Scomadi (สโกมาดี) เผย 2568 พร้อมเดินหน้าสร้างความสำเร็จผ่านหลากหลายกลยุทธ์ ทั้งการเปิดตัวรถสกูเตอร์โมเดลใหม่ สร้างเสริมฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง รวมถึงขยายดีเลอร์ให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ตลอดจนส่งเสริมการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักขับขี่ทุกไลฟ์สไตล์อย่างครอบคลุม และบรรลุเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่คาดหวัง
แมกซิม วองเดอเรเกน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สโกมาดิ (ประเทศไทย) กล่าวว่า Scomadi เป็นแบรนด์สกูเตอร์สไตล์บริทิช โมเดิร์น คลาสสิค ที่ดำเนินธุรกิจในหลายประเทศทั่วโลก ตลอดปี 2567 Scomadi มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่เป็นตลาดสำคัญของธุรกิจรถจักรยานยนต์ รวมถึงในประเทศไทย ซึ่งเป็นฐานการผลิต และส่งออกประจำภูมิภาค โดยมุ่งสร้างความประทับใจให้ลูกค้าทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำเสนอโมเดลรถสกูเตอร์ทรงคลาสสิคขนานแท้ ที่ใช้งานในชีวิตจริงได้อย่างคล่องตัว สำหรับผู้ขับขี่ทุกไลฟ์สไตล์ ตามแนวคิด Timeless Design with High Functionality
สำหรับประเทศไทยในปีที่ผ่านมา ได้ชูรถสกูเตอร์ไฟฟ้ารุ่น “Turismo Electronica (ตูริสโม อีเลคทรอนิคา)” เป็นโมเดลหลักประจำปี นอกจากเอกลักษณ์สวยงามมีระดับตามแบบฉบับ Scomadi รถสกูเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ใช้งาน ด้วยสมรรถนะจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น
· ประสบการณ์การขับขี่ที่คล่องตัว ความหน่วงต่ำ ทำความเร็วได้สูงสุด 90 กม./ชม. นอกจากการขับขี่ในที่ราบ รถรุ่นนี้ยังมีจุดเด่นที่มอเตอร์แบบ DC Brushless Permanent Magnet Synchronous ให้กำลัง 3,000 วัตต์ รวมถึงยางล้อหน้า Tubeless 110/70-12 และล้อหลัง Tubeless 120/70-12 ให้การยึดเกาะดีเยี่ยม สามารถขับขึ้นเนินชันได้อย่างคล่องตัว ปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ Economy Normal และ Sport พร้อมเกียร์ถอยหลัง มีชอคอับหน้า และหลังแบบไฮดรอลิคปรับพรีโหลดได้ และระบบเบรค CBS เพื่อประสบการณ์ขับขี่ที่ปลอดภัย พร้อมให้สนุกสนานกับการเดินทางทุกรูปแบบ
· มาพร้อมฟีเจอร์ทันสมัยอย่าง หน้าจอ TFT Screen ขนาดใหญ่ 5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อจากโทรศัพท์มือถือมายังเรือนไมล์ ผ่านแอพพลิเคชัน Carbit Ride สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ทั้งการเปิดแผนที่แบบ Real-Time รวมถึงสามารถเปิดเพลง หรือวีดีโอ มอบความบันเทิงขณะขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่ตลอดการเดินทาง
· สกูเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ยังได้รับการออกแบบให้มีความปลอดภัยสูง พร้อมความจุแบทเตอรี 72 โวลท์ 40AH ให้การขับระยะทางไกลถึง 101 กม. ในระยะเวลาการชาร์จเต็มเพียง 3 ชม. เท่านั้น ซึ่งถูกติดตั้งอย่างมั่นคง ป้องกันการชอท หรือเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงมอเตอร์ที่ได้รับการซีลป้องกันน้ำ ลุยน้ำได้ถึงระดับครึ่งล้อแบบไร้กังวล
“นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความต้องการรถสกูเตอร์ที่ให้การขับขี่เร้าใจ และระบบเบรคที่มอบการควบคุมรถอย่างเฉียบคม ทำให้ในช่วงปลายปี 2567 ได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดเพิ่ม 2 รุ่น ได้แก่ “Technica 200i Adventure Series ABS (เทคนิคา 200 ไอ แอดเวนเจอร์ ซีรีส์ เอบีเอส)” และ “Technica 200i Urban Series ABS (เทคนิคา 200 ไอ เออร์เบิน ซีรีส์ เอบีเอส)” ที่มาพร้อมระบบเบรค ABS และตัวเลือกสีใหม่ พร้อมให้ออกเดินทางไปกับโรดทริพแบบมีสไตล์ สอดรับเจตนารมณ์การเป็นแบรนด์ที่รองรับความต้องการของคนรักสกูเตอร์คลาสสิค ทั้งในเชิงฟังค์ชันการใช้งาน ดีไซจ์น และไลฟ์สไตล์ อย่างครบครันที่สุด”
แฟรงก์ แซนเดอร์สัน ผู้ร่วมก่อตั้ง Scomadi เสริมว่า Scomadi ถือกำเนิดจากความหลงใหลในรูปลักษณ์ที่อยู่เหนือกาลเวลาของรถสกูเตอร์แบบดั้งเดิม ผสานกับความรู้ด้านวิศวกรรมรถจักรยานยนต์ ที่สั่งสมจากการเป็นเจ้าของสำนักแต่งรถสกูเตอร์ และประสบการณ์การทำงานกว่า 60 ปี แรงบันดาลใจนี้นำมาสู่การสร้างสรรค์รถสกูเตอร์ Scomadi คันแรกในปี 2548 ณ ประเทศอังกฤษ ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปี เรามีการพัฒนารถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยยังคงยึดมั่นในดีเอนเอ “บริทิช โมเดิร์น คลาสสิค" อย่างเข้มข้น สะท้อนในการออกแบบทั้งโครงรถ ตัวถังเหล็ก เส้นสายโค้งมน เบาะหนังเย็บอย่างปราณีต ไปจนถึงไฟ LED ทรงกลม ที่รักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวครบถ้วน ผสานนวัตกรรมทันสมัย เช่น ระบบเบรค หน้าจอดิจิทอล และสมรรถนะเหนือระดับ เพื่อครองใจนักขับขี่ผู้มีใจรักความคลาสสิคในทุกยุคสมัย
ด้าน พรเศก ภาคสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สโกมาดิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปี 2568 Scomadi พร้อมนำเสนอความตื่นเต้นให้คนรักสกูเตอร์ทั่วโลก ด้วยแผนการดำเนินงาน และกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ เปิดตัวรถสกูเตอร์ บริทิช โมเดิร์น คลาสสิค โมเดลใหม่ ที่ครบเครื่องด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มาในรูปลักษณ์ต้นตำรับอังกฤษ การสร้างความแข็งแกร่งให้ชุมชนคนขับ Scomadi ผ่านกิจกรรมทดลองขับขี่ และกิจกรรมเอกซ์คลูซีฟในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ตลอดจนการขยายดีเลอร์ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อให้ผู้สนใจสามารถชมรถรุ่นต่างๆ รวมถึงให้ลูกค้าปัจจุบันสามารถเข้ารับบริการจาก Scomadi ได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
“นอกจากนี้ ในปีหน้า Scomadi ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจในตลาดเอเชีย ด้วยการยกระดับมาตรฐานโรงงานผลิตในไทย เพื่อรองรับความต้องการ และการส่งออก รวมถึงเตรียมขยายการดำเนินธุรกิจในทวีปยุโรป ด้วยการทำใบรับรองมาตรฐานยูโร เพื่อให้สามารถจำหน่ายรถรุ่นใหม่ได้ในหลายประเทศ ทั้งหมดนี้จะทำให้ Scomadi สามารถสร้างความสำเร็จในฐานะแบรนด์สกูเตอร์ บริทิช โมเดิร์น คลาสสิคที่ครองใจผู้ขับขี่ทุกคน”
บทความแนะนำ