วัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการร่วมทุนครั้งนี้ ด้วยประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจกว่า 35 ปี รวมถึงการมีเครือข่าย และพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ครอบคลุมอุตสาหกรรมในด้านต่างๆ ของบริษัทฯ โดยความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสําคัญในการขยายเส้นทางการเติบโตของ Kia ในประเทศไทย ผ่านความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่แน่นแฟ้นกับทาง บริษัท สยามกลการอะไหล่ จำกัด
ธันยนันท์ ลีนุตพงษ์ ศิริมงคลเกษม กรรมการบริหาร บริษัท ลีนุตพงษ์โฮลดิ้ง จำกัด ได้สะท้อนความเห็นที่สอดคล้องกัน โดยเน้นย้ำถึงการผนึกกำลังใช้จุดแข็งของทั้ง 3 บริษัทในการส่งเสริมศักยภาพ และขับเคลื่อนแบรนด์ Kia ไปสู่อนาคตที่มั่นคง และยั่งยืน
Kia เชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้แก่กลยุทธ์ด้านเครือข่ายการจำหน่าย การตลาด และการให้บริการ ที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในตลาดประเทศไทยได้อย่างตรงจุด รวมทั้งช่วยให้แบรนด์มีสถานะที่แข็งแกร่ง และเป็นที่จับตามองมากขึ้นในภูมิทัศน์ยานยนต์ของประเทศไทย