ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Rivian จะขยายสายการผลิตรถลุยด้วย R3 รถซับคอมแพคท์ และ R2 รถคอมแพคท์ วางตำแหน่งต่ำกว่ารถกระบะ R1T และรถเอสยูวี R1S โดย R2 ถือว่าเป็น R1 ย่อส่วน ส่วน R3 ที่เร้าใจด้วยสมรรถนะสุดร้อนแรง พร้อมบอดีทรงแฮทช์แบคสไตล์โอลด์สคูล ฝาท้ายเปิดได้ พร้อมราคาสุดห้ามใจ
Rivian ประสบความสำเร็จกับ R1S และ R1T ด้วยยอดขายปี 2567 เกินกว่า 50,000 คัน มีราคาเริ่มต้นระดับ 70,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2.36 ล้านบาท) แต่เพื่อความมั่นคงในระยะยาว จึงต้องขยายฐานลูกค้าด้วยรุ่นราคาต่ำกว่า
R2 และ R3 ที่มีขนาดเล็กกว่า Rivian ต้องพัฒนาพแลทฟอร์มใหม่ สำหรับรถขนาดเล็ก และขนาดกลาง สามารถเลือกติดตั้งแบทเตอรีได้ 2 ขนาด อย่างรุ่น R2 แบบมอเตอร์เดี่ยว จะมาพร้อมแบทเตอรีขนาดใหญ่ ทำระยะเดินทางได้ถึง 300 ไมล์ หรือ 483 กม. ส่วน R3 ขนาดเล็กกว่าจะมีระยะเดินทางไกลกว่า
ระบบส่งกำลังของ R3 และ R2 มีให้เลือกทั้งมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ พิเศษสุดด้วย R3X สุดร้อนแรง และเน้นความสนุกสนานในการขับขี่ ด้วยระบบขับเคลื่อน 3 มอเตอร์ โดยใช้มอเตอร์จาก R2 จำนวน 2 ชุดแยกขับเคลื่อนเพลาขับล้อหลัง, และมอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า ขณะนี้ยังไม่แจ้งพละกำลัง อาจอ้างอิงจากรุ่น R1T และ R1S รุ่น 3 มอเตอร์ มีกำลังรวมสุทธิที่ 625 กิโลวัตต์/850 แรงม้า และแรงบิด 1,495 นิวทันเมตร/152.5 กก.ม.
กว่าจะถึงเวลาผลิตรุ่น R3 และ R3X ต้องใช้เวลาอีกนาน ตลาดรถไฟฟ้าอาจมีการเปลี่ยนแปลงอีกมาก บริษัทจึงเน้นการทำยอดขายของ R1 ทั้งสองรุ่นไปก่อน จากนั้นจึงผลิต R2 และ R3 ต่อไป
Rivian R3 และ R3X จะวางตลาดช่วงต้นปี 2570 เป็นอย่างช้า เริ่มด้วยรุ่น R3X ก่อน แล้วตามมาด้วย R3 ซึ่งเป็น Rivian ที่มีราคาต่ำที่สุดที่ 37,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.24 ล้านบาท ส่วน R3X ต้องจ่ายเพิ่มอีก 10,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 3.4 แสนบาท จนมีราคาใกล้กับ R2 ระดับกลาง ที่วางตลาดก่อนด้วยรุ่นปี 2569