กฤษฎา สวามิภักดิ์ ผู้จัดการทั่วไป Rolls-Royce Motor Cars Bangkok กล่าวว่า Rolls-Royce Motor Cars Bangkok ให้ความสำคัญกับการนำเสนอประสบการณ์ระดับอุลทราลักชัวรี ให้แก่ลูกค้าคนสำคัญของเรามาแบบครบวงจร ผ่านพนักงานทุกระดับ และทุกภาคส่วน ที่ได้รับการอบรม และพัฒนาศักยภาพในการให้บริการระดับลักชัวรีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่เราได้รังสรรค์ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจสูงสุด ตั้งแต่วันแรกที่รับรถ เสมือนเป็นที่ปรึกษา หรือเพื่อนที่รู้ใจ ตอบโจทย์ความต้องการต่างๆ ได้อย่างละเอียด และพิถีพิถัน พร้อมความมั่นใจกับบริการหลังการขาย ด้วยศูนย์บริการมาตรฐานสากล เช่นเดียวกับโชว์รูม Rolls-Royce Motor Cars ทั่วโลก
หลังจากที่ลูกค้าได้เริ่มทยอยรับรถ Rolls-Royce Cullinan (โรลล์ส-รอยศ์ คัลลิแนน) ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันยอดเยี่ยมในการขับเคลื่อนบนเส้นทางออฟโรด เพื่อนำพาลูกค้าไปในสถานที่ซึ่ง Rolls-Royce ไม่เคยทำได้มาก่อน อย่างไรก็ดี การเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์ และการขับเคลื่อนแบบ Effortless Everywhere ก็เป็นอีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้เจ้าของรถหลายท่าน เลือกใช้ Rolls-Royce Cullinan ในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งกล่าวว่า ไม่มีเอสยูวีหรูรุ่นใด สามารถให้การขับเคลื่อนที่นุ่มนวล และทรงพลังได้เหมือนเครื่องยนต์เบนซิน วี 12 สูบ 6.75 ลิตร ของ Rolls-Royce ซึ่งจุดเด่นทั้งหมดข้างต้น ได้รับการนำมาหลอมรวม เพื่อพัฒนาเป็น Rolls-Royce Cullinan Series II
ทางผู้ผลิตทราบดีว่า กลุ่มลูกค้า Rolls-Royce ส่วนมากมักใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ ทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมถึงกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และมีการเติบโตสูง ทำให้ Rolls-Royce Cullinan เป็นยนตรกรรมซูเพอร์ลักชัวรี ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความโดดเด่นเหนือระดับ พร้อมกับความสามารถที่จะทะยานไปในดินแดนที่เต็มไปด้วยเส้นทางธรรมชาติได้ทันทีที่ต้องการ นอกจากนั้น ผลศึกษายังแสดงให้เห็นว่าลูกค้าปัจจุบันนิยมขับรถด้วยตนเองมากยิ่งขึ้น ย้อนกลับไปช่วงที่ Cullinan เพิ่งเปิดตัว มีจำนวนเจ้าของรถที่ขับเองไม่ถึง 70 % แต่ปัจจุบัน Cullinan เกือบทั้งหมดขับโดยเจ้าของรถ โดยเหลือสัดส่วนไม่ถึง 10 % ที่ยังคงใช้พนักงานขับรถ เมื่อผสานกับภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ที่มีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น รวมถึงโปรแกรม Bespoke ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถตกแต่งรถได้ตามจินตนาการ ส่งผลให้ช่วงอายุโดยเฉลี่ยสำหรับเจ้าของรถยนต์ Cullinan ลดลงจาก 56 ปี เมื่อปี 2553 เหลือเพียง 43 ปี ในปัจจุบัน
การเน้นใช้งานในเมืองใหญ่ และการที่ลูกค้านิยมขับเองมากขึ้น ทำให้รูปลักษณ์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ของ Rolls-Royce Cullinan Series II สะท้อนความระยิบระยับของแสงไฟจากตึกระฟ้าในเมืองใหญ่ เห็นได้ชัดจากเดย์ไทม์ รันนิง ไลท์ที่เพิ่มความยาวในแนวดิ่ง เพิ่มความโดดเด่นให้แก่ Cullinan Series II ทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน
ด้านหน้าของ Cullinan Series II เน้นเส้นสายเหลี่ยมสัน และขอบมุมที่คมกริบ ส่งผลให้รูปลักษณ์โดยรวมมีความโดดเด่น และชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะที่เส้นสายกันชนหน้าดูคล้ายอักษร V แบบตื้น ลากจากจุดต่ำสุดของเดย์ไทม์ รันนิง ไลท์ ไปถึงจุดกึ่งกลางของด้านหน้า สะท้อนเส้นสายของเรือยอชท์ทรงสปอร์ท ส่วนด้านล่างเป็นช่องระบายอากาศที่ออกแบบให้มีครีบเอนออกไปด้านข้าง ส่งผลให้รถดูเตี้ยเมื่อมองจากด้านหน้า นอกจากนั้น ก็มีกระจังหน้าแพนธิออนแบบเรืองแสงติดตั้งบริเวณจุดกึ่งกลาง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Cullinan ได้รับการติดตั้งกระจังหน้าเรืองแสง โดยปรับแต่งให้ดูเตี้ยลง ประกบบน-ล่างด้วยคิ้วโครเมียมแบบใหม่ ได้รับแรงบัลดาลใจจากรุ่นสูงสุดอย่าง Phantom Series II (แฟนทอม ซีรีส์ ทู)
ขณะที่เส้นสายด้านหน้ามีความเป็นเหลี่ยมสัน ผู้ผลิตก็ได้เพิ่มลูกเล่นในด้านท้าย เป็นเส้นสายเล็กๆ แต่ชัดเจน ลากจากใต้ไฟท้ายลงไปหาจุดกึ่งกลางของฝาปิดดุมล้อที่มีสัญลักษณ์ RR บริเวณล้อคู่หลัง ช่วยเพิ่มความปราดเปรียวให้แก่รถ และสะท้อนการขับเคลื่อนไม่หยุดนิ่ง เพิ่มเติมรายละเอียดด้วยกันชนท้ายสีดำเงา ตัดกันกับพื้นถนน สร้างความโดดเด่นให้มุมมองด้านท้าย
ยิ่งไปกว่านั้น นับเป็นครั้งแรกสำหรับ Cullinan ที่ล้อ และยางได้รับการเพิ่มขนาดเป็น 23 นิ้ว ซึ่งล้อแต่ละวงได้รับการขึ้นรูปจากก้อนอลูมิเนียม มาพร้อมลาย 7 ก้าน ที่สามารถเลือกแบบปัดเงาบางส่วน หรือทั้งหมดได้ตามต้องการ
เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ Rolls-Royce Cullinan Series II ก็พบกับที่สุดแห่งความหรูหรา ที่ผ่านการเพิ่มเติมรายละเอียดให้เลอค่าเหนือระดับ เริ่มจากความเงางามของแดชบอร์ดที่ผลิตจากกระจกทั้งชิ้น สะท้อนงานฝีมือสุดประณีต เข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างลงตัว
ติดตั้งมาตรวัดดิจิทอลหน้าผู้ขับ รวมถึงจอแสดงผลกลางแดชบอร์ด Central Information Display ได้รับการออกแบบใหม่ให้ส่องสว่างตลอดเวลา แสดงถึงความล้ำสมัยของระบบควบคุม สปิริทอันทันสมัย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งมาตรวัดดิจิทอลใน Rolls-Royce เครื่องยนต์เบนซิน วี 12 สูบ อย่าง Cullinan หลังเริ่มใช้กับยนตรกรรมไฟฟ้าล้วน Spectre (สเปคเตอร์) เป็นรุ่นแรก และเป็นเสมือนการเชื่อมโยงเพื่อก้าวไปสู่โลกดิจิทอลเต็มตัว โดยลูกค้าสามารถกำหนดสีของมาตรวัดดิจิทอล ให้แมทช์กับสีของห้องโดยสาร หรือตัวถังได้ตามต้องการ
ครบครันเรื่องความบันเทิง และการเชื่อมต่อกับโลกอินเตอร์เนท จาก Wi-Fi Hotspot ภายในรถผู้โดยสารด้านหลังสามารถเชื่อมต่อกับจออินโฟเทนเมนท์ทั้ง 2 ตัว ได้อย่างอิสระ พร้อมเพลิดเพลินไปกับระบบเครื่องเสียง Bespoke Audio 18 ลำโพง พร้อมแอมพลิฟายเออร์ 18 แชนแนล 1,400 วัตต์ ที่ใช้ประโยชน์จากช่องว่างในโครงสร้างตัวถังอลูมิเนียม ให้เกิดความถี่เสียงที่ละเอียด และไพเราะ ทำให้รถทั้งคันเป็นเสมือนซับวูเฟอร์ขนาดยักษ์ ทว่า หากลูกค้าต้องการความเป็นส่วนตัว ก็เป็นครั้งแรกสำหรับ Cullinan ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อบลูทูธทุกประเภทได้อย่างอิสระ
นอกจากนั้น ผู้ครอบครอง Rolls-Royce Cullinan ยังได้รับสิทธิ์เข้าถึงแอพลิเคชันสุดเอกซ์คลูซีฟ Whispers บนสมาร์ทโฟน ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า อาทิ การส่งโลเคชันเข้าสู่ระบบนำทางของรถ, ติดตามตำแหน่งรถจากระยะไกล และการสั่งเปิด-ปิดประตูรถ เป็นต้น
แดชบอร์ดเรืองแสง (Illuminated Fascia) เริ่มใช้ครั้งแรกกับรุ่น Ghost (โกสต์) ตามด้วยรุ่น Spectre และปัจจุบันได้นำมาติดตั้งเป็นครั้งแรกใน Rolls-Royce Cullinan โดยใช้เทคนิคการฉลุด้วยเลเซอร์ที่ในตำแหน่ง และองศาที่ต่างกัน รวมกว่า 7,000 ตำแหน่ง เพื่อให้แสงสว่างด้านหลังเล็ดลอดออกมา เกิดเป็นลวดลายคำว่า Cullinan พร้อมภาพจำลองของตึกระฟ้ายามค่ำคืน หรือหากลูกค้าต้องการสร้างคำ หรือภาพอื่นๆ ก็สามารถสั่งได้ ถัดมาด้านขวากันเป็นอีกไฮไลท์สำคัญ คือ Spirit of Ecstasy Clock Cabinet หรือนาฬิกาแบบใหม่ ที่มาพร้อมนางฟ้าเรืองแสง ผลิตจากสเตนเลสส์ทั้งชิ้นดูสวยงาม และหรูหราขั้นสูงสุด เมื่อผู้โดยสารเปิดประตูรถ มาตรวัดหน้าผู้ขับจะสว่างขึ้น ตามด้วยจอแสดงผลตรงกลาง, แดชบอร์ดเรืองแสง ก่อนนำสายตาสู่นางฟ้าบริเวณฐานนาฬิกา เกิดเป็นการแสดงแสงสีแบบไฮ-คลาสส์ เป็นผลจากการพัฒนากว่า 4 ปี
Rolls-Royce Cullinan คือ อัครยนตรกรรมที่สร้างตำนานบทใหม่ให้แก่ผู้ผลิต รังสรรค์ขึ้นบนบรรทัดฐานของลูกค้าระดับซูเพอร์ลักชัวรียุคใหม่ ที่ต้องการความโดดเด่น และไม่ซ้ำใคร ทำให้ Cullinan Series II เป็นการพัฒนาตามแนวคิดดังกล่าวร่วมกับลูกค้าให้เหนือชั้นอีกระดับ ผสานรายละเอียดสุดประณีต ตามแบบฉบับของอัครยนตรกรรม Rolls-Royce อย่างชัดเจน