โอเชียน หม่า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้าร่วมงานแสดงวิสัยทัศน์ ASEAN Economic Outlook 2025: The Rise of ASEAN, A Renewing Opportunity ที่จัดขึ้น ณ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ที่รวบรวมผู้นำทางเศรษฐกิจจากองค์กร และหน่วยงานชั้นนำ รวมถึงนักธุรกิจ และผู้บริหารระดับสูงจากภาคเอกชน และหน่วยงานต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคตของภูมิภาคอาเซียน โดย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พบปะพูดคุยกับ โอเชียน หม่า และให้เกียรติเป็นผู้กล่าวเปิดงานในครั้งนี้
โอเชียน หม่า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) ได้กล่าวบรรยายในหัวข้อ "การเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน" โดยเน้นถึงวิสัยทัศน์ของ GAC Aion (จีเอซี ไอออน) ในการขยายการลงทุน และการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย รวมถึงภูมิภาคอาเซียน โดยกล่าวว่า "อาเซียนถือเป็นภูมิภาคที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ และเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค และเป็นตลาดที่มีความพร้อมในการรองรับยานยนต์ไฟฟ้า เราจึงได้เลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกนอกจากประเทศจีน และเรามุ่งหวังที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตที่สำคัญระดับโลกของ GAC Aion สำหรับผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศ และส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก"
โอเชียน หม่า ยังได้เปิดเผยถึงแผนการขยายตัวของ GAC Aion ในประเทศไทย โดยได้กล่าวว่า "การลงทุนของเราจะไม่หยุดเพียงแค่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันเรามีสถานีชาร์จไฟฟ้าแล้ว 8 แห่งในประเทศไทย และตั้งเป้าขยายให้ครบ 25 แห่งภายในสิ้นปี 2567 นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จอีก 200 แห่งภายในปี 2570 เพื่อรองรับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมอบประสบการณ์การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค นอกจากนี้ GAC Aion ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยได้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งเป็นโรงงานที่นำเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงจากโรงงานผลิตไฟฟ้าของ GAC Aion ในประเทศจีนมาใช้ ทำให้สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงได้ในท้องถิ่น โดยปัจจุบันโรงงานนี้มีการใช้ชิ้นส่วนท้องถิ่นถึง 45 % และมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนในประเทศให้มากขึ้นในอนาคต”
“ในปัจจุบัน เรามีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว 50 แห่ง และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 70 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยมีเป้าหมายขยายให้ถึง 100 แห่งภายในปี 2568 เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ นอกจากการขยายตัวทางธุรกิจแล้ว GAC Aion ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย โดยมีการมอบรถยนต์ไฟฟ้า Aion Y Plus (ไอออน วาย พลัส) เพื่อใช้ในการฝึกอบรมให้แก่สถาบันการศึกษาในประเทศ เพื่อพัฒนาบุคลากรในประเทศให้มีความเชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ” โอเชียน หม่า กล่าว
เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เยี่ยมชมบูธของ GAC Aion และได้ให้ความสนใจ รวมถึงทดลองนั่งรถยนต์ไฟฟ้า Hyptec HT ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงของบริษัท และได้ชื่นชมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และความหรูหราของรถรุ่นนี้
นอกจากนี้ หวัง เฮ่าวหย่ง รองประธาน บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้เข้าร่วมเสวนาในหัวข้อ “อาเซียน อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต” โดยได้กล่าวว่า “ในยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลง อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง การนำ AI มาใช้ทำให้เกิดความก้าวหน้าอย่างมาก ทั้งในเรื่องของระบบขับขี่อัจฉริยะ และการผลิตรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก Aion มุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยที่ผ่านมาเราได้แนะนำไฮเพอร์คาร์ไฟฟ้าอย่าง Hyptec SSR (ไฮพ์เทค เอสเอสอาร์) ซึ่งถือเป็นรถยนต์เซกเมนท์ใหม่ แต่ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย”
Aion ยังคงเดินหน้าพัฒนา และขยายตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อมั่นว่ารถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่เราจะนำเข้ามาทำตลาดในอนาคต จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน โดยประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์สำคัญไปทั่วโลก เรามุ่งมั่นในการฟัง และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งดำเนินงานตามนโยบายของประเทศนั้นๆ เพื่อสร้างความสำเร็จในระยะยาว