สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี-กฟผ. ร่วมลงนาม MOU โครงการพัฒนาต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้า พร้อมพื้นที่ให้บริการเต็มรูปแบบครบวงจร ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เสริมระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยให้แข็งแกร่ง
สราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายยานยนต์แห่งชาติ ได้กำหนดเป้าหมายให้มีการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ไทยเป็นแหล่งผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก จำเป็นต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับ และส่งเสริมระบบนิเวศที่สำคัญ เช่น สถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ครอบคลุม และสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่บางส่วนของสำนักงานกรมธุรกิจพลังงานในพื้นที่อีอีซีให้เป็นต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้า ที่นอกจากรองรับการใช้งานของประชาชนแล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ของกระทรวงพลังงาน เยาวชน และประชาชนทั่วไปอีกด้วย
จุฬา สุขมานพ เลขาธิการ สกพอ. กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในครั้งนี้ ว่าเป็นก้าวสำคัญที่ส่งเสริมมาตรฐาน และยกระดับการพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้าในพื้นที่อีอีซี ผลักดันให้เกิดการลงทุนด้านยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งด้านพลังงานสะอาด ระบบอีเลคทรอนิคส์อัจฉริยะ โดยเฉพาะเป็นการพัฒนาในพื้นที่เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) ที่มีเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการพัฒนาธุรกิจดิจิทอล มีศักยภาพรองรับการลงทุนด้านวิจัย และพัฒนา เปรียบเสมือน Showroom ด้านนวัตกรรมของไทย และยังเป็นประตูในการขยายผลไปยังเขตส่งเสริมพิเศษต่างๆ การเดินหน้าร่วมกันในครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายอันดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ สนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการใช้พลังงานสะอาด สร้างการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพื่อความยั่งยืนในพื้นที่อีอีซีต่อไป
ด้าน เทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EleX by EGAT) และสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA มาตั้งแต่ปี 2564 ภายใต้ธุรกิจ EGAT EV Business Solutions เพื่อสร้างความมั่นใจให้ภาคธุรกิจ และผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วเกือบ 200 สถานีทั่วประเทศ ได้รับความเชื่อถือในประสิทธิภาพ และความมีเสถียรภาพสูง ส่งผลให้มีผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นทุกปี การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญของ EleX by EGAT ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเสริมความแข็งแกร่งของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่ประเทศ ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรในการพัฒนาต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้าพร้อมพื้นที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (EleX by EGAT Eco Charging Sphere) ซึ่งถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้ง 3 หน่วยงานจะร่วมกันพัฒนาต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้าพร้อมพื้นที่ให้บริการเต็มรูปแบบบนพื้นที่ EECd ขนาด 5 ไร่ ที่ อ. ศรีราชา จ. ชลบุรี เพื่อเป็นต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็ว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ร้านอาหารร้านกาแฟ พื้นที่พักผ่อน อาคารในพื้นที่จะใช้พลังงานสะอาดจากโซลาร์รูฟทอพ และเป็นอาคารอนุรักษ์พลังงาน ตามมาตรฐาน TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) หรือ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ภายใต้แนวคิด Green Energy เพื่อเป็นการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก รองรับความต้องการของประชาชนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในพื้นที่ และการสัญจรมายังภาคตะวันออก คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568 และจะมีการเก็บข้อมูล ข้อคิดเห็นของผู้ที่เข้ามาใช้บริการ ความต้องการในด้านต่างๆ เพื่อที่ทั้ง 3 หน่วยงานจะนำมาปรับปรุง และพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนต่อไปในอนาคต