ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Nissan (นิสสัน) ทำโครงการดัดแปลง GT-R R32 พลังไฟฟ้า ตั้งแต่ปี 2566 โดยความร่วมมือของวิศวกรอาสาสมัคร เพื่อให้ทันเข้าแสดงในงาน Tokyo Auto Salon ปี 2568 รถสปอร์ทคันนี้ถูกยกเครื่องยนต์ RB26DETT ขนาด 2.6 ลิตร ทวินเทอร์โบออก และแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ากับแบทเตอรี
นอกจากการเปิดเผยภาพถ่ายภาพเดียว R32 GT-R EV ยังจอดแสดงในการประชุม R‘s Meeting ที่สนามแข่งฟูจิ สปีดเวย์ เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยมนต์ขลังจาก GT-R รหัส BNR32 ผสานกับเทคโนโลยีขุมพลังไฟฟ้า ภายนอกแทบไม่ต่างจากเดิม นอกจากไม่มีไฟตัดหมอก และคาลิเพอร์เบรคสีส้มสด
คาดว่า Nissan R32 GT-R EV (นิสสัน อาร์ 32 จีที-อาร์ อีวี) จะใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ยกมาจาก Nissan Ariya Nismo (นิสสัน อารียา นิสโม) ที่ให้กำลัง 316 กิโลวัตต์/430 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวทันเมตร/61.2 กก.ม. ซึ่งเหนือกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ยกออกไป ที่ให้กำลัง 203 กิโลวัตต์/276 แรงม้า และแรงบิด 367 นิวทันเมตร/37.4 กก.ม.
อันที่จริงเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงนี้มีพลังสูงกว่าที่แจ้งไว้ ตามข้อตกลงของบริษัทผู้ผลิตรถในญี่ปุ่น ซึ่งหากนำ R32 จากโชว์รูมไปขึ้นแท่นวัดแรงม้า จะได้กำลังมากกว่า 220 กิโลวัตต์/300 แรงม้า นอกจากนั้นเครื่องยนต์ RB26DETT ยังสามารถปรับแต่งจนได้กำลังสูงถึง 2,000 แรงม้า
Nissan R32 GT-R EV ถูกสร้างขึ้นคันเดียว และทางค่ายให้คำมั่นสัญญาว่า “กอดซิลลา” เจเนอเรชันใหม่ จะใช้ขุมพลังไฟฟ้า ไม่ผิดจากรถแนวคิด Hyper Force ที่ถ่ายทอดพันธุกรรมของ GT-R อย่างครบถ้วน ด้วยพลังจากแบทเตอรีโซลิดสเตท ที่ให้กำลัง 986 กิโลวัตต์/1,341 แรงม้า ซึ่งทางค่ายได้ก้าวสู่บริษัทผู้ผลิตรถไฟฟ้าอย่างเต็มตัว โดยยุติการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในทั้งหมด เพื่อตอกย้ำว่า GT-R R36 จะใช้พลังไฟฟ้าแน่นอน
Nissan กำหนดแผนเปิดตัวแบทเตอรีโซลิดสเตทอย่างเร็วที่สุดในปี 2571 และซูเพอร์คาร์ของบริษัทจะเปิดตัวภายในปลายทศวรรษนี้ หรือก่อนปี 2573 สำหรับ Nissan R32 GT-R EV จะจอดโชว์ในงาน Tokyo Auto Salon 2025 ช่วงวันที่ 10-12 มกราคม 2565 พร้อมกับ Nissan GT-R Nismo Special Edition R35 รุ่นพิเศษ ซึ่งวางจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น