ธุรกิจ
เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ฯ จัดงาน Delta Future Industry Summit 2024
บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการจัดงานประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือ Delta Future Industry Summit 2024 เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรม ชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ ภายใต้ธีม “ปลดลอคศักยภาพ AI รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม และดาตาเซนเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Unlocking The Po tential of AI for Industrial and Data Center Growth in Southeast Asia)” การประชุมฯ ครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทของ AI ในการพลิกโฉมอุตสาหกรรม เพิ่มประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วทั้งภูมิภาค โดยมุ่งเน้นไปที่การใช้ศักยภาพของ AI ในการเปลี่ยนแปลงระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ การเพิ่มประสิทธิภาพดาตาเซนเตอร์ และระบบอาคารอัตโนมัติ ซึ่งให้ความสำคัญกับบทบาทของ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การรับมือกับความท้าทายด้านความยั่งยืน และการส่งเสริมนวัตกรรมในตลาดที่กำลังเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Delta Future Industry Summit 2024 เป็นเวทีสำคัญในการเรียนรู้โอกาส และความท้าทายที่เกิดขึ้นจากเทรนด์อุตสาหกรรมใหม่ที่กำลังเป็นกระแส เพื่อจุดประกายให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน ในปีนี้ การประชุมฯ ได้มีการรวบรวมบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี รวมไปถึงผู้นำนวัตกรรม และผู้กำหนดนโยบายมากมายไว้ที่นี่ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในอนาคตในภูมิภาค โดยเน้นย้ำบทบาท และศักยภาพของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ด้วยพลังของ AI เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทอลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม กล่าวว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ไม่ใช่กระแสที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว หากแต่เป็นพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่จะปฏิรูปเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และสังคมของเราอย่างรอบด้าน จากการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาด AI ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 826 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 นั้น ประเทศไทยพร้อมคว้าโอกาสนี้ผ่านแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ซึ่งวางกรอบการดำเนินงานไว้อย่างเป็นรูปธรรม เป้าหมายของเรา คือ การสร้างบุคลากรด้าน AI ให้ได้มากกว่า 30,000 คนภายในปี 2570 พร้อมทั้งส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI ให้มีมูลค่ารวมมากกว่า 48,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคก็กำลังเร่งลงทุนด้าน AI อย่างจริงจัง โดยมุ่งหวังที่จะเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผมมีความเชื่อมั่นว่า ด้วยความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นในภูมิภาค เราจะสามารถยกระดับตำแหน่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นกำลังสำคัญระดับโลกในด้านนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้อย่างแน่นอน
วิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท เดลต้า ประเทศไทย กล่าวว่า ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมรับฟังการอภิปรายที่น่าสนใจในงาน Delta Future Industry Summit 2024 ซึ่งมุ่งวิเคราะห์บทบาทของ AI ในการปฏิวัติอุตสาหกรรมชั้นนำต่างๆ Delta รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ ผ่านโซลูชันนวัตกรรมหลากหลายรูปแบบของเรา ตัวอย่างเช่น โซลูชันระบายความร้อนขั้นสูง Air-Assisted Liquid Cooling (AALC) ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งให้ความสามารถในการระบายความร้อนมากกว่า 2.5 เท่า และใช้พลังงานน้อยกว่า 7 % เมื่อเทียบกับการระบายความร้อนด้วยอากาศแบบเดิม วิสัยทัศน์ของเดลต้าไม่เพียงแค่มุ่งก้าวล้ำนำหน้ากระแสเท่านั้น แต่เรายังมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์อนาคตที่เทคโนโลยีสามารถยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ และขับเคลื่อนด้วยหลักความยั่งยืน เพื่อก้าวสู่โลกที่ชาญฉลาด ยั่งยืน และเชื่อมโยงถึงกัน
สำหรับปาฐกถาหลัก ภารดี สินธวณรงค์ Head of Marketing, Thailand & Vietnam at Facebook Thailand กล่าวว่า ที่ Meta เราภูมิใจที่ได้เชื่อมโยงผู้คนกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกด้วยวิธีการที่สร้างแรงบันดาลใจ และล้ำสมัย โดยมีผู้ใช้งานรายวันมากกว่า 3,270 ล้านคน เพื่อส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจต่างๆ เราได้ลงทุนมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในด้านนวัตกรรม และเทค โนโลยี AI ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่การเชื่อมต่อเหล่านี้ ขณะนี้ เทคโนโลยี Gen AI สำหรับธุรกิจของเราได้เปิดให้บริการแก่ธุรกิจในประเทศไทยผ่านฟีเจอร์ Advantage+ Creative ช่วยให้ธุร กิจสามารถปรับแต่งแคมเปญให้เป็นรูปแบบที่หลากหลาย เพิ่มประสิทธิภาพด้านเวลา และทรัพยากร พร้อมสร้างการปรับแต่งเฉพาะบุคคล และการเชื่อมต่อในระดับที่ใหญ่ขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการกล่าวปาฐกถาพิเศษช่วงที่ 2 ทิม โรเซนฟิลด์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของบริษัท Firmus Technologies และ Sustainable Metal Cloud (SMC) ได้เน้นย้ำว่าแม้ AI จะสามารถปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง แต่หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดที่เราเผชิญ คือ ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางการขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราพบโอกาสสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้โดยอาศัยระบบโครงสร้างพื้นฐานการทำความเย็นด้วยของเหลว หรือ Liquid Cooling Infrastructure ที่เข้ามาเป็นตัวพลิกโฉมการใช้พลังงานในระบบโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว โดยเทคโนโลยีนี้สามารถลดการใช้พลังงาน และการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงร้อยละ 50 ทิม ยังเน้นย้ำว่า การปรับปรุงดาตาเซนเตอร์ที่มีอยู่เดิมด้วยเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ทำได้จริง แต่ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรม ควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิ ภาพ
การเสวนากลุ่มช่วงที่หนึ่ง ภายใต้หัวข้อ "ความท้าทาย และโอกาสในการประยุกต์ใช้ AI สำหรับงานโครงสร้างพื้นฐานดาตาเซนเตอร์" ได้รวบรวมผู้นำทางความคิดหลายท่าน ประกอบด้วย ธีรพันธุ์ เจริญศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรู ไอดีซี จำกัด เจมมี่ โค ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะ และรัฐกิจสัมพันธ์ของ Grab อิง ศิริกุลบดี ผู้จัดการฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Facebook ประเทศ ไทย และศักดา แซ่อึ้ง ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจโซลูชันข้อมูล และการสื่อสารประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ฯ โดยในการเสวนา ผู้ร่วมอภิปรายได้ให้ความสำคัญกับแนวคิด "ปัญญาประดิษฐ์ที่มีความรับผิดชอบ" (Responsible AI) ในฐานะองค์ประกอบพื้นฐานสำหรับนักพัฒนาพแลทฟอร์ม และประเทศต่างๆ โดยเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของแนวคิดนี้ในการสร้างความไว้วางใจ ความโปร่งใส และความรับผิดชอบในการพัฒนา และใช้งานเทคโนโลยี AI นอกจากนี้ ผู้ร่วมเสวนาได้อภิปรายเกี่ยวกับกลยุทธ์ในการผสานศักยภาพของ AI เข้ากับพแลทฟอร์มที่มีอยู่ โดยเน้นถึงความสำคัญของการบูรณาการอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งไม่เพียงแต่ยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ แต่ยังช่วยลดการหยุดชะงัก และความเสี่ยงในการดำเนินงานให้เหลือน้อยที่สุด การสนทนายังครอบคลุมถึงแนวทางที่บริษัทต่างๆ สามารถรับประกันความคุ้มค่าของการลงทุนด้าน AI ในระยะยาว โดยมุ่งเน้น 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การรักษาความคล่องตัวในการประยุกต์ใช้นวัตกรรม การปรับตัว อย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และการลงทุนในโซลูชันที่สามารถขยายขนาดได้ เพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันภายในภูมิทัศน์ดิจิทอลที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
การเสวนากลุ่มช่วงที่ 2 ภายใต้หัวข้อ "การใช้ประโยชน์จากพลังของ AI มาสร้างสรรค์พื้นที่ทำงาน และที่อยู่อาศัยอัจฉริยะ" มีผู้ร่วมอภิปรายประกอบด้วย เอลวิน ตัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายโซลูชันลูก ค้าของ CapitaLand ปกาศิต พึ่งรัศมี ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิรูปการดำเนินงานด้านซีเมนท์จาก SCG ดร. เชาวลิต มิตรสันติสุข จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเจน หยาง ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิง กลยุทธ์ระดับโลกของกลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของ Delta ในการเสวนาครั้งนี้ ผู้ร่วมอภิปรายได้หยิบยกประเด็นความท้าทายที่องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญในการผสานรวม AI เข้ากับสภาพแวดล้อมการผลิต และอาคารต่างๆ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการประยุกต์ใช้ AI ให้สอดคล้องกับระบบที่มีอยู่เดิม การจัดการต้นทุนที่สูง และการบูรณาการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังได้อภิปรายถึงศักยภาพของ AI ในการเสริมสร้างความยั่งยืน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร และโรงงาน พร้อมทั้งนำเสนอแนวทางการใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการทรัพยากร และลดปริมาณของเสีย การเสวนายังครอบคลุมถึงความสามารถของพื้นที่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้ โดยเน้นย้ำความสำคัญของการรักษาสม ดุลระหว่างนวัตกรรม และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ในประเด็นนี้ ผู้ร่วมอภิปรายได้ย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยในยุคของ AI พร้อมทั้งเสนอแนะถึงความจำเป็นในการพัฒนาระบบป้องกันข้อมูลที่แข็งแกร่ง และการกำหนดนโยบายที่โปร่งใส
นอกจากนี้ ภายในงาน Delta ได้จัดแสดงผลิตภัณฑ์ และโซลูชันที่ล้ำสมัย ประกอบด้วย:
โซลูชันดาตาเซนเตอร์
ระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติ
โซลูชันการจัดการพลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะ
โซลูชันการเฝ้าระวังอัจฉริยะ และการจัดการอาคารอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI
Delta Future Industry Summit 2024 ได้ตอกย้ำบทบาทความเป็นผู้นำของ Delta ในการสร้างเวทีแห่งความร่วมมือสำหรับผู้นำอุตสาหกรรม และผู้กำหนดนโยบาย งานประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมแห่งอนาคตครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดแนวคิดเชิงนวัตกรรม แต่ยังมีส่วนสำคัญในการวางรากฐานสำหรับอนาคตที่เติบโตอย่างยั่งยืนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความสำเร็จของงานประชุมฯ ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Delta ในการดำเนินงานตามพันธกิจ "มุ่งมั่นสร้างสรรค์ นวัตกรรมการใช้พลังงานสะอาด และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานเพื่ออนาคตที่ดีกว่า" บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าผลักดันเทคโนโลยี และความยั่งยืน พร้อมทั้งส่งเสริมความร่วมมือที่เสริมสร้างศักยภาพให้แก่ภาคอุตสาหกรรม และชุมชน เพื่อรองรับการเติบโตในยุคแห่งการเปลี่ยน แปลงที่ขับเคลื่อนด้วย AI