Shell ร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดการแข่งขัน “เชลล์แชมเพียนส์ลีก การแข่งขันชิงแชมพ์ 3 ช่างยนต์ระดับประเทศ (Shell Mechanic Champions League)” เพื่อยกระดับฝี มือช่างยนต์ไทยให้มีทักษะ และมาตรฐานสากล เพิ่มความเชี่ยวชาญในการดูแลเครื่องยนต์อย่างถูกต้อง และปลอดภัย ตลอดจนสร้างโอกาสอาชีพที่ยั่งยืน และพัฒนาการให้บริการของอู่ซ่อมรถรายย่อย ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Shell ในการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต และมอบความปลอดภัยตลอดการเดินทาง
อรอุทัย ณ เชียงใหม่ ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ด้วยกลยุทธ์ Powering Progress ของ Shell ในการเปลี่ยนผ่านพลังงานไปสู่ธุรกิจพลังงานที่ปล่อยแกสเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี พศ. 2593 ด้วยการส่งมอบโซลูชันพลังงานสะอาดมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน กว่า 132 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย Shell มุ่งมั่นส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ และดูแลเติมความสุขให้คนไทยด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงมาตรฐานระดับโลกของ Shell ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดจนการบริการดูแลรักษาเครื่องยนต์ด้วยผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง ซึ่งมีให้บริการทั่วประเทศด้วยบริการที่มีคุณภาพจากช่างที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อช่วยดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้มีความปลอดภัยตลอดการเดินทางทั้งรถยนต์ และผู้ร่วมเดินทาง
ด้วยความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐาน และพัฒนาศักยภาพของช่างยนต์ไทย Shell ร่วมมือกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จัดการแข่งขัน "เชลล์แชมเพียนส์ลีก การแข่งขันชิงแชมพ์ 3 ช่างยนต์ระดับประเทศ" (Shell Mechanic Champions League) เพื่อส่งเสริมทักษะการดูแล และบำรุงรักษาเครื่องยนต์สำหรับมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ และรถบรรทุก โครงการนี้ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ช่างทั่วประเทศได้พัฒนาความรู้ความสามารถในด้านการซ่อมเครื่องยนต์ให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลแต่ยังมุ่งหวังที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพอย่างยั่งยืน และเติมเต็มความสุขให้ทุกคน
พิเชษฐ์ ทองพันธ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงานมุ่งยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานไทยให้เป็นที่ยอมรับในระ ดับสากล เพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงานยุคใหม่ โครงการ "เชลล์แชมเพียนส์ลีก การแข่งขันชิงแชมพ์ 3 ช่างยนต์ระดับประเทศ” ภายใต้ความร่วมมือกับ Shell เป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับพันธกิจในการสร้างมาตรฐานความเชี่ยวชาญสำหรับช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ รถยนต์ และรถบรรทุก โดยมีการกำหนดรูปแบบ และหลักเกณฑ์การแข่งขันร่วมกัน โครงการนี้มุ่งยกระดับทักษะช่างยนต์ให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อให้ช่างสามารถต่อยอดอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง และเพิ่มความปลอดภัยในการให้บริการซ่อมรถแก่ผู้ใช้บริการทั่วไป กรมพัฒนาฝีมือแรงงานพร้อมที่จะขยายความร่วมมือกับภาคเอกชน เช่น Shell ในการจัดโครงการที่มีประโยชน์แก่ช่างยนต์ และสังคมต่อไปในอนาคต
Shell และกรมพัฒนาฝีมือแรงงานมีความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 ได้จัดการแข่งขัน "Shell ก้าวตามฝันสู่การเป็นช่างระดับโลก" เพื่อค้นหาตัวแทนช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ของประเทศ ไทย ไปร่วมแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้ชนะจากประเทศต่างๆ ในงาน Shell Advance Masterclass Global Competition ที่จัดขึ้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการแข่งขันประกอบรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (Big Bike) โดยทีมตัวแทนจากประเทศไทยได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันครั้งนั้น
กมลพัทธ์ พหลโยธิน กรรมการบริหาร ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า สำหรับธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น Shell เรามุ่งมั่นขับเคลื่อนความก้าวหน้าของโลกในวันนี้ เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดียิ่งขึ้น (We keep the world progress today, for tomorrow) ด้วยการเสนอผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น และบริการคุณภาพสูงมาตรฐานระดับโลก ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า การพัฒนาทักษะให้แก่ช่างจะช่วยให้การซ่อมบำรุงเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพราะช่างสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการการใช้งานอย่างแท้จริง เช่น Shell Helix น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้สำหรับรถยนต์ ที่พัฒนาร่วมกับ Ferrari (แฟร์รารี) มีเพียวพลัสเทคโนโลยีให้ประสิทธิภาพการปกป้องสูงสุด ช่วยปกป้องเครื่องยนต์จากการสึกหรอ และการทำงานหนัก ประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลภาวะ
Shell Advance น้ำมันเครื่องสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ น้ำมันเครื่องตัวเดียวที่ทาง Ducati Team เลือกใช้ในการแข่งขันมอเตอร์ไซด์ระดับโลกอย่าง MotoGP ช่วยรักษากำลังเครื่องยนต์ และปกป้องเครื่องยนต์ที่อุณหภูมิสูง และ Shell Rimula ที่ช่วยปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น 2 เท่า ลดการสึกหรอ ปกป้องเครื่องยนต์ และยืดอายุการใช้งานรถบรรทุกได้ยาวนานขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นในการสนับสนุนความก้าวหน้าในอาชีพช่างยนต์ Shell จึงร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อพัฒนาทักษะ และคุณภาพชีวิตของช่างให้ดียิ่งขึ้น
การแข่งขัน Shell Champions League ในปีนี้มีช่างผู้เชี่ยวชาญสนใจเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 287 คน แบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 สาขา ได้แก่ สาขาอาชีพช่างซ่อมรถยนต์ ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ และช่างซ่อมรถบรรทุกขนาดใหญ่ โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกทั้งหมด 3 รอบ ประกอบด้วย
1. การคัดเลือกตัวแทนประจำภูมิภาค ผู้เข้าแข่งขันจะต้องผ่านการทดสอบความรู้ช่างทั่วไป ทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ ตามหลักเกณฑ์ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ได้คะแนน 70 % ขึ้นไป จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
2. การคัดเลือกผู้ชนะระดับภูมิภาค ผู้ผ่านเข้ารอบนี้จะต้องเข้ารับการอบรมภาคทฤษฎี และผ่านการทดสอบหลังการอบรม ก่อนที่จะเข้าสู่การแข่งขันภาคปฏิบัติ ซึ่งข้อกำหนด และหลักเกณฑ์การตัด สินในการแข่งขันนี้ เป็นไปตามข้อตกลงระหว่าง Shell และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
3. การคัดเลือกผู้ชนะระดับประเทศ การแข่งขันรอบสุดท้ายเป็นการชิงชัยกันระหว่างตัวแทนในระดับภูมิภาค 28 คนจากทั่วประเทศ เข้าร่วมการแข่งขันภาคปฏิบัติเพื่อเก็บคะแนน เพื่อเฟ้นหาสุดยอดแชมพ์ช่างยนต์ระดับประเทศ
โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 20,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 5,000 บาท
ชุมพล เสิกภูเขียว อายุ 37 ปี เจ้าของอู่ชุมแพออโต้เซอร์วิส จังหวัดขอนแก่น ซึ่งคว้ารางวัลชนะเลิศ ในการแข่งขันประเภท ช่างซ่อมรถยนต์ กล่าวว่า ผมภูมิใจมากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในสาขาช่างซ่อมรถยนต์ ผมทราบข่าวการแข่งขันจากเฟศบุคของ Shell การแข่งขันนี้ทำให้ผมได้รับความรู้ใหม่ๆ เช่น ขั้นตอนการซ่อมรถยนต์ตามมาตรฐาน และการใช้เครื่องมือพิเศษสำหรับซ่อมชิ้นส่วนที่เครื่องมือทั่วไปถอดประกอบทำไม่ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่อู่ของเรา และผมยังได้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมชนิดต่างๆ ของ Shell ด้วย รางวัลนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผม แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าว่าอู่ของเรามีความเชี่ยวชาญ ผมหวังว่า Shell จะจัดกิจกรรนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ช่างยนต์ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะ และเพิ่มพูนประสบการณ์มากขึ้น
“ความสำเร็จจากการแข่งขันไม่ใช่เพียงแค่ความภาคภูมิใจของผู้ชนะ แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่เส้นทางอาชีพช่างยนต์ด้วยดีกรีแชมพ์จาก Shell และประกาศนียบัตรรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งช่วยยกระดับมาตรฐานฝีมือช่างของประเทศไทยให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากล นอกจากนี้ ยังส่งเสริมความมั่นคงในอาชีพ สร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นเพื่อการดูแลครอบครัว สอดคล้องกับแนวคิด Powe ring Lives ของ Shell ที่ต้องการส่งเสริมการขับขี่ที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องยนต์ที่ทำงานอย่างเต็มสมรรถนะ ช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุจากความขัดข้อง และยังส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจเพื่อให้เศรษฐกิจไทยพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่นเดียวกับ Shell ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของประเทศไทยมาอย่างยาวนานกว่า 132 ปี” อรอุทัย กล่าวทิ้งท้าย