ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ในปัจจุบันระบบมอเตอร์ในล้อ (In-wheel motors) สำหรับรถไฟฟ้า เป็นระบบที่ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งยังเป็นระบบขับเคลื่อนที่มีความเป็นมาอันยาวนาน จาก Ferdinand Porsche ผู้ก่อตั้งบริษัท Porsche Engineering และรถสปอร์ท Porsche ได้พัฒนาระบบนี้กว่า 100 ปีมาแล้ว
ปลายศตวรรษที่ 20 Ferdinand Porsche ขณะวัยเพียง 24 ปี เขามีความเชี่ยวชาญทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน และระบบไฟฟ้า ได้เข้าร่วมบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ เพื่อพัฒนาระบบส่งกำลังไฮบริดเครื่องยนต์เบนซิน และมอเตอร์ไฟฟ้าแบบมอเตอร์ในล้อ ต่อมารถคันนั้นถูกส่งเข้าร่วมแสดงในงาน Paris World‘s Fair เมื่อวันที่ 14 เมษายน 1900 และสร้างชื่อเสียงอย่างมาก โดยเฉพาะระบบมอเตอร์ในล้อ (in-wheel hub motors) ซึ่งเป็นเรื่องแปลกใหม่ในยุคนั้น
Porsche เคยออกแบบรถไฟฟ้าในปี 1898 และต่อมาได้ออกแบบระบบมอเตอร์ในล้อ โดยใช้เวลาเพียง 10 สัปดาห์ จนได้ระบบมอเตอร์ติดตั้งในดุมของล้อหน้า ให้บริษัทผู้ผลิตรถในออสเตรีย Jacob Lohner & Co. โดยมอเตอร์แต่ละล้อให้กำลัง 2.4 แรงม้า ในรถ “Lohner-Porsche” สามารถทำความเร็วได้ 19.8 ไมล์/ชม. (31.86 กม./ชม.) ทั้งใช้ระบบเบรค 4 ล้อ ซึ่งมีไม่มากนักในรถสมัยนั้น
Porsche ร่วมงานกับ Ludwig Lohner และพัฒนาระบบมอเตอร์ในล้อต่อไป จนมีถึง 3 ขนาด มีกำลังสูงสุด 11.8 แรงม้า สำหรับใช้ในรถบรรทุก หรือรถบัส รวมถึงรถยนต์นั่งบุคคลด้วย ด้วยแหล่งจ่ายกระแสไฟแบทเตอรีตะกั่วกรด ซึ่งทำระยะเดินทางได้ 31 ไมล์ หรือ 50 กม.
Porsche ได้ออกแบบรถแข่งพลังไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ ชื่อ La Toujours Contente (“ผู้มีความสุขตลอดเวลา” ภาษาฝรั่งเศส) โดยมอเตอร์แต่ละชุดมีกำลังสุทธิ 13.8 แรงม้า ส่วนรถยนต์นั่งที่ใช้ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ในล้อที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด คือ ระบบไฮบริด
Lohner-Porsche Semper Vivus เป็นรถใช้ระบบไฮบริด ขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ในล้อ มีเครื่องยนต์เบนซินผลิตกระแสไฟเพื่อยืดระยะทาง เพื่อแก้ปัญหาสถานีชาร์จไม่พอใช้งาน (เป็นปัญหาเดียวกับผู้ใช้รถไฟฟ้าในปัจจุบัน) รถรุ่น Lohner-Porsche Semper Vivus ระบบส่งกำลังไฮบริดยืดระยะทาง ถูกผลิตจำหน่ายจำนวน 300 คัน เป็นรถยนต์นั่งบุคคล และรถแทกซี และอีก 40 คันสำหรับหน่วยดับเพลิงในเวียนนา
รถไฟฟ้าในปัจจุบันใช้ระบบมอเตอร์ในล้อตั้งแต่ปี 2566 โดย Dongfeng บริษัทผู้ผลิตรถไฟฟ้าในประเทศจีน ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งบุคคลแบบแรกที่ใช้ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ในล้อ แม้เคยมีผู้นำระบบนี้ไปใช้ในรถกระบะ Lightyear 0 และ Lordstown Endurance แต่ไม่ได้ผลิตเพื่อจำหน่าย รวมถึงรถต้นแบบ NEVS Emily GT
Ferrari บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ทได้ยื่นจดสิทธิบัตรการออกแบบระบบมอเตอร์ในล้อ ส่วน Lexus กำลังพัฒนาระบบมอเตอร์ในล้อสำหรับรถไฟฟ้าในอนาคตโดย Toyota ได้ยื่นจดสิทธิบัตรไปแล้ว