ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ทีม Red Bull จะแต่งตั้งผู้อำนวยการด้านการแข่งขันใหม่ โดยคัดเลือกบุคลากรจากในทีม เพื่อปฏิบัติงานแทน Jonathan Wheatley ผู้อำนวยการด้านการแข่งขันที่ยื่นใบลาออก
Jonathan Wheatley จะออกจากทีม Red Bull หลังสิ้นสุดการแข่งขันฤดูกาลนี้ เขาร่วมงานกับทีมระดับแชมพ์โลกเป็นเวลา 18 ปี ในวัย 57 ปี เขาจะย้ายไปทีมแข่งสูตร 1 ของ Audi เพื่อรับตำแหน่งหัวหน้าทีม (Team Principal) ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของเขา
Audi ซื้อกิจการทีม Sauber จากเจ้าของชาวสวิสส์ โดยจะเป็นทั้งผู้ผลิตตัวรถ และเครื่องยนต์ เพื่อร่วมการแข่งขันสูตร 1 ฤดูกาล 2026 แต่ต้องเผชิญปัญหาการขาดนักแข่งมือ 1 ทีม หลังจาก Carlos Sainz เซ็นสัญญากับทีม Williams ตั้งแต่ฤดูกาลหน้าเป็นต้นไป
นอกจากนั้นทีม Audi ยังได้ Mattia Binotto อดีตทีมบอสส์ของ Ferrari มาเป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการ และเทคนิค โดยได้แจ้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้ง Jonathan Wheatley
สำหรับตำแหน่งเดิมของ Jonathan Wheatley ทีม Red Bull จะแต่งตั้งบุคลากรที่มีอยู่แล้วมารับหน้าที่แทน พร้อมกับปรับโครงสร้างการบริหารทีมด้วย
Christian Horner ยังทำหน้าที่คุมทีมอยู่ การลาออกจากทีมของ Jonathan Wheatley และ Adrian Newey ทำให้ทีม Red Bull มีโอกาสปรับโครงสร้างองค์กร และผู้ควบคุมทีมแข่งขันใหม่ทั้งหมด เมื่อปรับโครงสร้างแล้วจะได้เห็นการกลับมาของตำแหน่งผู้จัดการทีม แทนตำแหน่งผู้อำนวยการด้านการแข่งขัน และสามารถลดค่าใช้จ่ายให้แก่ทีมที่มีปัญหาใช้งบประมาณเกินกำหนด
การลาออกของทั้งสองราย อาจทำให้เกิดความชะงักงันให้แก่ทีมบ้าง แต่อีกแง่หนึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมได้ปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่าง โดยใช้พนักงานที่เปี่ยมประสบการณ์ที่มีอยู่แล้วของทีม
ทีม Red Bull ได้แต่งตั้ง Gianpiero Lambiase เป็นหัวหน้าทีมวิศวกรการแข่งขัน ทั้งยังเป็นวิศวกรการแข่งขันให้แก่ Max Verstappen เช่นเคย
นอกจากนี้ ยังมองหาพนักงานอาวุโสมารับผิดชอบงานตัวแทนทีมแข่ง เพื่อทำหน้าที่ประสานงานกับทาง FIA ด้วย โดยจะคัดเลือกจากพนักงานที่มีอยู่เดิม ไม่ต้องรับสมัครจากภายนอก ทีม Red Bull เห็นว่า การลาออกของพนักงานอาวุโสที่มีค่าจ้างสูงเป็นเรื่องปกติ ทั้งไม่มีผลกระทบกับทีมมากนัก