Triumph Motorcycle ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษ พร้อมกลับมาสร้างตำนานบทใหม่สะเทือนตลาดรถจักรยานยนต์สปอร์ททั่วโลก และในไทยอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Daytona 660 รถจักรยานยนต์สปอร์ทขนาดกลางที่มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 3 สูบใหม่ล่าสุด ขนาด 660 ซีซี
ชินศักดิ์ กิตติอมรกุล ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า สำหรับปี 2567 ถือเป็นอีกปีที่ Triumph พร้อมเดินหน้าสร้างสีสัน และความคึกคักให้ตลาดรถจักรยานยนต์ทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องประเดิมต้นปีอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการกลับมาอีกครั้งของรถจักรยานยนต์ในตำนานอันเลื่องชื่อ เปิดตัวรถจักรยานยนต์ Triumph รุ่นล่าสุด Daytona 660 รถจักรยานยนต์สปอร์ทขนาดกลางระดับแนวหน้า ที่มีสมรรถนะสไตล์สปอร์ทสุดเร้าใจ ด้วยขุมกำลังเครื่องยนต์ 3 สูบใหม่ล่าสุด การควบคุมรถแบบสปอร์ทที่ขับขี่ง่าย และคล่องตัว พร้อมความสะดวกสบายในการขับขี่ตลอดวัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าการเปิดตัวในครั้งนี้จะมาช่วยสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้แก่วงการรถจักรยานยนต์สปอร์ทขนาดกลางที่กำลังเติบโต และยังช่วยเติมเต็มเซกเมนท์รถจักรยานยนต์ขนาดกลางของแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สำหรับรถจักรยานยนต์ Triumph Daytona 660 นำเสนอวิวัฒนาการที่สำคัญของเครื่องยนต์ 3 สูบใหม่ ขนาด 660 ซีซี ส่งมอบประสิทธิภาพรถจักรยานยนต์สไตล์สปอร์ทอันเร้าใจ ให้พละกำลังสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 11,250 รตน. แรงบิดสูงสุด 69 นิวตันเมตร ที่ 8,250 รตน. พร้อมชุดเกียร์ 6 จังหวะ เสริมด้วยท่อไอเสียใหม่ ซึ่งมีส่วนหัวแบบ 3 ออก 1 และท่อเก็บเสียงด้านล่างขนาดกะทัดรัด พร้อมส่วนปิดท้ายจากสเตนเลสส์สตีล ทำให้เครื่องยนต์ 3 สูบของ Daytona 660 ส่งมอบเสียงสไตล์สปอร์ทอันทรงพลัง
Daytona 660 มาพร้อมชอคอับหัวกลับลูกสูบขนาดใหญ่ของ Showa ขนาด 41 มม. และชอคอับหลัง RSU แบบโมโนชอคของ Showa รองรับการปรับตั้งค่าพรีโหลด เบรคเรเดียล 4 ลูกสูบพร้อมดิสค์เบรคคู่ขนาด 310 มม. พร้อมสายเบรคแบบถัก จับคู่กับยาง Michelin Power 6 ใหม่ล่าสุด ที่ติดตั้งเป็นยางมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจในการขับขี่ทั้งบนถนนเปียก และแห้ง เมื่อผสมผสานกับความสูงของเบาะนั่ง 810 มม. ที่มีช่วงกลางรถที่เพรียวบาง และตำแหน่งยืนคร่อมรถที่ทรงตัวได้ง่าย ตำแหน่งแฮนด์ และที่พักเท้าที่ได้รับการปรับปรุง ทำให้ Daytona 660 มอบการขับขี่ที่น่าตื่นเต้น และสร้างแรงบันดาลใจในการขับขี่ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น แฮนด์แบบคลิพออนที่วางอยู่เหนือแผงคอด้านบน มอบความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความสะดวกสบาย และระยะห่างในการเข้าโค้ง อีกทั้งเทคโนโลยีที่ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ และความปลอดภัย ด้วยคันเร่งไฟฟ้าที่ให้การตอบสนองของคันเร่งที่คมชัด และแม่นยำ อีกทั้งยังมีโหมดการขี่ 3 โหมด ได้แก่ Sport, Road และ Rain ซึ่งปรับการตอบสนองของปีกผีเสื้อ ไปจนถึงการตั้งค่าระบบควบคุมการยึดเกาะถนนให้เหมาะสมกับสภาวะต่างๆ
ส่วนแผงหน้าปัดอเนกประสงค์หน้าจอ TFT ได้รับการออกแบบที่ไม่บดบังข้อมูลผู้ขับขี่โดยผู้ขับขี่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมผ่านระบบ My Triumph ที่มีทั้งการนำทางแบบ Turn-by-turn การเชื่อมต่อการโทรศัพท์ และฟังเพลง โดยฟังค์ชันทั้งหมดจะแสดงอย่างชัดเจนบนหน้าจอ TFT และควบคุมผ่านสวิทช์เกียร์ เพื่อความสะดวกในการใช้งานขณะขับขี่ ในขณะที่ DNA ของการออกแบบ และรูปลักษณ์สืบทอดจากต้นฉบับได้รับการปรับโฉมใหม่ด้วยมุมมองที่สดใหม่ เพื่อท่วงท่าใหม่ที่ดุดัน และเส้นสายที่สะอาดตามากขึ้น ไฟหน้า LED คู่ที่โดดเด่น ผสานกับช่องรับอากาศส่วนกลาง และตัวถังแบบมีนีมอลเน้นรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ท ปิดท้ายด้วยไฟท้าย LED แบบโค้งมน โดยมีตัวเลือกสีให้เลือก 3 สี ซึ่งทั้งหมดจะมีกราฟิค "660" สุดโดดเด่นที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่งมองเห็นได้ชัดเจนอีกด้วย
นอกจากนี้ Daytona 660 ยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมของแท้จาก Triumph มากกว่า 30 รายการ รวมถึงสามารถเพิ่มระบบ Triumph Shift Assist ได้อีกด้วย สำหรับปรับแต่งสมรรถนะ ความสะดวกสบาย สไตล์ และการใช้งานจริง เพื่อเพิ่มเติมสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมาพร้อมความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของด้วยการรับประกันคุณภาพ Triumph Warranty 2 ปีแบบไม่จำกัดระยะทาง รวมถึงความคุ้มค่าของช่วงเวลาการเข้ารับบริการเชคระยะที่สูงถึง 16,000 กม. ตลอดจนฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง (Triumph Roadside Assistance) เป็นระยะเวลา 2 ปี
ทั้งนี้ Daytona 660 พร้อมให้ทุกคนจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่งพร้อมส่งมอบภายในปลายเดือนมีนาคมเป็นต้นไป มาพร้อม 3 สีสันให้เลือก ได้แก่ สี Carnival Red/Sapphire Black สี Satin Granite/Satin Jet Black และสี Snowdonia White/Sapphire Black ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 327,300 บาท พิเศษ Triumph Daytona 660 Pro+ เมื่อออกรถพร้อมติดตั้ง Triumph Shift Assist Kit ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 50 คันแรกเท่านั้น ด้วยราคาเพียง 480,800 บาท พร้อมส่งมอบตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมนี้ เป็นต้นไป ที่โชว์รูม Triumph 12 แห่งทั่วประเทศ