รถล่าสุด
MG3 HYBRID+ แฮทช์แบคไฮบริด แรง+ประหยัด ราคาพิเศษ 559,900-599,900 บาท !
MG3 HYBRID+ (เอมจี 3 ไฮบริด+) รถแฮทช์แบคไฮบริด 5 ประตู โกลบอลโมเดลรุ่นล่าสุดของ MG จากสายการผลิตในประเทศไทย รถในกลุ่ม B-Segment ผสานความลงตัวระหว่างการขับสนุกเต็มสมรรถนะ และความประหยัดเต็มประสิทธิภาพ โดดเด่นด้วยระบบ HYBRID+ เทคโนโลยีใหม่จาก MG ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ผสานความลงตัวของทุกระบบไฮบริด ด้วยขุมพลังไฮบริดมากถึง 8 โหมดขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของผู้ขับขี่ สามารถขับได้ไกลสูงสุดมากกว่า 800 กม. (จากการคำนวณอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยจาก Eco Sticker และความจุของถังน้ำมันเชื้อเพลิง) มาพร้อมอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 26.2 กม./ลิตร (จาก Eco Sticker) มีการดีไซจ์นเส้นสายของตัวถังอันเป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย ระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุม
MG3 HYBRID+
• MG3 HYBRID+ รุ่น X ราคา 619,900 บาท || ราคาพิเศษ 1,000 คันแรก 599,900 บาท
• MG3 HYBRID+ รุ่น D ราคา 579,900 บาท || ราคาพิเศษ 1,000 คันแรก 559,900 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://new-mg3.mgcars.com/th/cars/all-new-mg3-hybrid-plus
Global Exterior Design สปอร์ท โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว คล่องตัว
MG3 HYBRID+ มีการออกแบบเส้นสายอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ผสานระหว่างความสปอร์ท และความหรูหราได้อย่างลงตัว ปราดเปรียว และคล่องตัวในสไตล์รถแฮทช์แบค มาพร้อมความเท่ และดุดัน ด้วยการดีไซจ์นไฟหน้าแบบใหม่ Hunter Eye Headlamp หรือ ดวงตานักล่า ที่ดูโฉบเฉี่ยว พร้อมกระจังหน้าแบบใหม่ ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากปีกผีเสื้อ สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว เส้นสายการออกแบบรอบตัวถังเน้นความโค้งมนตามแบบฉบับของ เอ็มจี
• มิติตัวถัง 4,113 x 1,797 x 1,502 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
• ระยะความยาวฐานล้อ 2,570 มม.
• ระยะต่ำสุดจากพื้น 117 มม.
• ไฟหน้า แบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
• ไฟท้าย และไฟเบรคดวงที่สาม
• ไฟตัดหมอกหลัง
• ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
• กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว และพับอัตโนมัติ
• ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมใบปัดน้ำฝนด้านหลัง
• ล้อแมกขนาด 16 นิ้ว
Performance: ขับสนุกเหมือนรถไฟฟ้า กำลังสูงสุดทั้งระบบ 194 แรงม้า
MG3 HYBRID+ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (75 กิโลวัตต์) ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวทันเมตร/25.5 กก.-ม. แรงสุดในกลุ่ม B-Segment สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 8 วินาที และอัตราเร่ง 80-120 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5 วินาที ผลลัพธ์จากเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ของ เอ็มจี อย่างระบบ HYBRID+ กับ 8 โหมดขับเคลื่อน สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 800 กม.
• การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว DVVT 102 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ High-performance Permanent Magnet Synchronous Motors กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ให้ขุมพลังรวมสูงสุดถึง 194 แรงม้า (143 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 250 นิวทันเมตร/25.5 กก.-ม.
• แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ ในรูปแบบ Cell-To-Pack ความจุ 1.83 กิโลวัตต์ชั่วโมง
• โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT
• ระบบส่งกำลัง Hybrid Transmission ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ไฟฟ้าแบบ E-AT 3 อัตราทดเกียร์ ปรับการทำงานแบบอัตโนมัติ
• ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย
• รัศมีวงเลี้ยว 5.2 เมตร
• ระบบพวงมาลัยแรคแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
• ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
• ระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam
• ดิสก์เบรคหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรคหลัง
Interior Design: ภายในสปอร์ทอย่างมีสไตล์ ครบจบทุกฟังค์ชันการใช้งาน
ภายในห้องโดยสารสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้ Modular Concept ที่ให้ความสำคัญกับ วัสดุที่มีคุณภาพ พร้อมการออกแบบคอนโซลที่เล่นระดับให้มีมิติ เพิ่มความหรูหราด้วยภายในแบบทูโทนขาวสลับดำ เน้นความสะดวกในการใช้สอย สำหรับทั้งคนขับ และผู้โดยสาร ทั้งเพิ่มอรรถประโยชน์ในการใช้งาน โดยเฉพาะการออกแบบห้องโดยสารที่โดดเด่นในเรื่องของพื้นที่เหนือศีรษะ (Head room) และพื้นที่วางขา (Leg room) ที่ไม่อึดอัด โดย MG3 HYBRID+ มีความจุที่เก็บสัมภาระท้าย 293 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,037 ลิตร
• พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันหุ้มหนัง พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ/วางสายโทรศัพท์
• กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down ด้านผู้ขับขี่
• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi – Function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว
• ลำโพง 6 จุด
• ช่องใส่ของภายในห้องโดยสาร 25 จุด
• เบาะนั่งคนขับปรับ 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
• ที่พักแขนด้านหน้า และเบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้
• ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
• รองรับระบบเชื่อมต่อมัลทิมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย
• ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start
• ระบบปรับอากาศแบบดิจิทอล
• ระบบกรองอากาศ PM 2.5
Safety: มอบความปลอดภัยเหนือระดับทุกการเดินทาง
MG3 HYBRID+ มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF (Full Space Frame) เพียบพร้อมด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ซึ่งรวมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) หรือระบบอำนวยความสะดวกช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 8 ระบบ พร้อมระบบเบรคอัจฉริยะ (Intelligent Brake System) **อุปกรณ์บางรายการมีติดตั้งต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อย**
• ระบบเบรคมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรคค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
• ระบบป้องกันล้อลอค ABS (Anti-lock Braking System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรค EBD (Electronic Brake Force Distribution)
• ระบบเสริมแรงเบรคด้วยอิเลคทรอนิคส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบควบคุมการเบรคในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรคฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) โดยผสานรวมระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) และ ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เข้าไว้ด้วยกัน
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
• ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ UDW (Unsteady Driving Warning)
• ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ ICA (Intelligent Cruise Assist)
• ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
• กล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition
• จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX
• ระบบลอคประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
• สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
• ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
• ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)
MG3 HYBRID+ มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น D และ รุ่น X โดยมีสีตัวถังให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีแดง (Scarlet Red) สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีเทา (Metal Ash Grey) จับคู่กับเบาะสีดำ ในรุ่น D ทั้งยังมีสีให้เลือกเพิ่มเติม คือ สีฟ้า (ST. Moritz Blue) และ สีเหลือง (Pastel Yellow) จับคู่กับเบาะสีทูโทน ในรุ่น X
ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ MG3 HYBRID+
• ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. 1 ปี
• รับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 120,000 กม. (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)*
• พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบทเตอรีไฮบริด 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
• ดาวน์ต่ำเริ่มต้น 5% หรือ 27,950 บาท
• ผ่อนเริ่มต้น 6,291 บาท คำนวณจากราคาพิเศษเปิดตัวของรุ่นย่อย D ดาวน์ 25% ระยะเวลาผ่อน 84 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.69%
• เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 2.39% ผ่อนนาน 48 เดือน หรือเลือกรับดอกเบี้ยปกติ ดาวน์ต่ำเริ่มต้น 5%
• ฟรี ชุดพรมปูพื้น
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด