Ford ประเทศไทย ได้แนะนำรถ Everest Platinum 3.0 Diesel V6 รุ่นทอพย่อยใหม่ล่าสุด "Autoinfo Online" ได้นำไปทดลองขับ รวมถึงพิสูจน์สมรรถนะของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กันที่สนาม Spirit Adventure Ground จ. นครนายก การทดสอบจะเป็นอย่างไร ติดตามทางคลิพนี้ได้เลย
Ford Everest Platinum 3.0 Diesel V6 มาพร้อมสมรรถนะ และดีไซจ์นที่เน้นความเท่ และเรียบหรูไปพร้อมๆ กัน โดยมาพร้อมขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 3.0 ลิตร แบบ V6 สูบ ให้กำลังสูงสุด 250 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับความนิยมมายาวนาน มีความเสถียร และทนทาน ด้วยวัสดุที่ทำจากเหล็กหล่อกราไฟท์ เพื่อให้การทำงานของเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำลัง และแรงบิดที่มากขึ้น สำหรับการลากจูง และการขับขี่แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ แบบ E-Shifter
สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงไป เมื่อเที่ยบกับรุ่น Titanium+ เดิม
- ขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ขนาด 3.0 ลิตร แบบ V6 สูบ และเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ แบบ E-Shifter โดยมีพละกำลังสูงสุด 250 แรงม้า แรงบิด 600 นิวตันเมตร
- กระจังหน้าขนาดใหญ่ดีไซจ์นใหม่ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Ford Everest Platinum พร้อมตัวอักษร "PLATINUM" สีโครเมียมบนฝากระโปรงหน้า บานประตูคู่หน้า และฝาท้าย
- หลังคา Panoramic Moonroof สีดำ (Black roof) พร้อมราวหลังคาสีเงินโครเมียมแบบยกสูง
- ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางขนาด 275/45 R21
- ระบบไฟส่องสว่างแบบแบ่งโซน (Zone Lighting) ควบคุมการเปิดไฟส่องสว่างภายนอกตัวรถ เมื่อต้องการแสงสว่างในการทำกิจกรรมต่างๆ ในตอนกลางคืน ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย ตกแต่งด้วยสีดำเป็นเอกลักษณ์ ด้วยโลโกซิกเนเจอร์ PLATINUM
- เบาะนั่งคนขับ และเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบปรับอากาศ และระบบบันทึกตำแหน่งเบาะที่นั่ง
- เบาะนั่ง 2 แถวหน้ามีชุดทำความร้อน และระบายอากาศ ที่สามารถควบคุมได้ผ่านหน้าจอ SYNC
- ฟังค์ชันการปรับตำแหน่งคนขับให้เข้า/ออกสะดวก สำหรับเบาะนั่งคนขับ (Easy Entry and Exit)
- ระบบเสียงชั้นนำ Bang & Olufsen® พร้อมลำโพง 12 ตัว รวมซับวูเฟอร์
มิติตัวรถยังเหมือนเดิมที่ความยาว 4,914 มม. กว้าง 1,923 มม. และสูง 1,842 มม. ระบบส่งกำลัง มีการปรับระบบขับเคลื่อน 4x4 ให้เลือกถึง 6 โหมดการขับขี่ ได้แก่ โหมดปกติ (Normal), โหมดประหยัด (Eco), โหมดลื่น (Slippery), โหมดโคลน (Mud/Ruts) โหมดทราย (Sand) และโหมดลากจูง (Tow/Haul) เพื่อให้สามารถเลือกใช้ให้ตรงกับสภาพพื้นผิวนั้นๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ระบบช่วงล่าง ยังใช้ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบคอยล์สปริง พร้อมวัตต์ลิงค์ และเหล็กกันโคลง โดยมีจานเบรคหน้า และหลัง พร้อมครีบระบายความร้อน และดิฟฟ์ลอคหลังแบบไฟฟ้า
Ford Everest Platinum 3.0 Diesel V6 ต้องเติมน้ำยาบำบัดไอเสียดีเซล (DEF) หรือสาร AdBlue® เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโร 5 ตามข้อบังคับของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ สมอ. โดยพิจารณาจากประเภทของรถยนต์ และน้ำหนัก และทำให้รถยังคงมีพละกำลัง และสมรรถนะในการขับขี่ขั้นสูง ในขณะที่ปล่อยไอเสียออกสู่สิ่งแวดล้อมในปริมาณที่น้อยลง
ทาง Ford เขามีคูปองฟรี ! ให้ลูกค้า Ford Everest Platinum 3.0 Diesel V6 รุ่นปี 2024 ที่ต้องเติมสาร AdBlue® โดย Ford มอบคูปองแพคเกจพิเศษ เพื่อให้ลูกค้านำรถเข้ารับบริการเติมสาร AdBlue® ได้ 2 แกลลอน ในปริมาณ 18.9 ลิตร โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
โดยคูปองมีอายุ 2 ปี เพื่อการใช้งานที่ศูนย์บริการ Ford ทั่วประเทศ หรือนัดหมายเข้ารับบริการผ่านหน่วยบริการเคลื่อนที่ Ford Mobile Service ในกรณีเรียกใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Road side Assistance หรือ RSA) ลูกค้าสามารถเลือกรับบริการนำรถเข้าศูนย์บริการ Ford เพื่อเติมสาร AdBlue® โดยใช้คูปอง หรือให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน RSA เติมสาร AdBlue® ให้แก่ลูกค้านอกสถานที่ ซึ่งในกรณีนี้จะมีค่าบริการในการเติมสาร AdBlue®
อุปกรณ์เด่นภายนอกรถ
- ไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี พร้อมระบบปรับมุมลำแสงไฟอัตโนมัติ ระบบป้องกันไฟแยงตา และระบบเปิด/ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
- ไฟวิ่งกลางวันแบบ LED รูปตัว C ไฟตัดหมอก และไฟท้ายแบบ LED
- ประตูท้ายเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า
อุปกรณ์ภายในรถ และอุปกรณ์ความสะดวกสบาย
- การตกแต่งภายในที่มีความเป็นเอกลักษณ์แบบ Platinum โดยเฉพาะ
- เกียร์อัตโนมัติแบบ E-Shifter
- แท่นชาร์จไร้สาย
- กุญแจรีโมทอัจฉริยะ พร้อมปุ่มสตาร์ทรถอัตโนมัติ
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย/ขวา และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พร้อมช่องต่อ USB
- แผงบังแดดคู่หน้าแบบปรับระยะ พร้อมกระจก และไฟส่องสว่างด้านคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า
การเชื่อมต่อ และความบันเทิงภายในรถ
- หน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว
- ใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC® 4A (Best in Class) รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto™ ที่ได้รับการพัฒนาให้สะดวกรวดเร็วไปอีกขั้น เพื่อความสะดวกสบาย และความปลอดภัย
- หน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 12.4 นิ้ว
- ระบบเชื่อมต่อบลูทูธ
- ระบบ FordPass Connect
- ช่องต่อ USB 4 จุด
- ช่องต่อไฟ 12V 3 ช่อง พร้อมช่องต่อไฟ 230V (400W) 1 ช่อง
อุปกรณ์ความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย 7 จุด ได้แก่ คู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่า
- ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
- สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า และหลัง
- ระบบป้องกันล้อลอค ABS และระบบกระจายแรงเบรค EBD
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) พร้อม Electric Brake Booster
- ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (Hill Launch Assist) และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll-Over Mitigation)
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control)
- เบรคมือไฟฟ้า
เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูง
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Fully Automated Active Park Assist System)
- ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop & Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
- ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
- ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System)
- ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Alert)
- ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด (Blind Spot Information System-BLIS® with cross-traffic alert)
- กล้องมองรอบคัน 360 องศา
- ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง
- ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ (Evasive Steering Assist)
- ระบบตรวจเชคลมยาง
Ford Everest Platinum 3.0 Diesel V6 มีสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเงิน อลูมิเนียม เมทัลลิค, สีเทา เมทิเออร์ กเรย์, สีดำ แอบโซลูท บแลค, สีน้ำตาล อีควินอกซ์ บรอนซ์ และสีขาว สโนว์เฟลค ไวท์ เพิร์ล (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
Ford Everest Platinum 3.0 Diesel V6 เปิดให้จองผ่านช่องทางออนไลน์บนเวบไซท์ www.ford.co.th โดยเริ่มจองได้ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2567 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป โดยมีราคาจำหน่าย 2,279,000 บาท จำนวนจำกัดเพียง 350 คันเท่านั้น !