ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Alpine บริษัทผู้ผลิตจากฝรั่งเศส ยืนยันแผนการผลิตซูเพอร์คาร์ใหม่ใช้ขุมพลังไฟฟ้า โดยเรียกว่า “Future Alpine Supercar” หรือซูเพอร์คาร์แห่งอนาคต” ขณะนี้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่ม เพียงแจ้งว่ารถใหม่ได้รับการพัฒนาในศูนย์วิจัย และพัฒนาที่ทันสมัย จะเปิดภายในปีนี้
ศูนย์วิจัย และพัฒนาแห่งใหม่ เรียกว่า “Hypertech Alpine” เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตเครื่องยนต์รถแข่งสูตร1 ในเมือง Viry-Châtillon ทางตอนใต้ของกรุงปารีส โดยมีแนวคิดพัฒนาเทคโนโลยีรถไฟฟ้าเพื่ออนาคต
ศูนย์ Hypertech Alpine พัฒนาแบทเตอรีสำหรับรถสปอร์ทพลังไฟฟ้า A110 และพัฒนาเซลล์แบทเตอรีความหนาแน่นพลังงานสูง ซึ่งใช้กับแพคแบทเตอรีโซลิดสเตท ทั้งยังเป็นสถานที่ทดสอบรถซูเพอร์คาร์ภายใต้สภาวะการใช้งานรุนแรงด้วย
ซูเพอร์คาร์พลังไฟฟ้าคันใหม่เป็นการแสดงเทคโนโลยีรถไฟฟ้าของ Alpine ต่างจากรถแนวคิด Alpenglow ซึ่งใช้ขุมพลังเครื่องยนต์ วี 6 สูบ เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ถูกสร้างขึ้นเพื่อการผลิตจำหน่าย สำหรับขุมพลังที่ใช้เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง พัฒนาโดย Ampere ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนกรถไฟฟ้าใหม่ และซอฟท์แวร์ของ Renault
Antony Villain หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Alpine กล่าวว่า มีแนวคิดออกแบบไฮเพอร์คาร์ที่มีเทคโนโลยีระดับสูง กับตัวรถค่อนข้างต่ำ เพื่อเป็นแนวทางการออกแบบของซูเพอร์คาร์ในอนาคต ซึ่งพัฒนาการอีกระดับจากรถแนวคิด Hy4 ที่มีเป้าหมายของการสร้างเพื่อผลิตจำหน่าย
ศูนย์วิจัย และพัฒนาแห่งนี้ มีแผนกมอเตอร์สปอร์ท ซึ่งรับผิดชอบรถแข่งทั้ง WEC, Dakar และทีมแข่งรถสูตร 1 โดยจะปรับปรุงพัฒนาเครื่องยนต์ของทีมแข่ง Alpine F1 ไปจนสิ้นสุดฤดูกาล 2025 แผนกนี้ผลิตเครื่องยนต์รถแข่งสูตร 1 ตั้งแต่ทีม Renault เข้าร่วมการแข่งขันในทศวรรษ 1970 ส่วนฤดูกาล 2026 ทางทีม Alpine F1 ยังไม่ได้เลือกว่าจะใช้เครื่องยนต์จากค่ายไหน
Philippe Krief ซีอีโอของ Alpine กล่าวว่า ศูนย์ Hypertech Alpine เป็นส่วนหนึ่งของแผนกลยุทธ์การพัฒนา ซี่งจะประสานกันกับแผนกต่างๆ จนเป็นแผนกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมระดับกลุ่ม นับว่าเป็นข่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์ของฐานการผลิตที่ Viry-Châtillon ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาความรู้ ความสามารถ และสร้างทักษะให้กับกลุ่ม ด้วยเป้าหมายอันสูงส่งในอนาคต จะผลักดันให้ Alpine ถูกยอมรับว่าเป็น “ผู้สร้างนวัตกรรม”
ดีเอนเอของการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ท ที่ฝังตัวอยู่ในทุกส่วนของแบรนด์ และเป็นพลังผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิต และโครงการด้านยานยนต์ใหม่ๆ ขึ้น โดยมี Hypertech Alpine เป็นส่วนสำคัญ