บทความ
เจาะจุดเด่น ! Bentley Flying Spur A Hybrid อัครยนตรกรรมแดนผู้ดี ออพชันเน้นสะดวกสบาย
ครั้งแรกในประเทศไทย กับการเปิดตัวของอัครยนตรกรรมซีดานไฮบริดใหม่จากแดนอังกฤษ มาพร้อมเทคโนโลยี และชูจุดเด่นเรื่องอุปกรณ์ด้านความสะดวกสบาย กับราคาจับต้องง่ายขึ้น เราจะมาเจาะลึกจุดเด่นกันว่าคันนี้มีอะไรพิเศษเพิ่มมาบ้าง
ซีดานที่หรู และเร็วที่สุดในโลก
Bentley (เบนท์ลีย์) ผู้ผลิตรถยนต์รายเก่าแก่จากประเทศอังกฤษ ผู้สร้างรถยนต์หลากหลายรุ่นขึ้นจากงานฝีมือที่เป็นที่กล่าวขานว่าเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่หรูหราที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลก จะเห็นว่ารถยนต์ Bentley ถูกใช้เป็นรถยนต์สำหรับโรงแรมระดับหรู หรือผู้นำระดับประเทศต่างเลือกใช้งาน
ซึ่งมีการพัฒนารถยนต์หลากหลายรุ่นตอบสนองความต้องการทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น สปอร์ทคูเป อย่าง Bentley Continental GT (เบนท์ลีย์ คอนทิเนนตัล จีที) หรือรถอเนกประสงค์อย่าง Bentley Bentayga (เบนท์ลีย์ เบนเทย์กา) แต่รุ่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของค่าย นั่นคือ Bentley Flying Spur (เบนท์ลีย์ ฟลายอิง สเปอร์)
นับจากการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2005 สร้างเสียงฮือฮาถึงความแปลกใหม่หลังเข้าสู่กลุ่มของ Volkswagen (โฟล์คสวาเกน) ในการพัฒนาตัวรถที่มาพร้อมความสะดวกสบายที่สุดในยุคนั้น และเทคโนโลยีเครื่องยนต์ W12 เป็นรถซีดาน 4 ประตูคันแรกของโลกที่สามารถทำความเร็วมากที่สุดถึง 320 กม./ชม. ในเวลานั้น ทำให้เป็นรถยนต์ที่ได้กระแสตอบรับดีที่สุดตลอดอายุเกือบ 20 ปี
รุ่นย่อยใหม่ “A” เพิ่มออพชันเน้นสะดวกสบาย
Bentley Flying Spur A Hybrid (เบนท์ลีย์ ฟลายอิง สเปอร์ เอ ไฮบริด) เป็นรถยนต์ซีดานหรูขนาดใหญ่ มาพร้อมกับความหรูหราที่เป็นเอกลักษณ์ ปัจจุบันเป็นเจเนอเรชันที่ 3 และมีรูปแบบให้ลูกค้ากันมากถึง 6 รุ่นย่อย ในด้านความหรูหรา และการตกแต่งแนวสปอร์ทจะมีรูปแบบการตกแต่งให้เลือกหลากหลายเลยทีเดียว
-
Flying Spur Base ใช้งานพื้นฐาน
-
Flying Spur A เพิ่มออพชันความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีมากขึ้น
-
Flying Spur Azure เน้นความหรูหราสะดวกสบายขั้นสูงสุด
-
Flying Spur Mulliner รุ่นตกแต่งพิเศษโดยแผนก Mulliner ที่สามารถปรับแต่ง และจัดสเปคตัวรถตามความต้องการของลูกค้าคนพิเศษที่ปรารถนาความโดดเด่นไม่เหมือนใคร
-
Flying Spur S สำหรับคนที่ชื่นชอบความสปอร์ท สดใหม่ ดุดัน เน้นอุปกรณ์ และเทคโนโลยี
-
Flying Spur Speed รุ่นพิเศษที่เน้นสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูงสุด พร้อมการตกแต่งภายในที่สะดวกสบาย
สำหรับรุ่นที่นำมาเปิดตัวในเมืองไทยล่าสุดนั้นจะเป็นรุ่น Flying Spur A Hybrid ซึ่งจะมาพร้อมกับความหรูหราที่เป็นเอกลักษณ์จากงานฝีมือเป็นหลัก ความพิเศษของ Flying Spur A Hybrid มีการเพิ่มเติมออพชันด้านความสะดวกสบาย ลูกค้าที่สนใจ และต้องการความแตกต่าง สามารถเลือกการตกแต่งเพิ่มเติมได้ทั้งภายนอก และภายใน
ไฮไลท์ในรุ่น Flying Spur A Hybrid นั้นคือ พรมปูพื้นห้องโดยสาร Wilton แบบใหม่ที่หรูหรากว่าด้วยการใช้ขนสัตว์บริสุทธิ์ 100 % ซึ่งพรมปูพื้นขนนุ่มจะให้ความรู้สึกที่หรูหราเป็นพิเศษด้วยการเลือกใช้ผ้าขนสัตว์หลากหลายชนิดที่คัดสรรมาเป็นพิเศษเพื่อความสะอาด และความบริสุทธิ์ของสีที่ผ่านการทดสอบ และให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านคุณภาพของ Bentley มาพร้อมกับการใช้วิธีการย้อมเส้นด้ายที่จะช่วยให้ควบคุมคุณภาพของการย้อมสีได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้การจับคู่สีตามที่ต้องการเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในระหว่างกระบวนการผลิตจะไม่มีการใช้สารฟอกขาว ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้ คือ พรมสำเร็จรูปที่มีคุณภาพสวยงามจากขนสัตว์แท้ รวมถึงคุณสมบัติเน้นความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารสูงสุด อย่างเบาะโดยสารทุกตำแหน่งที่สามารถระบายอากาศได้ พร้อมกับฟังค์ชันการนวดสำหรับเบาะโดยสารคู่หน้า และฟังค์ชันการปรับอุณหภูมิ Heating, Ventilation and Massage Seats Function เพิ่มมาให้แบบไม่ต้องกดซื้อออพชันเพิ่ม
ด้านสมรรถนะของ Bentley Flying Spur A Hybrid มอบพละกำลังอันมหาศาลรวมกว่า 536 แรงม้า จากพละกำลังเครื่องยนต์เบนซิน V6 ทวินเทอร์โบ ขนาด 2.9 ลิตร และระบบไฟฟ้าไฮบริดที่ให้แรงบิด 750 นิวทันเมตร ตอบสนองรวดเร็ว มอเตอร์เทคโนโลยีล่าสุดติดตั้งอยู่ระหว่างเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบทเตอรี Lithium-Ion ขนาด 18.9 กิโลวัตต์ และสามารถชาร์จไฟได้ 100 % ในระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนเป็นระยะทาง 40 กม. ช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะการขับขี่อันดีเยี่ยม
***ออพชันที่ให้มาของรุ่น Flying Spur A Hybrid แบบรวมในราคาขาย
-
สีภายนอกพื้นฐาน สีเงิน Moonbeam แบบเมทัลลิค เพิ่มความสปอร์ท ลูกค้าสามารถระบุเฉดสีเฉพาะตัวอีก 60 เฉดสี
-
ล้ออัลลอยแบบ 10 ก้านขนาด 21 นิ้ว สไตล์สปอร์ท 21” Ten Twin-Spoke Wheel-Dark Grey Painted and Bright Machined
-
กระจกข้างสีเดียวกับตัวรถ Body-Coloured Exterior Mirror Housings
-
เบรคพร้อมคาลิเพอร์สีดำ Standard Brakes with Black Painted Calipers
-
กล่องกุญแจ Bentley สีเดียวกับตัวรถที่สั่ง Bentley Key Box-Matched to Colour Split
-
ไฟสองสว่างต้อนรับ Welcome Lighting
-
สีภายในห้องโดยสารแบ่ง 2 สี Interior Main/Second ตกแต่งแบบร่วมสมัยด้วยหนังเฉดสีน้ำตาลเข้ม Saddle และ Burnt Oak ผสานความหรูหรา หนังจากสัตว์คัดสรรละเอียดพิเศษ
-
ลายไม้แบบเปิดผิว Veneers Open Pore Koa ให้สัมผัสผิวด้านแบบธรรมชาติแต่ยังคงความหรูหรา
-
เบาะที่นั่งปักโลโก Embroidered Bentley Emblems
-
หลังคากระจกเปิดได้พร้อมม่านบังแดดแยก 2 ส่วน และกระจกส่องหน้า Panoramic Glass Tilt and Slide Sunroof with Twin Blinds and Vanity Mirrors
-
สีตะเข็บตัดกับสีเบาะ Contrast Stitching
-
พรมปูพื้นแบบหนาด้านหน้า-หลัง Deep pile Overmats-Front and Rear
-
ระบบฟอกอากาศ Air Ionizer
***ออพชันที่ลูกค้าสามารถเลือกสั่งเพิ่มเติมได้ ตัวอย่างเช่น
-
ชุดตกแต่งกระจังหน้า เส้นสายกลางตัวรถ กรอบไฟหน้าคริสตัล ขอบข้างประตู และกรอบไฟท้ายตัว B จะเป็นสีดำทั้งหมด Black Line Specification with Vertical Vanes เสริมความสปอร์ทขึ้นมูลค่า 299,000 บาท
-
อีกจุดเด่นที่ขาดไม่ได้ ที่เรียกว่าปีก Illuminated Flying B Masscot Black Gloss ทำจากสเตนเลสส์หล่อขึ้นรูปพร้อมปีกแบบคริสตัล พร้อมไฟส่องสว่างในทุกช่วงเวลาในการขับขี่ อันนี้จะเป็นออพชันที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน มูลค่า 307,000 บาท
-
ไฟสร้างบรรยากาศ Mood Lighting Specification หลากหลายสีที่จะคอยสร้างบรรยากาศความหรูหราให้แก่ทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง มูลค่า 161,000 บาท
-
พวงมาลัยหนังแบ่งสี Duo-Tone 3 Spoke พร้อมฟังค์ชันอุ่น Heated Steering Wheel มูลค่า 38,000 บาท
-
ฝาถังน้ำมันแบบตกแต่งพิเศษ Jewel Fuel and Oil Filler Caps มูลค่า 21,000 บาท
-
แป้นคันเร่งแบบสปอร์ท Sports Pedals มูลค่า 40,000 บาท
-
เครื่องชาร์จแบทเตอรี Battery Charger มูลค่า 9,000 บาท
-
ไฟส่องพื้นพร้อมโลโก Bentley Wings เมื่อเปิดประตูห้องโดยสาร LED Welcome Lamps มูลค่า 70,000 บาท
-
ที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Bentley Charging Dock มูลค่า 29,000 บาท
ผลิตจำนวนจำกัด คันสุดท้ายในไทยก่อนเปลี่ยนโฉม
Bentley Flying Spur A Hybrid เปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 15,600,000 บาท ซึ่งคันที่จำหน่ายนั้นมีการเพิ่มออพชันพิเศษกว่า 9 รายการ เพิ่มราคาเป็น 16,574,000 บาท ถือว่าเป็นรถยนต์ซีดานไฮบริดที่มีความหรูหรา และราคาคุ้มค่ามากกว่ารุ่นก่อนหน้าพอสมควร สำหรับโควตาลูกค้าชาวไทยเป็นการเปิดตัว และพร้อมจำหน่ายแล้วในวันนี้ ซึ่งตอนนี้ผลิตเหลือเพียงคันสุดท้าย
สำหรับผู้ที่สนใจในอัครยนตรกรรมซีดาน Bentley Flying Spur A Hybrid สามารถติดต่อ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Bentley อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย มาเยี่ยมชมกับงาน “AAS Roadshow at One Bangkok” แลนด์มาร์คใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์อันเหนือระดับ ในการจัดแสดงยนตรกรรมระดับลักชัวรี อีกทั้งพร้อมให้เป็นเจ้าของได้ในทันที งานจะจัดตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2567 ไปจนถึง 5 มกราคม 2568 ณ วัน แบงคอค
เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิสฯ จัดงาน “AAS Roadshow at One Bangkok”