ด้านเทพรัตน์เทพพิทักษ์ผู้ว่าการกฟผ. กล่าวว่ากฟผ. ให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EleX by EGAT) และสถานีพันธมิตรในเครือข่าย EleXA มาตั้งแต่ปี 2564 ภายใต้ธุรกิจ EGAT EV Business Solutions เพื่อสร้างความมั่นใจให้ภาคธุรกิจ และผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วเกือบ 200 สถานีทั่วประเทศได้รับความเชื่อถือในประสิทธิภาพ และความมีเสถียรภาพสูง ส่งผลให้มีผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นทุกปีการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญของ EleX by EGAT ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเสริมความแข็งแกร่งของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่ประเทศผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรในการพัฒนาต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้าพร้อมพื้นที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (EleX by EGAT Eco Charging Sphere) ซึ่งถือเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ทั้ง 3 หน่วยงานจะร่วมกันพัฒนาต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้าพร้อมพื้นที่ให้บริการเต็มรูปแบบบนพื้นที่ EECd ขนาด 5 ไร่ที่อ. ศรีราชาจ. ชลบุรีเพื่อเป็นต้นแบบสถานีอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็วพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันอาทิร้านอาหารร้านกาแฟพื้นที่พักผ่อนอาคารในพื้นที่จะใช้พลังงานสะอาดจากโซลาร์รูฟทอพและเป็นอาคารอนุรักษ์พลังงานตามมาตรฐาน TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) หรือ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ภายใต้แนวคิด Green Energy เพื่อเป็นการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกรองรับความต้องการของประชาชนผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทั้งในพื้นที่ และการสัญจรมายังภาคตะวันออกคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568 และจะมีการเก็บข้อมูลข้อคิดเห็นของผู้ที่เข้ามาใช้บริการความต้องการในด้านต่างๆเพื่อที่ทั้ง 3 หน่วยงานจะนำมาปรับปรุง และพัฒนาให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนต่อไปในอนาคต